ป้าดๆๆๆๆๆ
ป้าดๆๆๆๆๆ
ของแต่งกลิ่นที่ขอเสนอไว้ (แต่ไม่รับประกันความสำเร็จ) คือ ใบไผ่ และ ใบข้าว.... เหตุผล คือ ใบไผ่ ก็นึกถึงสุราไผ่เขียวของจีน ที่หมักโดยมีใบไผ่เป็นส่วนประกอบ... ส่วนใบข้าว ก็นึกถึง ตอนทำนา ถอนกล้าเสร็จแล้ว ก่อนดำ ก็จะตัดปลายกล้าทิ้งไว้บนคันนา พอปลายกล้าโดนแดด กลิ่นมันหอมน่ากินจริงๆ ก็เลยคิดว่า ถ้าเป็นหล้าโทไผ่เขียว น้ำออกเขียวๆ มีกลิ่นหอมใบไผ่กรุ่นๆ คงน่าลิ้มรสไม่น้อย... ถ้าเป็นเหล้าโทใบข้าว น้ำใสนวลๆ มีกลิ่นหอมใบข้าวกรุ่นๆ คงน่าจิบไม่น้อย เช่นกัน
ข้าวสำหรับหมักสาโท ที่ขอเสนอไว้เช่นกัน (และไม่รับประกันความสำเร็จเช่นกัน) คือข้าวเม่า ใช้ข้าวเม่าหมักสาโท (หมักข้าวหวาน ก็น่ากินเนอะ) เป็นเหล้าข้าวเม่า น้ำเขียวใส มีกลิ่นหอมข้าวเม่ากรุ่นละมุน คงน่าดื่มไม่น้อย
หากข้าพเจ้าเป็นคนชอบกินเหล้าโท ก็คงจะลองทำ ลองวิจัย และหมักไว้ต้อนรับจอมยุทธทั้งหลายอยู่หรอก แต่ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบดื่มเหล้า จึงขี้เกียจทดลองทำ... สะล่ะล่ะ
ข้าวที่เหมาะแก่การเอามาหมักเหล้าโท ที่นิยมใช้กัน กะคือ ข้าวเก่า
ข้าวเก่า ในที่นี่บ่ได้หมายถึงข้าวที่นึ่งไว้จนเก่าจนบูดเด้ แต่เป็นข้าวเหนียวเก่าค้างเล้าที่บ่ทันได้เอามากิน เป็นข้าวที่เกี่ยวแล้วมาบ่ต่ำกว่า 1 ปีหรือ 2 ปีขึ้นไป จนข้าวเก่าที่สีออกมา มันเป็นสีเหลืองพุ่นหละ
เหตุผลที่เฮานิยมเอาข้าวเก่ามาหมักสาโทกะอาจสิเพราะว่า ข้าเก่าเมื่อเฮาเอามานึ่งกินมันสิมีสีเหลือง แล้วกะแข็งนำ กินบ่แซบ เอานิยมกินข้าวใหม่ ที่ขาวๆอ่อนๆหอมๆหลายกว่า กะเลยเอาข้าวเก่ามาเฮ็ดเหล่าโท หรืออีกเหตุผลหนึ่งที่นิยมเอาข้าวเก่ามาเฮ็ดเหล้าโทกะอาจสิเป็นเพราะว่า ในข้าวเก่า วิตามินหรือเกลือแร่ต่างๆในข้าวอาจสิสลายโตไปเหมิดแล้วเหลือไว้แต่แป้ง เหมาะกับการหมักของเชื้อราที่มาย่อยสลาย(อันนี่เดาเอาเด้อ)
เหล้าโทที่หมักมาจากเข้าเก่า สิได้น้ำเหล้าที่เหลืองอุ่ยหุ่ย น่ากินดี
สำหรับข้าวอีกอย่างหนึ่งที่เอามาหมักเหล้าโทแล้วสิได้น้ำเหล้าที่มีสีสวยงามน่ากิน นั่นกะคือ ข้าวก่ำ เหล้าโทจากข้าวก่ำ แซบอีหลีเด้อ สิบอกให่ แซบคัก โฮ้...เมาจนแผ่นดินปิ้นพุ่นหละเว่ย
อีกเหตุผลหนึ่งที่นิยมนำข้าวเก่ามานึ่งหมักเหล้าโท น่าจะคือว่า ข้าวเก่า นึ่งแล้ว ค่อนข้างแข็ง ไม่นิ่ม ไม่ค่อยติดกัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการผสมกับแป้งเหล้า นั่นคือ หากเป็นข้าวใหม่ เนื่องจากยังมียางอยู่มาก จึงเหนียวมาก ผสมกับแป้งเหล้ายาก แต่ข้าวเก่า ยิ่งเก็บไว้นาน ยางข้าวจะหายไป เม็ดข้าวแยกเม็ดได้ดี จึงผสมกับแป้งเหล้าได้ง่าย....
การหมักน้ำหวานให้เป็นเหล้าด้วยแป้งยีสต์
การทำก็ไม่ยาก เพียงแค่
- ต้มน้ำตาลให้ละลาย ถ่ายใส่ภาชนะอื่นไว้
- เติมน้ำสะอาดลงไปในปริมาณพอเหมาะ ไปเพื่อปรุงรสให้หวานพอดี
- ทิ้งไว้ให้พออุ่นๆ (ประมาณไม่เกิน30องศา) หรือประมาณดื่มแล้วไม่ลวกลิ้น นั่นแหละ
- ตักน้ำหวานที่ปรุงรสแล้วใส่ภาชนะบรรจุ ประมาณ ¾ (หรือเกือบเต็มก็ได้)
- โรยผงแป้งยีสต์ (หรือเชื้อยีสต์) ลงไปพอประมาณ
- ปิดผนึกปากภาชนะให้แน่น
- นำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย....
