แฟนเพลงโล่งอก "ทาทา ยัง" เป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่ใช่หวัดพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะที่อดีตดาราค่ายไฟว์สตาร์ "เบียร์-อัฎฐพล" เศร้า หลังผู้เป็นพ่อต้องสังเวยไข้หวัดมรณะ อัดมาตรฐานการตรวจรักษาของรัฐห่วยแตก จนพ่อต้องตกเป็นเหยื่อ นายกรัฐมนตรีชี้หวัด 2009 ระบาดแตะหลักหมื่น เตือนคนภาคเหนือและภาคตะวันตกรับศึกหนัก รมว.สาธารณสุข กำชับ ผวจ.ทั่วประเทศ ช่วยทำความเข้าใจประชาชน ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหวัด 2009 อย่างเข้มข้น เลื่อนจัดงานชุมนุมใหญ่-คอนเสิร์ต ด้านมหาดไทยเพิ่งตื่นสั่งตั้งวอร์รูมทุกจังหวัด สาธารณสุขแถลงยอดผู้ ติดเชื้อพุ่งไปเกือบ 7 พันคนแล้ว เสียชีวิตรวม 44 ศพ กทม.ประเมินคนป่วยในพื้นที่ลดลง ส.ก.จวก รพ.กทม. ไม่น่าเชื่อถือวินิจฉัยไข้หวัด 2009

ความคืบหน้าสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ยังมีการแพร่ระบาดทั่วทุกภูมิภาค ในประเทศไทยและยังไม่มีหนทางที่จะสกัดกั้นไว้ได้ โดยยังมีสถิติผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดมรณะนี้จำนวนมาก


อีกด้าน เช้าวันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชี้แจงมาตรการเร่งด่วนในการคัดกรองผู้ป่วย การป้องกัน การดูแล และรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ นายวิทยากล่าวว่า ขอให้ ผวจ.เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมการแพร่ระบาด เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ได้แพร่ระบาดไปยังภูมิภาค ลุกลามไปทั่วประเทศ รวมทั้งต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน อย่างจริงจัง และเข้าถึงให้มากที่สุด

ให้รายงานข้อมูลตรงไปตรงมา

นายวิทยากล่าวว่า คาดว่าในเดือน ธ.ค.นี้ จะมีการผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้สำเร็จ เชื่อว่าประเทศจะผลิตตามได้ในต้นปี 2553 จึงขอให้ทุกจังหวัดมีการประชาสัมพันธ์ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตอย่างตรงไปตรงมา เพราะหากมีการรายงานตัวเลขที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงจะทำให้การประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นไปได้ยาก ทำให้การวิเคราะห์ สถานการณ์คลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการคาดโทษการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ตัวเลข ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจะเป็นการสะท้อนประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งนี้จากอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เป็นสิ่งสะท้อนว่าการทำงานของรัฐบกพร่อง หรือด้อยประสิทธิภาพ แต่จากสถิติการเข้ารักษาของประชาชนตามโรงพยาบาลต่างๆ เป็นเครื่องยืนยันว่าประชาชนได้ตระหนักและให้ความสนใจกับโรค และป้องกันตัวเอง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ป่วยกว่า 6 พันตาย 44 ศพแล้ว

ตอนสายวันเดียวกัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า พบว่าโรคได้กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้ ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อเท่ากัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-21 ก.ค. 2552 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้งหมด 6,776 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา หายเป็นปกติแล้ว 6,697 ราย กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 35 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ 3 ราย เสียชีวิต 44 ราย เป็นชายและหญิง 22 รายเท่ากัน อายุต่ำสุด 4 เดือน มากสุด 91 ปี เมื่อเปรียบเทียบในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา 16-21 ก.ค. พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย เฉลี่ยประมาณ 3 รายต่อวัน ไม่แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะโรครุนแรงขึ้น

สาเหตุเสียชีวิตเพราะพบแพทย์ช้า

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตพบว่ามีปัจจัยหลักๆ 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1. จำนวนผู้ป่วยที่แท้จริงมีจำนวนมากขึ้น เห็นได้จากการเข้ารักษาตัวใน รพ.เป็นจำนวนมาก เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ คนยังไม่มีภูมิต้านทาน ทำให้จำนวนของผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 2. ผู้ป่วยส่วนหนึ่งได้รับการรักษาช้า และ 3. มีการพบผู้ป่วยภาวะปอดอักเสบเพิ่มขึ้น


คาดคนติดเชื้อจริง 5 แสนคน

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรค ขณะนี้อยู่ในช่วง ขาขึ้น เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น อัตราการเสียชีวิตก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย กระทรวงสาธารณสุขคงเน้นเรื่อง ของมาตรการลดการแพร่กระจาย โดยให้คนที่ป่วยหยุด อยู่บ้านอย่างน้อย 7 วัน ทั้งนี้จากการคาดประมาณ สำหรับ ไข้หวัดใหญ่ปกติทุกๆ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 1 คน ถ้าคาดการณ์จากตัวเลขผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ 44 ราย คาดว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อโรคนี้ในประเทศ ไทยประมาณ 5 แสนราย

