ผาหมอกมิวาย
๑
หยาดดาว...
วูบวาบผ่านสายตานกดุเหว่า
ขณะแววตาเจ้ายังโหยหาหยดน้ำค้าง
ประกายน้ำค้างพร่างพราว แต่เหน็บหนาว
แต้มดวงตานกดุเหว่าบนกิ่งสนบนลานผาหมอก
หมอกมิวายแม้ฟ้าเปิดแล้ว
ม่านหมอกนุ่มห่มคลุมลานผาหิน
ละมุนหมอกอ้อมโอบผาแกร่ง
กอดหินกระด้างให้อ่อนนุ่มเป็นเนื้อเดียวกัน
๒
ดวงตะวันผัดหน้าทาแก้มยิ้มแฉ่ง...เบิกฟ้า
หมอกฟ้อนคลื่นเหนือชะโงกเงื้อมหิน
โตรกผาหลับ ยังมิตื่นจากภวังค์ฝัน
เจ้าดุเหว่าชะเง้อมองดวงตะวันกลมโต
ร่ำร้อง...อยากกินผลแตงโมผ่าครึ่งซีกบนขอบฟ้า
นกเหงากระพือปีกพรึ่บพรั่บ ราวจะกรีดปีกบิน
แต่แล้วพลันหุบปีกลงกอดร่างเช่นเดิม
เหนือลานผาหมอกนั้น
หมอกหนาวยังมิวาย....
๓
ลมหนาวแห้งพัดโชยมาวูบหนึ่ง
หอบกลิ่นลำดวนหอมฝันมาห่มผากผา
ดวงใจหินผาเจ้าซ่อนเร้นอยู่ ณ ที่ใด
อยู่ต่ำใต้เพิงผา หรือ แผ่นน้ำใสสีน้ำฟ้า
แว่วยินเพียงเสียงออดอ้อนใยหมอกนวล...
ที่รัก...อย่าเพิ่งจากไปในเช้านี้
๔
นกดุเหว่าร้องคร่ำครวญ
เมื่อใดหมอกหนาวจะลาจากผา
รูปเงาเบื้องหลังยังหม่นมัว
เหล่านกใดจะร้องเพลงเบิกบาน
ปลุกดวงใจผากผาให้ฟื้นตื่น...
๕
ละอองหมอกคลุมห่มปก
กลบกลืนดงกล้วยป่าในหุบผา
กลืนกินแตงโมสีแดงผ่าครึ่งซีกของนกดุเหว่า
ความเงียบยะเยือกโอบกอดร่างเจ้านกป่า
ตราบจนบุปผาระรื่นกลิ่นขจรขจาย
หอมฟุ้งถึงผาน้ำทิพย์วิมาน
กลิ่นสุคันธมาลย์สักการะมหาเจดีย์บนเชิงผาอีกฟากของผาหมอก
เมื่อนั้น...แตงโมสีแดงบนขอบฟ้าจึงแย้มแสงอุ่น
สรรพสิ่งเริ่มขับเคลื่อนวิถีแห่งชีวิต
ในอาณาจักรแห่งละมุนหมอก...และขุนเขาเขียว
ละไมฝน
Bookmarks