ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เสียงนาฬิกาดัง เมื่อถึงเวลาที่เราตั้งขึ้นเมื่อคืนเช้าวันนี้ก็เหมือนทุกๆวันที่เอื้อมมือไปกดปิด แล้วก็นอนต่อสักพัก เฮ้อออ เมื่อคืนนอนดึกอีกแล้วทำให้ไม่อยากตื่นเลย แต่หน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบยังรออยู่
ลุกขึ้นมามองไปนอกหน้าต่างของห้องเช่าเล็กๆกลางเมืองกรุงมองไปเห็นผู้คนมากมาย กำลังเร่งรีบที่จะไปให้ทันเวลา เอาแล้วซิจะสายเอา เลยต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงานให้ทัน ก่อนจะไปก็ต้องเอากับข้าวที่เหลือเมื่อคืนที่ทำไว้แล้วกินไม่หมดไปที่ทำงานด้วย ทอดไก่ดำๆคงจะยังไม่บูดนะ อิอิ คิดในใจ
หลายคนอาจมองเด็กบ้านนอกคนนี้ด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทั้งการกินอยู่และหลายๆอย่าง เมืองใหญ่เมืองนี้มีคนที่สมหวังก็มากมาย ผิดหวังแล้วต้องหอบกระเป๋าใบเก่ากลับบ้านนาก็มาก ไม่รู้ว่าใครจะดีใจหรือเสียใจมากกว่ากัน คนที่เลือกที่จะหอบกายและใจกลับไปซบตักบ้านเกิด ก็น่าอิจฉาไม่น้อยที่ได้กลับไปทำตามความฝันที่มีมาแต่สมัยเก่าก่อน
กับชีวิตที่เป็นอิสานบ้านนอกบ้านนา กับคนที่อยู่เมืองใหญ่ก็ต้องดิ้นรนเพื่อหวังว่าสักวันมันจะมีวันของเราบ้าง เพราะเมื่อมองกลับไปที่บ้านนายังมีคนรอคอยความหวังจากพี่ชายของเขา รวมไปถึงคนที่เรารักมากที่สุด ที่ยังลำบากและคอยให้กำลังใจเสมอๆกับคำว่าให้อดทน
สามเดือนแรกที่เข้ามาอยู่ในบางกอกกลับมาห้องทีไร ความเหงาและอ้างว้างมันช่างทำให้น้ำตาจะไหลออกมาทุกครั้ง แต่ความอดทนที่มีอยู่ก็มากพอที่จะอดทนสู้ต่อ กำลังใจหนึ่งเดียวที่มีอยู่ทุกครั้งที่ท้อคือพ่อและแม่เท่านั้น เสียน้ำตาให้ใครต่อใครมาก็มากมาย เจอคนหลอกหลวงมาก็เยอะสุดท้ายก็มีเพียงพ่อกับแม่ที่อยุ่ข้างเราเสมอ เลยพาให้เราคิดไปว่าจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้ใครนอกจากพ่อและแม่เราอีกแล้ว อุ่ยย ความคิดเดิมๆที่อยู่ในใจก็คิดขึ้นมาอีกแล้ว
บ่าวจันทร์นั่งคิดเรื่องเดิมแบบนี้ทุกครั้งที่นั่งรถเมล์ไปทำงาน ระหว่างที่ใครหลายๆคนเร่งรีบที่จะแย่งกันขึ้นรถเบียดเสียดกัน ไม่รู้ใครเป็นใครแต่ก็น่าจะเป็นคนไกลบ้านเหมือนกันแทบทั้งนั้น บนรถไม่มีใครพูดกันเลยต่างจากบ้านเราจัง ความคิดเดิมมาอีกและ ทั้งๆที่เอามาเปรียบกันไม่ได้เพราะที่นี่ใครต่อใครไม่รู้จะให้คุยกันได้ยังไง ไม่รู้จักกันต่างคนต่างหน้าบึ้ง บางคนก็คุยโทรศัพท์บางคนก็หลับบนรถ
นั่งบนรถได้สักพัก รถติดอีกและ วันนี้คงสายอีกแน่ๆเลยมองไปข้างๆรถเมล์รถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดข้างๆรถเมล์ที่เรานั่ง แต่เอ๋คนขับใส่เสื้อเหมือนเราเลย อ๋อพนักงานสำนักงานใหญ่เสื้อสีนี้คงไม่มีืี่ที่อื่น เขาก็คงจะสายเหมือนกันวันนี้ ต่างกันที่เขานั่งรถเก๋งคันงาม เรานั่ง24หน้าต่าง มองไปริมทางเท้าที่เด็กนักเรียนพากันเร่งรีบเพื่อจะเข้าเรียน ก็เลยนึกถึงตัวเองโรงเรียนดอนบอสโก ก็อาชีวะนี่นาเราก็เรียนจบอาชีวะทำให้เข้าใจเขาเหล่านั้นเป็นอย่างดีทั้งการแต่งตัว คำพูดคำจา
นึกขึ้นได้อีกทีก็ใกล้จะถึงที่ทำงานแล้วซินะ นั่งคิดอะไรเพลินๆ ก็ถึงแยกที่เราจะลงแล้วหล่ะ ต้องเดินเข้าไปอีกตั้งสองป้ายรถเมล์แน่ะ ระหว่างเดินเข้าไปก็คิดเรื่องงานเบื้องหน้าที่ต้องเจอ เพื่อนร่วมงานที่เราไม่เข้าใจเขาซะที ทำใจอยู่นานแต่ก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเราหรือเขาแต่ก็ต้องโทษตัวเองไว้ก่อนว่าเราทำยังไม่ดีพอแหล่ะ ถึงเป็นแบบนี้คงต้องพยายามทำให้ดียิ่งขึ้นๆ คงจะเป็นทุกที่เลยหล่ะมั้งที่เพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไรทำตามหน้าที่เราไปแล้วกัน
ความสุขที่เกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆบางวันก็มีความสุขมีรอยยิ้มที่ได้จากบ้านมหา รู้จักบ้านมหาก็สองปีกว่าจะสามปีเดือหน้าแล้วหล่ะ แต่ก็พึ่งได้เข้ามาเป็นสมาชิกแค่ไม่กี่เดือน ก็ได้รู็จักเพื่อนเพิ่มขึ้นมากมาย มีความสุขมากขึ้น พร้อมที่จะเจอกับปัญหา
ขอบคุณทุกท่านในบ้านมหาที่มีสิ่งดีๆมอบให้กันมากมาย ขอบคุณคำแนะนำดีๆจากพี่อ้อย พี่หน่อย พี่พร พี่หญิง พี่เสี่ยวออสติน คุณหนุ่ย และทุกๆท่านที่แบ่งพื้นที่ให้บ่าวจันทร์ ถ้าขอบคุณทุกคนคงสามวัน อิอิ++
Bookmarks