WHO ยอมรับหยุดยั้งการระบาดไม่ได้

พญ.มัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในความเป็นจริงขณะนี้คือ ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคได้ สถาน?การณ์ขณะนี้คือ มีการระบาดในหลายร้อยประเทศทั่วโลก แต่ละประเทศก็มีลักษณะของการระบาดไม่เหมือนกัน บางประเทศระบาดเป็นกระจุกในเมือง แต่บางประเทศการ ระบาดกระจายไปทั่วประเทศ สิ่งสำคัญและจำเป็นที่สุดคือ เมื่อหยุดยั้งการระบาดไม่ได้ ก็ต้องป้องกันประชาชนจากการระบาดให้ได้มากที่สุด หลายประเทศได้ใช้ความพยายามหามาตรการดังกล่าว สำหรับประเทศไทยต้องยอมรับว่ามีมาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมปัจจัยเสี่ยงของการแพร่ระบาด เพราะถ้าสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคได้ เช่น ปิดโรงเรียน หรือ การหยุดงาน จะช่วยไม่ให้มีคนไข้เข้ามา รพ.จนล้น ทั้งๆที่เป็นคนไข้ที่มีอาการน้อย เพราะโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นโรคที่มีคนป่วยที่มีอาการน้อยจำนวนมาก และอาการ มากจำนวนน้อย

สุดารัตน์จวกรัฐบาลอีกระลอก

ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในขณะนี้รัฐบาลต้องยอมรับว่ามีการดำเนินการมาตรการต่างๆตามหลังการระบาด ดังนั้น ก็จะไม่สามารถช่วยอะไรได้ มาก จึงต้องควรยอมรับผลของผู้ที่จะต้องเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว และควรเตรียมหามาตรการในการควบคุมการระบาดในรอบที่สอง ซึ่งตามธรรมชาติของโรคแล้วมักจะแรงกว่าในรอบแรก และจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากยังมีมาตรการที่ยังหละหลวมเหมือนในขณะนี้เชื่อว่าจะควบคุมลำบากแน่นอน อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องให้การสนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆในการรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ด้วย

ทาทา ยัง ไม่ติดเชื้อหวัด 2009

ด้านอาการป่วยของนักร้องสาวซุปเปอร์สตาร์ อมิตา ทาทา ยัง ที่ถูกนำส่งเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ รพ.สมิติเวช เมื่อเช้ามืดวันที่ 21 ก.ค. และต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท พญ.อรอุมา บรรพมัย แพทย์เจ้าของไข้ พร้อมด้วยนายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้บริหารค่ายโซนี่ มิวสิค แถลงถึงผลการตรวจรักษาว่า แพทย์ได้เจาะเลือดไปตรวจและเอกซเรย์ปอด ผลปรากฏว่าเลือดเป็นปกติ ปอดเป็นปกติ คนไข้ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่คนไข้มีไข้สูง ไอ และเหนื่อยง่ายมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ จนมีอาการหลอดลมอักเสบ แพทย์ได้ ให้รักษาโดยให้ยาขยายหลอดลมและยาลดไข้ อาการที่เป็นไม่ถึงกับเป็นอันตราย ช่วงเช้าคนไข้ยังมีไข้สูง 38 องศา แพทย์ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด โดยจะเอกซเรย์ปอดและเจาะเลือดไปตรวจทุกวัน เพื่อไม่ให้มีอาการปอดอักเสบแทรกซ้อน และยังต้องนอนรอดูอาการในโรงพยาบาลต่อไปอีก 3-4 วัน งดเยี่ยมจนกว่าอาการจะดีขึ้น ส่วนอาการไทรอยด์ที่เป็นโรคประจำของคนไข้นั้นสามารถคอนโทรลได้ ไม่มีผลกระทบอะไรกับการป่วยครั้งนี้

ล้มป่วยเพราะโหมงานเพลงหนัก

ด้านนายพีรธนกล่าวว่า ทาทาทุ่มเทถ่ายเอ็มวี อัลบั้มเพลงสากลชุดล่าสุด "Ready For Love" ในวันที่ 22 ก.ค. จะมีเอ็มวีเพลงใหม่ออกมาให้ชมกันเป็นครั้งแรก การป่วยครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทาทาจะได้พักผ่อนไปในตัว ในอีก 1-2 เดือนหน้า จึงจะเริ่มไปโปรโมตในเอเชียและยุโรป ขณะที่มู่ เฟื่องอารมย์ ผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องสาว กล่าวเสริมว่า ทาทากังวลเรื่องงานเพราะช่วงนี้งานเยอะมาก บ่นว่าทำไมต้องมาป่วยตอนนี้ แต่กำลังใจยังดีและฝากขอโทษพี่ๆ สื่อมวลชนที่ไม่สามารถไปงานตามคิวนัดหมายได้ ส่วน "คุณหมอ" แฟนของทาทา ยัง ไม่ได้ มาเยี่ยม เพราะต้องรอผลการตรวจที่ชัดเจนและทาทาไม่ อยากให้คนอื่นติดเชื้อ

