กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค

    มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค



    มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค



    จากการศึกษาทางประวัติศาสตร์ได้มีการค้นพบว่า มนุษย์ให้ความสำคัญกับหินและแร่ธาตุต่างๆ นับเป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว โดยการใช้หินเป็นเครื่องประดับ เครื่องสำอางและใช้เป็นยารักษาโรค หินบางชนิดมีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับจิตใจ สามารถบำบัดรักษาอาการบางอย่างได้ มีการใช้หินเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อปกป้องคุ้มครองอันตรายในการเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำ เชื่อกันว่า หินที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ มีสีสันสดใสจะนำมาซึ่งความโชคดีให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ในทางตรงกันข้าม หินที่มีสีหมองมัวจะนำโชคร้ายมาสู่ผู้ครอบครอง บางครั้งจะทำหน้าที่เตือนภัยถ้าหินนั้นมีรอยร้าวหรือแตกหัก

    หินแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความอาถรรพณ์ มหัศจรรย์และความลึกลับ หินบางชนิดใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย เพื่อบ่งชี้ถึงสถานะทางสังคม ในสมัยโบราณหินบางชนิดใช้กันเฉพาะในราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น


    ความเชื่อในเรื่องของการใช้หิน เพื่อเป็นเครื่องรางของขลังนั้นมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ เนื่องจากมีความเชื่อกันว่า หินบางชนิดเมื่อมีการนำมาคำนวณกับ วัน เดือน ปีเกิด ของผู้สวมใส่ จะสามารถนำโชคและเพิ่มพลังแห่งการปกป้องคุ้มครองรวมทั้งขจัดภัยอันตรายให้แก่เจ้าของได้ จึงนิยมที่จะมอบหินที่ตนเชื่อว่า เป็นเครื่องรางคุ้มภัยให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพราะเชื่อว่า หินหรือรัตนชาติทุกก้อนมีรังสีเช่นเดียวกับดาวเคราะห์อื่นๆ และรังสีนั้นมีผลต่อมนุษย์ ความเชื่อนี้มีมากในแถบเอเชีย อินเดีย อียิปต์ รวมถึงไทยด้วย จึงได้มีการนำหินที่มีค่าและหายากหรือที่นิยมเรียกกันว่า "พลอย" มาใช้สวมใส่ให้ถูกโฉลกกับ วัน เดือน ปีเกิด ของตนเอง เพื่อความเป็นสิริมงคล เช่น

    ? อะความารีน

    อะความารีน (Aquamarine) เป็นพลอยสีฟ้า หรือสีน้ำทะเล นักเดินเรือในสมัยโบราณเชื่อว่า เป็นหินที่นำโชคมาให้ ใช้ติดตัวยามเดินทางจะสามารถบรรเทาอาการเมาคลื่น และอุบัติภัยทางน้ำได้

    ? อาเกต

    อาเกต (Agate) (Agate) หรือหินโมรา เป็นหินที่มีหลายสี มีลักษณะเป็นหินลสยหลากหลายทั้งทึบและใส แตกต่างกัน ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า สามารถป้องกันภยันตรายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ เป็นตัวแทนของทรัพย์สินและเพิ่มพูนความร่ำรวย

    ? ปะการัง

    ปะการัง (Coral) (Coral) เป็นหินที่ได้มาจากปะการังสีแดง เชื่อกันว่า ให้พลังในการปกป้องคุ้มครองเมื่อยามเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางไกลจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง



    มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค


    อะความารีน (Aquamarine)
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย auddy228; 29-06-2009 at 23:26.

