พอดีเห็นการพูดคุยประเด็นนี้ที่เว็บบ้านไทยในสวีเดน เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดี
คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของใครที่อยากมาขายแรงงานต่างแดนค่ะ
ขอก๊อปมาแปะเลยนะคะ เป็นกระทู้ที่ตั้งถามเพราะความสงสัยของคุณ "enla"
ส่วนรายละเอียดตามนี้ค่ะ


มันคือความจริงเหรอค่ะเรื่องรายได้ กับการเก็บผลไม้นิ ใครช่วยยืนยันหน่อยค่ะ เก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์-สวีเดน 3 เดือนกับเงินเก็บ1แสนกว่าบาท

อ่านที่มาที่ไปเลยค่ะ
อีกอันค่ะ

ธ.ก.ส.ตีฆ้องสินเชื่อแรงงานเก็บผลไม้ เผยฟินแลนด์-สวีเดนอ้าแขนรับอื้อซ่า

การ เก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์-สวีเดน ส่วนใหญ่จะเป็นผลบลูเบอรี่และเห็ด โดยใช้ ระยะเวลาในการรับจ้างทำงานประมาณ 70-80 วัน เก็บวันละ 20 กิโลกรัม หากเกษตรกรอยู่ทำงานจนครบจะมีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 178,000 บาท ...

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการรักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้ร่วมมือกับกรมการจัดหางานสนับสนุนให้เกษตรกรเดินทางไปรับจ้างเก็บ ผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ โดยกรมการจัดหางานจะเป็นผู้คัดเลือกบริษัทที่จะดำเนินการนำเกษตรกรเดินทางไป รับจ้างในประเทศดังกล่าว ส่วน ธ.ก.ส.จะสนับสนุนในด้านเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเดินทาง ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ โดยเกษตรกรลูกค้าหรือสมาชิกในครอบครัวที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศ สวีเดน วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 75,000 บาท ส่วนประเทศฟินแลนด์วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 65,000 บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะคิดอัตราดอกเบี้ยชั้นดี 6.75% ต่อปี

ทั้งนี้ ตั้งเป้าเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 4,500 ราย วงเงินกู้ 300 ล้านบาท โดยเป็นเกษตรกรที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ และชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ใช้บริการสินเชื่อแล้ว 99 ราย จำนวนเงิน 6.4 ล้านบาท และมีกำหนดเดินทางเป็นชุดแรกปลายเดือน มิ.ย.นี้ "ต้องการเกษตรกรไปทำงานรับจ้างเก็บผลไม้ที่ประเทศดังกล่าวจำนวน 7,000 ราย ซึ่งขณะนี้มีบริษัทจัดหางานที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 5 บริษัท โดยมีเกษตรกรทั้งสิ้น 4,000 ราย และจำนวนที่เหลือจะเป็นของบริษัทจัดหางานอื่นๆที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ"

ทั้ง นี้ การเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์และสวีเดน ส่วนใหญ่จะเป็นผลบลูเบอรี่และเห็ด โดยใช้ ระยะเวลาในการรับจ้างทำงานประมาณ 70-80 วัน และเก็บผลไม้ป่าวันละ 20 กิโลกรัม ซึ่งหากเกษตรกรอยู่ทำงานจนครบระยะเวลาดังกล่าว จะทำให้มีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วประมาณ 178,000 บาท และเมื่อหักจำนวนเงินที่กู้จาก ธ.ก.ส.แล้ว จะทำให้เกษตรกรเหลือรายได้ประมาณ 1 แสนกว่าบาท.