กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม

    วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม



    พ.ศ. 2162 สหรัฐฯ ประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก ที่เมืองเจมส์ทาวน์ รัฐเวอร์จิเนีย


    พ.ศ. 2406 วันเกิดของ เฮนรี ฟอร์ด มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ให้กำเนิด รถยนต์ฟอร์ด ที่ใช้กันมาจนทุกวันนี้




    วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคมวันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคมวันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคมวันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคมวันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคมวันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม.....................



    วันเกิดของ เฮนรี ฟอร์ด


    วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2406 วันเกิดของ เฮนรี ฟอร์ด มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ให้กำเนิด รถยนต์ฟอร์ด ที่ใช้กันมาจนทุกวันนี้



    วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม


    วันนี้ในอดีต วันที่ 30 กรกฎาคม



    เฮนรี ฟอร์ด (อังกฤษ: Henry Ford) (30 ก.ค. พ.ศ. 2406 ? 7 เม.ย. พ.ศ. 2490) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ และได้ชื่อว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนก่อให้เกิด "ชนชั้นกลาง" ขึ้นมาในสังคมอเมริกัน ฟอร์ดเป็นผู้แรกที่ประยุกต์ระบบสายพานการผลิตเข้ากับการผลิตยานยนต์ในจำนวนมาก ๆ ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ปฏิวัติการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ โดยนักทฤษฎีสังคมหลายคนถึงกับเรียกช่วงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมช่วงนี้ว่า "แบบฟอร์ด" (Fordism)

    "Quality means doing it right when no one is looking."
    "คุณภาพ หมายถึงการทำให้มันถูกต้องซะ ในขณะที่ยังไม่มีใครเห็น"

    ? เฮนรี ฟอร์ด




    ?เฮนรี่ ฟอร์ดบุรุษผู้ปฎิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ ? (ลาดับที่ 106) สาหรับคอลัมน์ ?มองซีอีโอโลก? หนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์ ประจาวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2550 โดยวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ

    รถยนต์คันแรกที่วิ่งได้โดยใช้น้ำมันขับเคลื่อนนั้นเกิดขึ้นเมื่อราว 120 ปีที่แล้วเท่านั้นและสามารถพัฒนาให้เกิดเป็นรถยนต์นานาชนิดเช่นทุกวันนี้ก็เพราะมีผู้คนมากมายที่ช่วยกันคิดและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนไม่เคยเลยสักครั้งที่การเปลี่ยนแปลงของรถในโลกจะหยุดพักแม้แต่หนึ่งนาที ผู้ที่ท้าให้โลกยานยนต์ก้าวกระโดดในช่วงเริ่มแรกของอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่งจะเกิดเพียงไม่กี่ปีก็คือชาวอเมริกันที่ชื่อ เฮนรี่ ฟอร์ด เขาได้เข้ามาเริ่มการปฎิรูปอุตสาหกรรมรถยนต์แบบที่ไม่เคยมีใครคิดหรือจะท้าได้มาก่อน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์ก้าวหน้ามากขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว วันนี้เราคงกล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมที่โตมาได้ถึงปัจจุบันนั้นเพราะมีพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงมาจากเฮนรี่ ฟอร์ดเป็นผู้บุกเบิกในช่วงสั้น ๆ เท่านั้นที่ท้าให้เกิดการเติบโตขึ้นหลายเท่าตัวเพราะถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของโลกยุคพัฒนาที่มนุษย์เริ่มเปลี่ยนจากการใช้พลังงานที่มาจากคนและสัตว์ จึงถือได้ว่าผู้ที่บุกเบิกด้านวิทยาการของเครื่องจักรหรือเครื่องไฟฟ้าในตอนนี้ประสบความส้าเร็จอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เลย และไม่เพียงแต่เฉพาะเรื่องของรถยนต์เท่านั้น เฮนรี่ ฟอร์ดยังได้มีการพัฒนาเครื่องบินอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินโดยสารหรือเครื่องบินทิ้งระเบิดก็ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการพัฒนาเครื่องบินที่ก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะมีความต้องการอย่างสูงของตลาดในภาวะสงครามที่รัฐบาลอเมริกันสั่งซื้ออย่างมากมายชนิดที่เรียกได้ว่านักบินต้องมานั่งรอเครื่องบินออกจากโรงงานเพื่อใช้ในสนามรบกันเลยทีเดียว ในแง่ของเฮนรี่ ฟอร์ดนั้นเขาเป็นนักธุรกิจที่ถือได้ว่าทุกอย่างลงตัวไปเสียหมดไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องบิน ไม่ว่าจะผลิตออกมาจ้านวนเท่าใดก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเอาเสียเลย ทั้งนี้ก็ต้องชื่นชมในวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของเขาโดยเฉพาะการมุ่งลดต้นทุนการผลิตและ