  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค 2

    มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค 2


    มหัศจรรย์แห่งหินนำโชค 2



    มีความเชื่อว่าหินมีความสัมพันธ์กับปีเกิด และช่วยเสริมดวงในด้านต่างๆ
    ชนเผ่าหลายเชื้อชาติเชื่อในเรื่องของการใช้หินเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ซึ่งมีมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หินสีต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้า รวมถึงในพิธีกรรมความเชื่ออื่นๆ อย่างหลากหลาย เช่น

    ? ชาวอียิปต์โบราณรู้จักความมหัศจรรย์ของ ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) มานานหลายศตวรรษแล้ว โดยมีความเชื่อว่า ลาพิส เป็นหินแห่งสวรรค์และพลังของเทพเจ้า เป็นหินที่ชี้นำให้โมเสส ได้ร่างบัญญัติ 10 ประการขึ้นมา เป็นหินแห่งความรู้ และสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง ให้พลังคุ้มครองที่สูงมาก มีการนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางโดยการบดให้เป็นผง สำหรับตกแต่งดวงตาให้สวยงาม และยังเชื่อว่า เมื่อนำผงลาพิส ไปผสมกับน้ำในแม่น้ำไนล์แล้ว จะเป็นน้ำยาล้างตาที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้ดวงตาสดใส และใช้เพื่อการถอนพิษหรือบำบัดอาการที่เกี่ยวกับการระคายเคืองในดวงตา จึงนิยมพกพาผงบดจากลาพิส ติดตัวไว้เสมอ

    ? ชาวอินเดียนแดงหลายเผ่าเชื่อว่าต้นไม้และหิน มีวิญญาณสิงสถิตอยู่ เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) และ อำพัน
    อำพัน (Amber) (Amber) เป็นหินที่เผ่านาโวนำมาใช้ในพิธีเรียกฝน เผ่าอาปาเช่นำหินชนิดนี้มาบดให้ละเอียดแล้วใช้เป็นยาสำหรับบำบัดโรคต่างๆ ตามความเชื่อของเผ่าพันธุ์

    ? ชนเผ่าอะบอริจิน (Aborigine) ในประเทศออสเตรเลียเชื่อว่า ภายในคริสตัล มีวิญญาณของเทพเจ้าแฝงอยู่ จึงใช้ หินคริสตัลสายรุ้ง (Rainbow Crystal) ในพิธีขอฝนจากเทพเจ้าเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน

    ? ชาวบาบิโลนก็มีความเชื่อในพลังอำนาจของหิน ด้วยการใช้หินในการทำนายโชคชะตาราศี

    ? ชาวสเปนในอเมริกากลางและอเมริกาใต้มีความเชื่อเรื่องการนำหินมารักษาโรค ด้วยการนำหินมาสัมผัสตามร่างกายของผู้ป่วย

    ? ในประเทศจีนนิยมใช้เครื่องประดับที่ทำจากหยก เพื่อเป็นเครื่องรางสำหรับการมีอายุยืนยาว แต่ในแถบอเมริกากลางเชื่อว่าหยกที่บดละเอียดนำมาใช้เป็นยาบำรุงกำลังที่ดี


    ? ควอร์ตซ์ใสไม่มีสี (Rock Crystal) ปัจจุบันนิยมนำมาทำลูกปัดและแกะสลักเป็นรูปต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบทบาทเป็นอย่างมากในทางวิทยาศาสตร์ เช่น ใช้ควบคุมความถี่ของคลื่นวิทยุและความเที่ยงตรงของนาฬิกา อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้หลายชนิดในทางการแพทย์ก็ต้องอาศัยคลื่นรังสีของคริสตัล เช่น เครื่องมือทางจักษุวิทยา ใช้ทำเลนส์แว่นตาและเลนส์กล้องจุลทรรศน์ เป็นต้น

    ? เพทาย

    เพทาย (Zircon) (Zircon) พบได้หลายสี แต่ที่สำคัญคือ สีแดงออกน้ำตาลและสีฟ้าใสๆ เป็นหินที่รู้จักกันดีมาตั้งแต่สมัยอดีต ในยุคปัจจุบัน Zircon oxide สามารถนำไปใช้ทำวัสดุดินเผาเคลือบทุกชนิด ทำวัสดุทนไฟ เป็นฉนวนป้องกันความร้อน ทำไส้หลอดไฟฟ้า เครื่องกรองรังสี X เป็นต้น โลหะของ Zirconium ที่บริสุทธิ์นั้นได้ถูกนำไปใช้ในการสร้างเครื่องกำเนิดปฏิกรณ์ปรมาณู

    ? เพชร

    เพชร (Diamond) (Diamond) ใช้สำหรับเป็นผงขัดในการเจียระไนเพชรพลอยต่างๆ ใช้ตัดเพชรด้วยกันหรือตัดแร่ ตัดกระจก ฯลฯ เพชรที่มีสีดำและทึบแสง (Cabonado) ใช้ฝังในเหล็กเพื่อสำหรับเป็นหัวเจาะหินแข็งๆ หรือใช้ในอุตสาหกรรมประเภทอื่น



    1. อเมทิสต์

    อเมทิสต์ (Amethyst) (Amethyst) : หินแห่งจิตวิญญาณที่สูงส่ง

    อเมทิสต์เป็นหินที่มีสีม่วงอ่อนไปจนถึงม่วงเข้ม เป็นหินที่มีพลังในการถ่ายทอดสูง เพิ่มความไวของการรับรู้ทางประสาทสัมผัส (Sense) ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้จิตใจสงบและก่อให้เกิดสมาธิ ชาวตะวันตกเชื่อว่า สีม่วงเป็นสีที่ให้พลังทางจิตสูง พระที่มีตำแหน่งทางศาสนาสูงจะนิยมมีสิ่งของที่มีสีม่วงติดตัวไว้เสมอ พระนิกายคาทอลิกจะสวมแหวนที่มีหินนี้ตอนทำพิธีในโบสถ์ Amethyst เป็นคำในภาษากรีก แปลว่าว่า ไม่เมา ชาวโรมันและชาวกรีกโบราณจึงมีความเชื่อกันว่า ถ้าดื่มสุราขณะที่สวมแหวน Amethyst อยู่จะไม่ทำให้เมาสุรา สามารถควบคุมอารมณ์ของคนเมาได้ นอกจากนั้นอเมทิสต์ยังมีคุณสมบัติในการช่วยขจัดความเครียด รักษาโรคนอนไม่หลับ หรือช่วยปลอบใจคนที่ฝันร้าย

    2. เทอร์ควอยซ์

    เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) (Turquoise) : หินแห่งพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์

    เทอร์ควอยซ์เป็นหินสีเขียวไข่กาหรือสีน้ำทะเล มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หินมูลนกการเวกชาวอินเดียนแดงเผ่าต่างๆขนานนามเทอร์ควอยซ์ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งท้องฟ้า เป็นดั่งลมหายใจของชีวิตและวิญญาณ จึงสวมใส่เทอร์ควอยซ์ ไว้เป็นเครื่องประดับบนร่างกาย แต่ในอียิปต์มีความเชื่อว่าหินนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสุริยเทพ เป็นตัวแทนของพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรค

    3. โกเมน

    โกเมน (Garnet) (Garnet) : หินแห่งชัยชนะ

    โกเมนเป็นหินที่มีหลายสีแต่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสีแดง โกเมนมีความแตกต่างกันไปตามส่วนผสมของแร่ธาตุ อาจมีสีเขียวหรือสีเทา ในสมัยโบราณใช้โกเมนเป็น เครื่องรางแห่งชัยชนะและอำนาจ ซึ่งจะต้องเป็นหินสีแดงเท่านั้น โกเมน หรือ Garnet ( กรานัตส์ ) เป็นคำในภาษาละติน หมายถึงเมล็ดพันธุ์ เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนความอยู่รอดปลอดภัยของนักเดินทาง นอกจากนั้นยังเป็นหินที่ให้ความแข็งแกร่งแก่ร่างกาย ความกระตือรือร้น ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติยศและช่วยปรับสมดุลด้านความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

    4. หยก

    หยก (Jade) (Jade) : หินแห่งความศักดิ์สิทธิ์

    ชาวจีนโบราณเชื่อว่า หยกเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องคุ้มครอง นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมความก้าวหน้า ช่วยให้มีอายุยืนและสุขภาพแข็งแรง ชาวจีนจึงนิยมสวมหยกติดตัวตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้หยกยังเหมาะกับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหวและท้อแท้ เมื่อสวมใส่จะช่วยสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยทำให้จิตใจสงบ


    5. พลอยตาเสือ

    พลอยตาเสือ (Tiger's eye) (Tiger's eye) : หินตาที่สาม

    เป็นพลอยที่มีสีเหลืองเคลือบน้ำตาลดุจไหม บางครั้งมีลายคล้ายลายไม้ หรือมีลักษณะแวววับคล้ายกับลายของเสือ มีคุณสมบัติเหมือนกับตาเสือ หรือตาแมว (Cat?s eye) สามารถมองเห็นได้ในความมืด เชื่อกันว่าพลอยตาเสือช่วยในการอ่านและคาดเดาสถานการณ์ได้ล่วงหน้า ทำให้มีความหนักแน่นในการตัดสินใจ เป็นหินที่เหมาะกับการแข่งขัน

    6. ควอร์ตซ์
    ควอร์ตซ์ใสไม่มีสี (Rock Crystal) (Quartz) : พลังแห่งชีวิตและความแข็งแกร่ง

    มีลักษณะเป็นหินใสไม่มีสี เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หินคริสตัล (Rock Crystal) คำว่า Crystal เป็นคำในภาษากรีก หมายถึงน้ำแข็งที่ถูกประดิษฐ์โดยพระเจ้า เชื่อกันว่า คริสตัล เป็นฟอสซิลของน้ำบริสุทธิ์ บางชนิดมีสายแร่เส้นบางๆ คล้ายเข็มเย็บผ้ากระจายอยู่ภายในมีหลายสี เช่น
    o สีทอง เรียกว่า ไหมทอง
    o สีฟ้า เรียกว่า ไหมฟ้า
    o สีดำ เรียกว่า แก้วขนเหล็ก เป็นต้น



    7. ลาพิส ลาซูลี

    ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) (Lapis lazuli) : หินแห่งเทพเจ้า

    ลาพิส รู้จักกันในนามของแซฟไฟร์ (Sapphire) เป็นหินที่มีสีน้ำเงินครามและสีน้ำเงินปนเขียว ในเนื้อหินมักจะมีสีเหลืองประอยู่คล้ายกับมีทองคำแทรกในเนื้อหิน แต่ความจริงคือแร่ไพไรต์ (Pyrite) ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า หินนี้เป็นหินแห่งเทพเจ้า เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจและเกียรติอันสูงส่ง เป็นหินที่ปกป้องภยันตราย



    หลายคนเชื่อว่า หินมีพลังเพื่อช่วย
    ในเรื่องของการบำรุงสุขภาพร่างกาย
    ในอดีตมนุษย์ส่วนใหญ่มองข้ามความสำคัญของพื้นดินและหิน โดยเห็นว่า สิ่งที่ตนเหยียบย่ำอยู่นั้นเป็นสิ่งต่ำที่ไร้ค่า ซึ่งตามความเป็นจริงหากได้ลองพิจารณาดูแล้วจะพบว่าหินนั้นสูงค่า มีความสวยงามอย่างน่าพิศวง มีลวดลายและสีสันพิสดารจนน่าทึ่ง

    ปัจจุบันเสน่ห์และความสวยงามของหินที่หลายคนเคยมองข้าม ได้ทำให้หลายคนเหลียวกลับมามองอย่างพิจารณา หินจึงได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเพ่งพิศถึงความงามและประโยชน์ของการใช้สอยอย่างนานับประการ

    ประโยชน์และคุณค่าของหินยังคงมีการศึกษาและค้นหาถึงความมหัศจรรย์กันต่อไปอีก อายุของมนุษย์จำนวนหนึ่งพันคนที่สืบทอดทางสายเลือดกันมาตั้งแต่โบราณ ไม่สามารถเทียบได้กับหินก้อนหนึ่งที่มีอายุนับล้านปี มนุษย์ศึกษาข้อมูลและประวัติศาสตร์ของหินมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมันคือ กุญแจไขความลี้ลับที่ซ่อนเร้นมานานนับหมื่นศตวรรษ และเพราะความเก่าแก่นี้เองมนุษย์บางกลุ่มจึงมีความเชื่อว่าหินเป็นเสมือนเครื่องรางของขลัง เป็นศาสตร์อีกโลกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามและท้าทายเพื่อลองดี...




    ที่มาข้อมูล : สำนักหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยรามคำแหง
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย auddy228; 29-06-2009 at 23:43.

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •