กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: การใช้วาจาที่สุภาพแบบไทย

  1. #1
    ท่องเวบ สัญลักษณ์ของ pui.lab
    วันที่สมัคร
    Jul 2006
    ที่อยู่
    โสดไม่มีใครเอา หรือว่าเราไม่เอาใคร
    กระทู้
    8,954
    บล็อก
    9

    การใช้วาจาที่สุภาพแบบไทย

    ประเพณีนิยมถือความลดหลั่นกันในทาง ชาติวุฒิ คุณวุฒิ และวัยวุฒิ ซึ่งแสดงว่าเป็นชาติที่มีความรู้สิกนึกคิดประณีต แสดงออกให้เห็นทางความประพฤติทั้งกายวาจาและใจ วาจาไพเราะหรือที่เรียกเป็นศัพท์ว่า ปิจะวาจานั้น ได้แก่ถ้อยคำที่เว้นจากวจีทุจริต วาจาไพเราะเป็นคุณสมบัติสำคัญในการพูด เพื่อความสงบสำเร็จประโยชน์ตนประโยชน์ท่านและย่อมยึดเหนี่ยวใจของผู้ฟังได้ให้เกิดความนิยมรักใคร่นับถือผู้พูดมารดาบิดาเจรจากับบุตรด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน คำนั้นย่อมจับใจของบุตรธิดา ทำให้เกิดความรักใคร่นับถือและกตัญญูต่อบิดามารดายิ่งขึ้น บุตรธิดารู้จักพูด มารดาบิดาย่อมรักเอ็นดูมากขึ้น

    ผู้มีมารยาทจะต้องระมัดระวังในการใช้วาจา คือ

    1. ต้องระวังมิใช้วาจาเท็จ อันเป็นเหตุให้คนทั้งหลายคลายความเชื่อถือ เพราะความเท็จนั้นจะปรากฏขึ้นมิวันใดก็วันหนึ่ง ถ้ามีผู้จำได้ก็จะเห็นไปว่ากิริยาวาจาที่บุคคลพูดเท็จอย่างสุภาพเรียบร้อยนั้นเป็นเสมือน เปลือกที่หุ้มห่อร่างกายอยู่ภายนอก แต่ภายในไม่มีอะไรดีเลย เหมือนกับต้นกล้วยเรียบร้อยข้างนอก แต่ภายในไม่มีแก่น

    2. ไม่ใช้วาจายุยงส่อเสียดให้ผู้อื่นแตกร้าว หรือระหองระแหงกัน ควรหลีกเสียอย่างเด็ดขาด การสนทนาที่ดีย่อมไม่กล่าวถึงใครในแง่ร้าย ให้กล่าวถึงเรื่องที่ไม่พาดถึงบุคคลในทางที่จะทำให้เขาเสียหาย ควรพูดนทนาในทาที่จะเกิดความรู้

    3. ไม่กล่าววาจาหยาบคายเสียดสีดูถูก หรือขัดคอผู้อื่น จะทำให้ขัดเคืองกันและเป็นการน่าละอายสำหรับผู้ที่แสดงวาจาเช่นนั้นออกมา เพราะจะทำให้ผู้ได้ยอนได้ฟังรู้ไปถึงว่าผู้พูดมีการอบรมมาอย่างไร

    4. ต้องพยายามใช้คำพูดที่เหมาะสมที่ควรและถูกหูผู้ที่เราพูดด้วย การพูดวาจาไพเราะย่อมเป็นที่นิยมชมชอบแก่ผู้ได้ยินได้ฟังมาก และยังให้ประโยชน์แก่ตนเองให้เป็นที่นับถือ
    ของคนทั้งหลาย ถ้าเข้าใจพูดอาจยังผู้น้อยให้มีแก่ใจทำกิจการด้วยความจงรักภักดี

    5. ย่อมไม่พูดเสียงดังจนเกินไป หรือพูดพลางหัวเราะพลางในกลุ่มคนที่ตนร่วมสนทนาด้วย จะทำให้ผู้พูดเสียบุคลิกลักษณะของสุภาพชน

    6. คู่สนทนาที่ดีนั้นมิใช่จะเป็นผู้พูดอย่างเดียว หรือฟังอย่างเดียว จะต้องปฏิบัติให้พอดี คือรู้จักพูดให้ผู้ฟังพอใจและเป็นนักฟังที่สนใจ

    7. สุภาพสตรีย่อมมีความสำรวมกายอยู่เป็นนิจ ไม่ส่งเสียอื้ออึง ไม่ทำสนิทหรือหยอกล้อกับบุรุษในที่ลับและที่เปิดเผย ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่หัวเราะส่งเสียงดัง พูดดังเกินงามจนเป็นจุดเด่นให้คนอื่นหันมาจ้องมอง

    การใช้วาจาที่สุภาพแบบไทย
    บ้านมหาดอทคอม เว็บไซต์ส่งเสริม ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ศิลปิน ความรู้ออนไลน์
    st1: มิตรภาพและรอยยิ้ม กับดีเจคนไกลบ้าน st1:

  2. #2
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ แมงจินูน
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    กระทู้
    58
    มีสาระสำคัญดีมากๆๆเลย อยากหั้ยเด็กๆๆอ่านเจอจังเลย เขาสิได้รุ้ว่าควรทำตัวอย่างไร พุดอย่างไร จังสิถุกต้อง ขอบคุณครับสำหรับหัวข้อนี้แมงเหนด้วย

  3. #3
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ แหลวแดง
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    1,912
    "วันใดสิ่งที่ผมหวังคือสิ่งที่คุณทำ และสิ่งที่ผมทำคือสิ่งที่คุณหวัง วันนั้นโลกก็สุดแสนจะสดสวย "