    2 ปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปจนคนที่พอมีฐานะทั้งหลายก็สามารถซื้อรถยนต์ของฟอร์ด มาใช้ได้ นั่นถือเป็นสูตรแห่งความสำเร็จที่ถือได้ว่าเฮนรี่ ฟอร์ดเป็นบุคคลที่ประสบความส้าเร็จในธุรกิจที่สุดในโลกในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งขนาดของโรงงานที่มีก้าลังการผลิตมากที่สุดหรือการที่เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกขณะนั้นเลย วิวัฒนาการของการสร้างรถยนต์ที่ปรากฏเป็นหลักฐานเริ่มตั้งแต่มีวิศวกรชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่งชื่อ นิโคลาส กูโย (Nicolas Cognot) ได้สร้างรถยนต์ 3 ล้อขึ้นเป็นคันแรกเมื่อ ค.ศ. 1719 แล่นด้วยพลังงานจากเครื่องจักรไอน้ำ นับจากนั้นก็มีผู้พยายามพัฒนารถยนต์ขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงรถยนต์คันแรกที่สามารถขับเคลื่อนด้วยน้ำมันที่ผลิตขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1885 โดยคาร์ล เบนซ์ (Carler Benz) ชาวเยอรมัน ผู้ได้รับการขนานนามว่า ?บิดาแห่งรถยนต์?แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์มากที่สุด จนกลายเป็นนักปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก ขนานใหญ่ก็คือ เฮนรี่ ฟอร์ด เขาก่อตั้ง

    บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor Company) ขึ้นมาจนกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกในยุคนั้น และเขายังได้ชื่อว่า เป็นผู้มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของ อเมริกันชนอย่างมาก เนื่องจากเขามีส่วนที่ท้าให้เกิด ?ชนชั้นกลาง? ขึ้นในสังคมอเมริกัน และนับตั้งแต่บัดนั้นเป็น ต้นมา รถยนต์จึงมิได้เป็นเพียงพาหนะที่จ้ากัดอยู่เฉพาะบรรดามหาเศรษฐีเท่านั้น แต่คนทั่วไปก็มีสิทธิ์ซื้อหามาไว้ใช้ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เฮนรี่ ฟอร์ด กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับโลกและเป็นที่รู้จักกัน ไปทั่วโลก แม้ว่าตัวเขาจะเป็นคนที่ได้รับการศึกษาไม่สูงนัก นอกจากนี้เขายังเป็นคนหนึ่งที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลกที่ไม่เคยถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เฮนรี่ ฟอร์ดได้ทิ้งทรัพย์สินจ้านวนมากมายของเขาไว้ให้กับมูลนิธิ ฟอร์ด (Ford Foundation) โดยที่ให้ครอบครัวของเขาบริหารบริษัทต่อไป

    ประวัติ
    เฮนรี่ ฟอร์ด เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1863 ในกรีนฟีลทาว์นชิพ (Greenfield Township) ใกล้ๆ กับเมืองดีทรอยต์ มลรัฐมิชิแกน