พ่อเบียร์?อัฎฐพล สังเวยหวัดนรก

ขณะเดียวกันจากกรณีที่มีหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือนต้องสงสัยว่าป่วยไข้หวัด 2009 มารักษาที่ รพ.นครธนและแพทย์ต้องผ่าท้องนำเด็กออกมาแต่ในที่สุดผู้เป็นแม่ ได้เสียชีวิตนั้น ปรากฏว่าที่โรงพยาบาลเดียวกันนี้ได้มีผู้ เสียชีวิต เพราะต้องสงสัยว่าติดเชื้อหวัดมรณะอีกราย โดยผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ชื่อนายสรรค์ชัย อัศวไกรเชษฐ์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเฮียกิมคลองถม จำหน่ายอุปกรณ์ช่างต่างๆ อยู่บ้านเลขที่ 132 ซอย พระราม 2 แยก 39 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. เป็นบิดาของเบียร์-อัฎฐพล อัศวไกรเชษฐ์ อดีตดาราค่ายไฟว์สตาร์รุ่นเดียวกับเต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ธันญ์ ธนากร โดยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ รพ.นครธน แพทย์ ระบุว่าเป็นไข้หวัดชนิด เอ/เอช1/เอ็น1 ญาตินำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเลา ศาลา 5 ย่านถนนพระราม 2

โวยโรงพยาบาลตรวจไม่ละเอียด

เบียร์-อัฎฐพลเปิดเผยว่า บิดาล้มป่วยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ด้วยอาการเป็นไข้ ไอ มีเสมหะ แน่นหน้าอก ปวดเมื่อยตามร่างกาย จึงพาไปพบแพทย์ที่คลินิกใกล้บ้าน แพทย์บอกเป็นไข้หวัดธรรมดา แล้วฉีดยาแก้อักเสบ ให้ยาลดไข้มารับประทาน หลังจากนั้น 1 วันอาการดีขึ้น พอวันที่ 3 กลับมีอาการเหมือนเดิมอีก จึงรับประทานยาตามแพทย์สั่งจนเข้าวันที่ 6 อาการไม่ดีขึ้นจึงไปหาแพทย์ที่ รพ.บางมด ใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท แพทย์ตรวจตามปกติ แล้วให้ยาพ่นขยายหลอดลม ยาแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้ไอ โดยไม่มีการตรวจเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ พอกลับมาบ้านบิดาเกิดไม่มีเรี่ยวแรง ตอนกลางคืนไข้ขึ้นหนัก แน่นหน้าอก ต้องรีบพาไป รพ.นครธน แพทย์เอกซเรย์พบว่าปอดถูกเชื้อโรคกินหายไปครึ่งหนึ่ง และบอกว่าโอกาสรอด 50/50 จึงขอร้องให้แพทย์รักษาอย่างเต็มที่ หลังจากนั้น 2 วัน ปรากฏว่าปอดหายไปถึง 95% และเกิดอาการแทรกซ้อนปอดซ้ายแตก ไตวาย กระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ก.ค. รวมเวลาอยู่ที่ รพ. 15 วัน เสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 516,995 บาท โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากไข้หวัดใหญ่ 2009

มาตรการรักษาของรัฐล้มเหลว

อดีตนักแสดงกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ระหว่างที่เฝ้าอาการบิดา เห็นผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จำนวนมาก รวมทั้งนางปาริชาติ ช่างต่อ ที่คลอดลูกแล้วเสียชีวิตและเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ผู้ที่เข้ามารักษาส่วนใหญ่ที่อาการหนัก ไม่เกิน 3 วันก็จะเสียชีวิต ขณะที่วัดที่ตั้งศพพ่อ ก่อนหน้านี้ก็มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 เช่นเดียวกัน ตนต้องการให้รัฐบาลออกมาประชาสัมพันธ์ให้ รพ.และประชาชนทั่วไปรับรู้ว่าถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ หากไปพบแพทย์ ให้ตรวจเชื้อไข้หวัด 2009 ทันทีเลย มิเช่นนั้นอาจจะเป็นเช่นพ่อของตนก็ได้ เนื่องจากโรคนี้แพร่กระจายรวดเร็วมาก ทั้งที่พ่อของตนแข็งแรง เพิ่งไปตรวจร่างกายประจำปีมาแท้ๆ แต่กลับมาเสียชีวิตเพราะโรคมรณะนี้อย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้




ที่มา ไทยรัฐ