ประมาณ 3- 5 วัน ก็นำมากินได้ (จำนวนวันขึ้นอยู่กับปริมาณของยีสต์และความหวานของน้ำ)
น้ำตาลที่นำมาต้ม.... หากต้องการให้เหล้าโทสีใสๆ ควรใช้น้ำตาลทรายขาว... หากต้องการสีน้ำตาลแดง ให้ใช้น้ำตาลทรายแดง (ซึ่งราคาถูกกว่า)
อย่างไรก็ตาม หากต้มแค่น้ำตาลเพียวๆ มาหมักเหล้า ด้วยเชื้อยีสต์บริสุทธิ์ กลิ่นและรสชาติที่ได้ อาจไม่เหมือนสาโทปกติ คือมีแอลกอฮอล์ ก็จริง แต่กลิ่นอาจไม่หอม (เพราะยีสต์ไม่มีน้ำหอม ไม่ได้กินของหอมๆ ลมหายใจเลยไม่หอม) แต่หากใช้แป้งยีสต์ที่มีสมุนไพรต่างๆ ผสมอยู่ ก็ยังจะได้รสและกลิ่นเหมือนสาโทปกติอยู่
สำหรับท่านที่ไม่พอใจ สี กลิ่น ของเหล้าโทน้ำตาลหมักนี้ ก็สามารถแต่งสี แต่งกลิ่นเพิ่มได้ โดยนำใบไม้ หรือดอกไม้ที่ให้สีตามต้องการมาต้ม เช่นสีเขียว ก็มีใบเตย ใบบัวบก เป็นต้น... ซึ่งน้ำหวานที่ใช้หมักเหล้า เป็นสีอะไร ก็จะยังคงอยู่ตามนั้น ...เว้นแต่ว่า ท่านจะใช้แป้งยีสต์สำหรับทำขนมปังมาเป็นเชื้อ เพราะ นั่น จะได้สีใสขาวนวล (เหมือนน้ำซ่าง- น้ำบ่อดิน)
ผ่าน้ำตั๊วบานนิ
การทำเหล้าอุ
เหล้าอุ ก็ใช้เชื้อแบบเดียวกับเหล้าโทนั่นแหละ แต่ขั้นตอนการทำ และส่วนประกอบนั้นแตกต่างอยู่นิดหน่อย.. ซึ่งจากที่ได้ยินฟังมา (ไม่เคยทำเอง) มีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
- นำข้าวสารและแกลบมาซาวน้ำ แช่ทิ้งไว้ 3-6 ชั่วโมง (หรือหม่าจนข้าวไหน่)
- นำข้าวและแกลบไปนึ่งให้สุก แล้วนำไปผึ่งให้เย็น
- ผสมลูกแป้งบด ในปริมาณที่เหมาะสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- นำข้าวและแกลบที่ผสมแป้งแล้ว บรรจุลงไห บีบอัดให้แน่น
- ปิดปากไหด้วยถุงพลาสติก และนำขี้เถ้าผสมน้ำปิดปาก หมักประมาณ 20 วัน
- เวลาจะกิน ก็เปิดออก เติมน้ำดื่มสะอาดลงไป ใช้หลอดดูด(ที่มีที่กรองกันแกลบ) ดูดกินได้เลย
บันจุใส่ไหแบกไปกินหน้าฮ่านฟังลำนำกัน ขอบคุณคับที่อ่านแล้วนำไปเฮ็ด รับรองเฮ็ดแล้วเป็นแท่แน่นอน กินให่ฮู้จักเวียกจักงานแน่ละบ่แม่นพากันกินแล้วปี้นเพาไต้ฮ่มบักหว่าเด้อพีน้อง
[wma=380,50]http://wcs.hopto.org/mount/file/052%20%ca%d2%c7%cd%d2%ba%b9%d3%e1%a1%e8%a7.wma[/wma]
มาเต้นหน้าฮ้าน เด้อ
โอ่......................คนรู้จริงเนาะ ปารามาจารย์เรื่องสาโทเนาะ อิ อิ คักอิหลีคะ ยามบุญบ้านเฮากะกินยุสาโท หวานๆ แซ่บๆๆ ....เมิดแก้วกะหัวทิ่ม พุ้นแหล่ว 8) 8) 8) 8)
กระเบื้องจะฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม เมฆจะหล่นฟ้าปลาจะกินดาว ลาวจะครองเมือง ::)
8) จอมยุทธ สาโท ตัวจริงเสียงจริง 8) ผมก่าซิรอกินดอกเด้อครับ คือซิเฮ็ดบ่เป็นดอก
โอ้ เมาขี้เหล้าโท
ขอมัก สุดยอด เหล้าขาว รองลงมาคือสาโท
แต่ก่อนตรวจจับ นำนั่งเฝ่าแก้วเหล้าโทจนเมาจนแล่นหนีบ่เป็นนำคับอิอิ :D :) :) :)
กินกับป่นกุ้งเบิ่งเด้อ น้อ 8) 8) 8)
หัวใจอยู่กลับความเหงาและเสียงเพลง สาวน้ำพอง สะเอื้อน
Bookmarks