    3 พ่อของเขาคือวิลเลี่ยม ฟอร์ดเกิดที่ประเทศไอร์แลนด์ก่อนที่จะอพยพมายังสหรัฐอเมริกา ส่วนแม่ของเขาคือแมรี่ ฟอร์ด (Mary Litogot Ford) ตอนเด็กๆ เฮนรี่ ฟอร์ด ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์ม เขาท้างานในไร่เป็นประจ้าและเรียนหนังสือ ในโรงเรียนที่มีห้องเรียนเล็กๆ เพียงห้องเดียว เขาเป็นเด็กชนบทที่มีการศึกษาที่ไม่ สูงนักเขาเริ่มให้ความสนใจกับเรื่องเครื่องจักรกลและเริ่มเกลียด การท้างานในฟาร์ม เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก เขามักจะกระซิบกับพวกสัตว์ที่เขาพาไปเลี้ยงในฟาร์มว่า ?สักวันหนึ่งจะต้องมีใครบางคนที่คิดประดิษฐ์แนวทางในการท้างานที่ง่ายกว่านี้? และด้วยเหตุผลนี้เราจึงสังเกตได้ว่า เฮนรี่ ฟอร์ด มักประดิษฐ์คิดค้นบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการท้างานในฟาร์มอยู่เสมอ เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กเฮนรี่ ฟอร์ดได้เห็นรถยนต์ ที่สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยไอน้ำ ท้าให้เขาเกิดความคิดในการผลิตรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซลีน ขึ้นมา ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหลายๆ คนนั้นมักจะมาจากแรง บันดาลใจในวัยเด็ก ช่วงที่เขาเริ่มเป็นวัยรุ่นพ่อของเขาได้ให้นาฬิกาพกกับเขาเรือนหนึ่ง และพอตอนอายุ 15 ปี เขาก็มี ชื่อเสียงในฐานะที่เป็นช่างซ่อมนาฬิกาคนเก่ง เขาท้าหน้าที่ซ่อมนาฬิกาให้แก่บรรดาเพื่อนๆหลายครั้ง แต่พอเมื่อแม่ของเขาเสียชีวิตในปี ค. ศ. 1876 พ่อของเขาก็คาดหวังจะให้เขาเป็นผู้ดูแลฟาร์มต่อไป แต่เขาไม่ ชอบการท้างานในฟาร์ม เมื่อเขามีอายุได้ 16 ปี เขาออกจากบ้านเพื่อไปท้างานเป็นช่างซ่อมเครื่องฝึกหัดในเมืองดีทรอยต์ โดยเริ่มท้างานกับบริษัท James F. Flower & Bros. ระหว่างนั้นก็กลับบ้านเป็นระยะๆ เพื่อช่วยท้างานในฟาร์ม
    ค.ศ. 1882 เขากลายเป็นผู้ เชี่ยวชาญในการใช้เครื่องจักรไอน้ำของบริษัท Westinghouse พอมีอายุได้ 26 ปี เฮนรี่ ฟอร์ดก็แต่งงานกับคลาร่า เอล่า ไบรอันท์ (Clara Ala Bryant) ในปี ค.ศ. 1888 และหาเลี้ยงชีพด้วยการท้าฟาร์มและท้าโรงเลื่อย ทั้งสองมีลูกเพียงคนเดียว คือเอ็ดเซล ไบรอันท์ ฟอร์ด (Edsel Bryant Ford) ในปี ค.ศ. 1891



    4 ฟอร์ดก็ได้เป็นวิศวกรของบริษัท Edison Illuminating Company ซึ่งก่อตั้งโดย โทมัส แอลวา เอดิสัน เหตุผลที่เขาเลือกบริษัทนี้เพราะ โทมัส แอลวา เอดิสัน เป็นผู้ที่คิดค้นผลิตหลอดไฟขึ้นและยังคิดค้นประดิษฐ์สิ่งของอีกหลายอย่าง ขณะที่เขาได้พบโทมัส แอลวา เอดิสันนั้น เขาได้เล่าเกี่ยวกับการผลิตแก๊สโซลีนให้กับเอดิสันฟัง และเอดิสันก็ให้ก้าลังใจเขาพร้อมกับบอกว่าให้เขาพยายามต่อไป

    ค.ศ. 1893 เขาก็ได้รับการเลื่อนต้าแหน่งเป็นหัวหน้าวิศวกร ท้าให้เขามีเวลาและมี เงินมากพอที่จะอุทิศความสนใจทั้งหมดของเขาไปที่การทดลองส่วนตัว เขาสามารถประดิษฐ์รถยนต์สี่ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง มีชื่อว่า ?Quadricycle? หรือ ?จักรยานสี่ล้อ? ถึงแม้ว่าเฮนรี่ ฟอร์ด จะไม่ใช่คนแรกที่สามารถประดิษฐ์รถยนต์สี่ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง แต่เขาก็เป็นหนึ่ง ในผู้บุกเบิกด้านยนตรกรรมยุคแรกๆ จากเดิมที่การคมนาคมขนส่งต่าง ๆนั้นพึ่งพารถไฟ แต่ต่อมาเมื่อกิจการรถไฟตกต่ำ าไม่ได้รับความนิยมเช่นในอดีต รถยนต์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าวิถีชีวิตของคนอเมริกันมานับตั้งแต่บัดนั้นทั้งด้านการคมนาคมและอุตสาหกรรมที่หันมาพึ่งพิงรถยนต์ เฮนรี่ ฟอร์ด ได้ก่อตั้งบริษัท ?ฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี? ขึ้นในเมื่อวันที่ 16 เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1903 เมื่อก่อตั้งบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานีขึ้นมาใหม่อย่างเป็นทางการ บริษัทของเขาก็ผลิตรถยนต์รุ่นที่เรียกว่า ?โมเดลเอ? ออกมาจ้าหน่ายในตลาดรถยนต์ของเมืองดีทรอยต์ ในเวลานั้นเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ยังไม่ ก้าวหน้า ขณะนั้นในเมืองดีทรอยต์สามารถผลิตรถยนต์ได้แค่ไม่กี่คันต่อ ท้าให้ราคาของรถยนต์ก็มีราคาแพงมาก คันแรกที่ขายได้ในวันที่ 11 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1903 ยังมีราคาสูงมาก คือมีราคา 850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งราคารถเท่านี้ในเวลานั้นคนที่จะหาซื้อได้ต้องเป็นเศรษฐี เท่านั้น จากนั้นบริษัทฟอร์ดก็ผลิตรุ่นโมเดลเอ็น ซึ่งใช้เครื่องยนต์สี่สูบน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก ตั้งราคาขายที่ 600 ดอลลาร์ในปี ค.ศ. 1906 และกลายเป็นรถที่ล้ำหน้ามากของฟอร์ด และจัดเป็นรถที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน



    5 ปี ค.ศ. 1908 เขาจึงผลิตรถยนต์รุ่น ?โมเดลที? ออกมาจ้าหน่าย รถยนต์รุ่นนี้จัดเป็น นวตกรรมใหม่ เครื่องยนต์และกระบอกสูบทั้งสี่หล่อรวมเป็นบล็อกเดียวกับอ่างข้อเหวี่ยง ซึ่งวิธีใหม่ท้าให้น้ำหนักเบาและต้นทุนถูกกว่า ใช้งานง่าย บ้ารุงรักษาง่าย และทนทานต่อสภาพถนนที่ขรุขระ ดังนั้นรถยนต์รุ่นโมเดลทีจึงประสบความส้าเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว ความต้องการรถยนต์รุ่นนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มีการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ ไฮน์แลนด์ปาร์ก (Highland Park) มิชิแกน โดยมีการผลิตส่วนประกอบรถยนต์ที่ได้มาตรฐานและสับเปลี่ยนได้ มีการแบ่งคนงานเป็นแผนกๆ รถยนต์รุ่นโมเดลทีออกมาได้ท้าให้บริษัทของเขากลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี ก็เริ่มก่อสร้างศูนย์อุตสาหกรรมโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นระหว่างปลายทศวรรษที่ 1910 ในเมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน ศูนย์อุตสาหกรรมแห่งนี้มีทุกสิ่งที่จ้าเป็นต่อการผลิตรถยนต์ อย่างเช่นโรงงานเหล็กกล้า โรงงานผลิตกระจก และแนวประกอบชิ้นส่วนของเครื่องในโรงงาน โรงงานแห่งนี้ใน ปี ค.ศ. 1930 นั้นมีคนงานทั้งสิ้น 81,000 คน และมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 268ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราวค.ศ. 1907 เฮนรี่ ฟอร์ด จึงได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าบริษัทของเขาจะผลิต ?รถยนต์เพื่อมวลชน? ออกมาสู่ตลาด ซึ่งการที่จะผลิตรถยนต์ที่คนทั่ว ไปสามารถหาซื้อมาใช้ได้นั้นรถที่ว่าจะต้องมีราคาถูก ท้าให้เขาจึงต้องพยายามคิดค้นหาวิธีที่จะลดต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยให้เหลือน้อยที่สุดให้ได้และแล้วเขาก็ค้นพบวิธี นั่นก็คือการน้า ?ระบบสายพาน? มาใช้ในการผลิตรถยนต์ ซึ่งจะท้าให้ราคารถยนต์ยิ่ง ถูกลงมากขึ้น เขาได้แรงบันดาลใจมากจากอุตสาหกรรม การผลิตเนื้อซึ่งเรียกกันว่า ?สายช้าแหละ? โดยเนื้อสัตว์จะถูกแขวนไว้ตามสายพาน และจะถูกส่งผ่านไปตามสายพาน และจะมีคนคอยช้าแหละเนื้อตามจุดต่างๆ เป็นส่วนๆ ไป ดังนั้น บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ จึงเป็นรายแรกที่น้าระบบสายพานมาใช้ในการผลิตรถยนต์ นอกจากนี้ฟอร์ดจึงได้มอบหมายให้พนักงานของเขาคือ เฟเดอริก เทย์เลอร์ (Frederick Taylor) ไปท้าการศึกษามาว่าสายพานควรจะเลื่อนไปเร็วแค่ไหน และด้วยจังหวะอย่างไร ถึงจะท้าให้คนงานท้างานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด



    6 เฮนรี่ ฟอร์ด ใช้เทคนิคเหล่านี้กับการผลิตรถยนต์รุ่นโมเดลที (Ford Model T) ท้าให้ราคาของรถรุ่นนี้ลดลงจาก 850 ดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 1908 เหลือเพียง 260 ดอลลาร์ ท้าให้คนทั่วไปสามารถซื้อหารถมาใช้ได้ โดยยอดการผลิตพุ่งทะยานจาก 32,000 คัน ในปี ค.ศ.1910 ไปเป็น 735,000 คัน (กว่า 20 เท่า) ในปี ค.ศ.1916 และเมื่อถึงปี ค.ศ. 1927 ซึ่งเป็นปีที่เลิกผลิตรถยนต์รุ่นนี้ ในท้องถนนมีรถยนต์โมเดลทีนี้ราว 15 ล้านคัน ในปี ค.ศ. 1914 เขาก็ท้าให้โลกตะลึงโดยการเพิ่มเงินค่าจ้างให้จากเดิม 2.34 ดอลลาร์ ท้างานวันละ 9 ชั่วโมง ไปเป็น 5.00 ดอลลาร์ (แต่ท้างานเพียงแค่ 8 ชั่วโมง) โดยนักทฤษฎีสังคมหลายคนถึงกับเรียกช่วงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมช่วงนี้ว่า "แบบฟอร์ด" (Fordism) เพราะท้าให้จ้านวนการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยที่จ้านวนคนงานนั้นลดลงจาก 14,336 คน เหลือเพียง 12,880 คน การลดจ้านวนคนงานลงท้าให้รายได้ของคนงานเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ฟอร์ดยังดูแลคุณภาพชีวิตพนักงานของเขาทุกคนด้วยการก่อตั้งหน่วยงานที่มีชื่อว่า ?Sociological Department? ในเวลานั้น คงไม่มีใครปฏิเสธไปได้ว่าเขาคือนักอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยที่สุด เฮนรี่ ฟอร์ด อาจจะไม่ใช่นักประดิษฐ์รถยนต์ที่เก่งที่สุดในโลก แต่เขาไม่เป็นรองใครในการท้าธุรกิจด้านรถยนต์เพราะเขาสามารถผลิตรถยนต์ที่มีรูปทรงดูดีขึ้น มีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น และมีราคาลดลงไปกว่าเดิม ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ผลประโยชน์ที่เขาได้รับนั้นมีมากกว่าพันล้านเหรียญ ปรัชญาอย่างหนึ่งในการทางานของเฮนรี่ ฟอร์ด คือความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ ซึ่งคอมเพล็กซ์โรงงานรูจของเขากลายเป็นศูนย์โรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในทศวรรษนั้นฟอร์ดยังเปิดโรงงานที่ออสเตรเลีย อินเดีย ละฝรั่งเศสอีกด้วย
    เฮนรี่ ฟอร์ดยังเป็นคนที่มีความสนใจทางการเมืองอย่างยิ่ง เพราะเมื่อในปี ค.ศ. 1918 ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน ของสหรัฐฯ ได้ทาบทามให้เฮนรี่ ฟอร์ด ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐมิชิแกนในนามของพรรคเดโมแครต ฟอร์ดเป็นผู้สมัครหาเสียงที่มีแนวคิดต่อต้านสงครามและสนับสนุนให้มีการก่อตั้งสันนิบาตชาติ แต่เขาแพ้การเลือกตั้ง เดือนธันวาคมปีเดียวกันฟอร์ดก็ให้ลูกชายเพียงคนเดียวดำรงต้าแหน่ง