  4. #4
    ท่องเวบ สัญลักษณ์ของ pui.lab
    วันที่สมัคร
    Jul 2006
    ที่อยู่
    โสดไม่มีใครเอา หรือว่าเราไม่เอาใคร
    กระทู้
    8,954
    บล็อก
    9
    วาจาดีเพราะใจดี

    เราสงบวาจาไม่กล่าวร้ายไม่พูดจาหยาบคายกับใคร ไม่พูดโดยโทสะ เกิดความโกรธเกลียดแล้วไม่พูด เมื่อไม่พูดก็เป็นวาจาที่ดีหมด ถ้าใจดีแล้วพูดดีก็เป็นวาจาที่ดีหมดเพราะเจตนาดี แต่ถ้าคิดไม่ดีใจไม่ดีแล้วพูดออกไปเป็นการพูดไม่ดีทั้งหมด ถ้าใจไม่ดีไม่พอใจโกรธแล้วคำพูดนั้นก็เป็นคำพูดที่ไม่ดี ทั้งๆที่ปรารถนาดีแต่คำพูดนั้นมันออกไปจากใจที่ไม่ดี


    เพราะฉะนั้นถ้าคำพูดทั้งหมดกลั่นกรองออกมาจากใจที่ดีแล้ว ก็จะเป็นความสุขทั้งผู้ฟังและผู้พูด โทษจะไม่มีแก่เราเลย ในชีวิตนี้เราจะไม่ต้องทะเลาะไม่ต้องเถียงไม่ต้องมีเรื่องวิวาทบาดหมางกับใครเลย เพราะเราพูดแต่เรื่องดี เราชมเราสรรเสริญแต่คนดีและคอยตักเตือนให้คนอื่นทำดี ไม่คิดอิจฉาไม่กลั่นแกล้งไม่ให้ร้ายใครเลย นั่นแหละเป็นความสุขที่จะย้อนกลับมาให้กับตัวเราอย่างใหญ่หลวง

    โดยมากคนเรามักมีอคติ คนนี้พวกเราก็เข้าข้างทำดีเราก็สรรเสริญ แม้ไม่ทำดีเราก็ยังกลับยกย่อง คนไหนที่ไม่ใช่พวกเราทำดีอย่างไรเราก็อิจฉา ไม่ชอบไม่พอใจเพราะไม่ใช่พวกเรา ยิ่งถ้าทำไม่ดีแล้วเราก็ยังไม่ยอมให้อภัย นั่นมันไม่ดีสำหรับใจเรา ไม่ใช่ดีชั่วอยู่ที่ตัวเขา แต่ดีชั่วมันอยู่ที่ใจเราเสียแล้ว เพราะเราคิดไม่ดีกับคนอื่น

    ฉะนั้นการมาวัดเราจึงต้องมาฝึกใจ มันละเอียดอ่อน ต้องใช้ศีล สมาธิ ปัญญา ใช้ความพยายามสงบกาย วาจา ใจ ให้มากขึ้นแล้วจะได้ระลึกตัวเองออก ระลึกว่าวันหนึ่งคืนหนึ่งเราทำอะไร เรากินอย่างไร เดินอย่างไรนั่งอย่างไร นอนอย่างไรทำผิดทำถูกอะไรก็มาสำรวจที่ใจตัวเองนั่นแหละ เราจะมีที่พึ่งที่เกาะที่ยึดเหนี่ยวว่าเราดับทุกข์ได้เอง เราช่วยตัวเองรักและสงสารตัวเองเพราะเข้าใจใจของเรา




    หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ
    บ้านมหาดอทคอม เว็บไซต์ส่งเสริม ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ศิลปิน ความรู้ออนไลน์
    st1: มิตรภาพและรอยยิ้ม กับดีเจคนไกลบ้าน st1:

  5. #5
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    วันก่อนเพื่อนผมร้องเพลงอยู่ดี ๆ บนเวที มีจิ๊กโก๋ขว้างหัวปลาช่อนขึ้นไปโดนเพื่อนผม

    เพื่อนผมพูดด้วยคำที่สุภาพ "อ้าวคุณพี่ครับ ขอโทษครับคุณพี่ทำไมคุณพี่ทำสุนัข ๆ อย่างนี้ล่ะครับ ผมไปทำอะไรให้บิดามารดาหรือบรรพบุรุษของคุณพี่เดือดร้อนหรือครับ พี่จึงได้เอาศีรษะปลาช่อนมาขว้างผม ผมลงจากเวทีคุณพี่เจอกับผมแน่ครับ" แค่นั้นแหละครับ พอลงจากเวที เพื่อนผมรุมซ้อมจนสะบักสะบอม .....555


    "โดยมากคนเรามักมีอคติ คนนี้พวกเราก็เข้าข้างทำดีเราก็สรรเสริญ แม้ไม่ทำดีเราก็ยังกลับยกย่อง คนไหนที่ไม่ใช่พวกเราทำดีอย่างไรเราก็อิจฉา ไม่ชอบไม่พอใจเพราะไม่ใช่พวกเรา ยิ่งถ้าทำไม่ดีแล้วเราก็ยังไม่ยอมให้อภัย นั่นมันไม่ดีสำหรับใจเรา ไม่ใช่ดีชั่วอยู่ที่ตัวเขา แต่ดีชั่วมันอยู่ที่ใจเราเสียแล้ว เพราะเราคิดไม่ดีกับคนอื่น" แหม ...มันโดนใจจริง ๆ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พล พระยาแล; 01-03-2012 at 12:02.

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •