7 วิธี เพื่อลดความเสี่ยงจากมะเร็งได้แก่ การไม่สูบบุหรี่ อาหารสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก เลี่ยงแดด วัคซีน และงดพฤติกรรมเสี่ยง
(1). ไม่สูบบุหรี่:
บุหรี่มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 60 ชนิด นอกจากนั้นน้ำมันดิน (tar) ในบุหรี่จะเข้าไปจับผนังทางเดินหายใจ ทำให้สารก่อมะเร็งในอากาศจับกับผนังทางเดินหายใจได้มากขึ้น
คนที่สูบบุหรี่ หรือหายใจควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไปจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งปอด หลอดอาหาร กล่องเสียง ช่องปาก กระเพาะปัสสาวะ ไต ตับอ่อน ปากมดลูก กระเพาะอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML เพิ่มขึ้น
คนที่สูบซิการ์ หรือสูบไปป์(กล้องยาสูบ)จะมีความเสี่ยงมะเร็งปอด กล่องเสียง หลอดอาหาร และช่องปากเพิ่มขึ้น
ส่วนคนที่ชอบเคี้ยวยาสูบจะเสี่ยงมะเร็งช่องปาก กระพุ้งแก้ม และเหงือกเพิ่มขึ้น
(2). อาหารสุขภาพ:
มะเร็งประมาณ 30% หรือ 1 ใน 3 มีความสัมพันธ์กับอาหาร และโรคอ้วน สมาคมโรคมะเร็งอเมริกันแนะนำให้กินอาหารจากพืชให้มากขึ้น ลดอาหารจากสัตว์ลง
อาหารสุขภาพควรเริ่มด้วยธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ เพิ่มอาหารจากถั่ว ถั่วเหลือง กินผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ทัพพี
ผักตระกูลกะหล่ำ (cruciferous) เช่น บร็อคโคลี กะหล่ำ ฯลฯ อาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่ได้
อาหารไขมันสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก และมดลูก ควรลดไขมันในอาหารลง โดยเฉพาะไขมันสัตว์
(3). งดเหล้า:
แอลกอฮอล์(เหล้า เบียร์ ไวน์...)มีความสัมพันธ์กับมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร ฯลฯ การงดเหล้าจะดีที่สุด
ถ้างดไม่ได้... ควรจำกัดปริมาณ ผู้ชายไม่ควรเกินวันละ 2 ดริ๊งค์ (1 drink ประมาณเบียร์แบบอ่อน 1 กระป๋อง) ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 ดริ๊งค์
(4). ควบคุมน้ำหนัก:
โรคอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก มดลูก รังไข่ และเต้านม
การควบคุมน้ำหนักที่ดีควรเน้นทั้งการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำอาจลดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม และลำไส้ใหญ่ได้ จึงควรออกกำลังอย่างน้อยวันละ 30 นาที
(5). เลี่ยงแดด:
แดดมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง จึงควรเลี่ยงแดดในช่วง 10.00-16.00 น. พยายามอยู่ในที่ร่มในช่วงเวลาดังกล่าวตั้งแต่เด็ก
ถ้าจำเป็นต้องออกไปอยู่กลางแดด... ควรสวมเสื้อผ้าปกปิด ใช้ยากันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป
(6). วัคซีน:
วัคซีนที่มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งที่สำคัญได้แก่ วัคซีนตับอักเสบบี และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV)
วัคซีนตับอักเสบบีนิยมฉีดในเด็กแรกเกิด และผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บุคลากรสุขภาพบางสาขา ฯลฯ
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) เป็นวัคซีนที่ออกใหม่ และนิยมฉีดในผู้หญิงวัยรุ่น
(7). พฤติกรรมเสี่ยง:
พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ(ทำให้เสี่ยงมะเร็งตับ) ไวรัส HPV (ทำให้เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก หรืออวัยวะเพศชาย)
นอกจากนั้นพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศยังทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส HIV (เอดส์) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งทวารหนัก ปากมดลูก ตับ ต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเส้นเลือด (Kaposi?s)ดอาหาร กล่องเสียง ช่องปาก กระเพาะปัสสาวะ ไต ตับอ่อน ปากมดลูก กระเพาะอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือด
:) :) :)
Bookmarks