    7 ประธานบริษัทคนต่อไป แต่ถึงกระนั้นฟอร์ดก็ยังมีอ้านาจในการตัดสินใจเด็ดขาดอยู่เช่นเดิม ซึ่งสองพ่อลูกได้ซื้อหุ้นจากผู้ลงทุนร่วมคนอื่นๆ และบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี ก็กลายเป็นธุรกิจในครอบครัวฟอร์ดเรื่อยมา
    ในปี ค.ศ. 1925 บริษัทนี้สามารถผลิตรถยนต์ได้ 10,000 คันต่อวัน ซึ่งพลังการผลิตนี้คิดเป็น 60% ของรถที่ผลิตออกมาทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นยอดขายของรถรุ่นนี้ก็ลดลงเรื่อยๆ และรถยนต์เชฟโรเล็ตของบริษัทเจเนอรัลมอเตอร์ก็กลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดในเวลาต่อมา เมื่อยอดขายรถของฟอร์ดตกต่้าลงมาก ท้าให้เฮนรี่ ฟอร์ด ปรับกลยุทธผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาแข่งกับบริษัทอื่นๆ นอกจากผลิตรถยนต์แล้ว บริษัทฟอร์ดยังกระโดดเข้าม้าท้าธุรกิจการผลิตเครื่องบินอีกด้วย เพราะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นบริษัทผลิตรถยนต์ต่างหันมาผลิตเครื่องบินกันทั้งสิ้น ซึ่งเครื่องบินที่ประสบความส้าเร็จของฟอร์ดมากที่สุดคือ Ford 4AT Trimotor บรรทุกผู้โดยสารไปทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของสหรัฐฯ ที่เครื่องบินมีการบรรทุกผู้โดยสารได้ และสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผลิตเครื่องบินทิ้งระเบิด B 24 กว่า 8,000 ล้า ทางสถาบันสมิธโซเนี่ยนของสหรัฐฯ ได้ยกย่องเฮนรี่ ฟอร์ดว่าเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อการเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมการบิน เฮนรี่ ฟอร์ด มีอาการทางโรคหัวใจ (Stroke) เมื่อปี ค.ศ. 1938 บุตรชายเพียงคนเดียวของเขาต้องเสียชีวิตด้วยความเครียดจากโรคมะเร็งล้าไส้ด้วยวัยเพียง 49 ปี ท้าให้ เขาต้องกลับมาบริหารบริษัทอีกครั้ง เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่รุมเร้ามาก ฟอร์ดก็ปลดเกษียณตัวเองจากการท้างานและถ่ายโอนอ้านาจการบริหารต้าแหน่งประธานไปให้กับหลานชายของเขาคือเฮนรี่ ฟอร์ด ที่ 2 ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1945 เฮนรี่ ฟอร์ด เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1947 ที่แฟร์เลน ด้วยวัย 83 ปี บ้านในเมืองเดียร์บอร์นของเขา และร่างของเขาถูกน้าไปฝังไว้ที่สุสานฟอร์ดในกรุงดีทรอยต์ 8




    ที่มา vikrom.net/update/file/pthenriford300907.pdf




    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    มิสบ้านมหา 2010
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ เขมราฐ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    กลางท่งเมืองเขมฯ
    กระทู้
    1,946
    วันนี้ในอดีตเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เป็นวันเกิดของหลานสาวนายฮ้อยมา นำค่ะ อิอิ

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •