ระยะนี้หมายถึง ระยะที่ ไทยอ้ายลาว กำลังระส่ำระส่าย จากการรุกราณของ จีน ซึ่งตกอยู่ ราวสมัยราชวงศ์ถัง อันเป็นระยะ หัวเลี้ยวหัวต่อ จะขึ้น สมัยน่านเจ้า จากรูปที่ แสดงนั้น หมายเอาเฉพาะ อ้ายลาว ที่อยู่ใกล้ เขตแดนของจีนหรือ อาจจะเป็น ยูนาน ตอนเหนือก็ได้ พวกไทยเหล่านี้คงอยู่ในระยะ ?เตรียมอพยพ?จากการสันนิษฐาน ของ หลวงวิจิตรวาทการ ปราชญ์ผู้ล่วงลับไป ท่ามกลางอันเป็น สาธารณะประโยชน์ ก็ได้ระบุถึงลักษณะแห่งการ เตรียมอพยพ ว่าน่าจะรัด ขากางเกง ทั้งชายทั้งหญิง เรื่องนี้เกี่ยวกับ ความสะดวก ในการ อพยพเคลื่อนย้าย และเดินทางเป็นอย่างดี อีกประการหนึ่ง ก็คือระยะนี้ ขาดหายไป จากประวัติศาสตร์ราว 300 ปี ไปปรากฏเอาเมื่อสมัย พ.ศ.1000 เลยทีเดียว

การแต่งกายของไทย สมัยน่านเจ้า

สมัยน่านเจ้า
ไทยสมัยนั้น เริ่มมี ความเจริญรุ่งเรือง และทราบนามของ กษัตริย์องค์แรก ( แห่งราชวงศ์ ?ตี้มง? ) ว่า ?พระเจ้าสิโลนุ? เรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ ก็ซับซ้อนขึ้น และมีผู้กล่าวขวัญ ถึงกันอยู่มากแล้วจึงของดไว้ จะกล่าวแต่เพียง การแต่งกายเท่านั้น เนื่องจาก ไทยน่านเจ้า ได้มี การจัดระบบตำแหน่งขุนนาง ขึ้น อย่างครบครัน ดั้งนั้น การแต่งกาย เพื่อเสริม ความสง่างาม ของพวกขุนนาง และทหาร จึงต้องจัดให้มีขึ้นด้วยแม้กองทัพ ก็มี ธงประจำกอง และ ประจำตัวนายทหาร ทุกคน ตลอดถึงแม่ทัพ บันดาทหาร เป็น ชายฉกรรจ์ ที่แข็งแรง ใครมีม้าก็เป็น ทหารม้า ปีหนึ่งๆ จะได้รับแจก เข็มขัดหนัง เสื้อหนัง และกางเกงโลห์ อย่างดี ทำด้วยหนังแรด

ข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ มีหนังเสือคลุมร่างกาย ผ้ารัดพุงสีทอง ชั้นสูงกว่านี้ จะได้ผ้ารัดพุง สีแดงแถบเหลือง(ทอง) ข้าราชการชั้นผู้น้อย ใส่เสื้อแบบเสื้อกั๊ก(ไม่มีแขน) ด้านหน้า มีลายปัก หรือห้อยคล้องคอ บอกยศตำแหน่ง นอกจากนั้น ยังมี ทหารรักษาพระองค์ ซึ่ง มาจากทายาท ในตระกูลขุนนางผู้ใหญ่ พวกนี้น่าจะเก่งใน การยิงเกาฑัณฑ์ เพราะต้อง คอยคุ้มกันกษัตริย์และ ควบคุมกองทหารกองหนึ่ง ต่างหาก มีทหารอีกพวกหนึ่ง ควบคุมดูแล อยู่ทางแถบแม่น้ำโขง (ตอนเหนือ) เรียกตามชื่อเมืองว่า ?ชาวจุ่ยม่าน? สวมเสื้อเกาะอย่างสั้น เฉพาะหน้าอกและบริเวณท้อง (หนัง) สวมหมวกสี (หลายสี) ประดับขนหางวัวหรือหางแมว (กระรอก) เนื่องจากมีความกล้าหาญ จึงเป็นทหารกองหน้า ในสงคราม

หญิงไม่ผัดหน้า เขียนคิ้ว แต่ทาผมด้วยน้ำจากต้นหม่อน สตรีสูงศักดิ์ นุ่งห่ม ซิ่นไหม ย้อมสีสวยงาม บนเอวมีวิ่นไหม ประดับอีกผืนหนึ่ง (ไม่ใช่ย้ำคาดเอว) เกล้าผมสูงบางที ประดิษฐ์ผมเปียห้อย แล้วม้วนไว้ด้านหลัง ต่างหูทำด้วยไข่มุก ทับทิม หรืออำพัน นิยมประดับดอกไม้