8 มีนาคม 2552
เป็นวันสุดท้ายที่เพ็นนีเจอกันกับผู้ชายที่เพ็นนีเรียกเขาว่าแฟน
เขาเป็นผู้ชายที่เพ็นนีคาดหวังจะมีอนาคตร่วมกัน เราจะแต่งานกัน
เพ็นนีร้องไห้คนเดียวทุกครั้งที่คิดถึงเขา
พยายามหาคำตอบให้ตัวเองว่าผิดอะไร ทำไมโทรไปไม่รับโทรกลับไม่มี
เราไม่ได้ทะเลาะกัน ทำไมเขาต้องเย็นชากับเพ็นด้วย
ทำไม ทำไม ทำไม แต่กลับไม่เคยมีคำตอบ
เพ็นใช้เวลาทำใจ 2-3 เดือนแรก ใครๆก็เรียกเพ็นนีขี้แย ช่วงนั้นยอมรับว่าสับสน
เพ็นไปวัดไปทำบุญทุกครั้งที่มีเวลาว่าง เพ็นพยายามเอาธรรมะเข้าข่มจิตใจที่ว้าวุ่น
เวลาผ่านไป เพ็นทำใจได้แล้ว ไม่ต้องการคำตอบใดๆแล้ว
ทั้งๆที่ตลอดมาเพ็นอยากให้เขาโทรมาบอกเลิกหรือรับสายบ้างเพ็นจะบอกเลิกเอง
เพ็นอยากบอกเขาคนนั้นคนที่เพ็นนีรักเขามาก ผู้บ่าวญ้อคนใจร้ายที่เพ็นรักเขาหมดใจ
เพ็นนีอยากบอกเขาว่า
เพ็นนีได้เปิดใจรับมีใครคนหนึ่งเข้ามาแล้ว
ใครคนหนึ่งที่ดูแลความรู้สึกของเพ็นทุกอย่าง
ใครคนหนึ่งที่ช่วยเหลือยามที่เพ็นเดือดร้อน
ใครคนหนึ่งที่คอยเช็ดน้ำตายามเพ็นร้องไห้
ใครคนหนึ่งที่เพ็นนีไม่เคยมองเขาเลยตลอดมา
แต่...เขาเป็นคนเดียวที่เพ็นมองเห็นและสัมผัสได้
....
....
เมื่อวาน 29 กันยายน 2552 เพ็นไปเที่ยวจันทบุรีกับใครคนหนึ่ง
เราไปกันสองคนเพ็นมีความสุขที่สุดในรอบปี ทุกๆที่มีเพียงเราสองคน
เดินจูงมือกันไปในทุกๆแห่ง เป็นวันที่เพ็นนีมีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
เป็นวันที่เพ็นนีตัดสินใจจะเริ่มต้นใหม่กับคนนี้ จะลืมทุกฝันที่เคยมีกับผู้ชายใจร้าย
เพ็นนีเลิกแคร์คนอื่นใครจะว่าเพ็นนีมีป๋าเลี้ยง มีกิ๊กรุ่นพ่อ เพ็นนีไม่สน
เพ็นนีจะไม่รักใครอีก ต่อไปนี้เพ็นนีจะรับทุกความรักที่...มอบให้
ทางเดินกำลังสวยงาม กลีบกุหลาบสีแดงบานสะพรั่ง โลกสีเทากลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง
ระหว่างทางกลับจากจันทบุรี ได้แวะซื้อของที่ระยองค่ำนี้ เราจะมีปาร์ตี้เล็กๆ 2 คน
ในรถเพ็นกำลังพูดคุยอย่างสนุกสนาน เหมือนเด็กเล็กๆที่เล่าเรื่องตื่นเต้นให้พ่อฟัง
18.30 น.
เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาที่มือถือของเพ็นนี เป็นเบอร์ที่ไม่คิดว่าจะโทรมาหาเพ็นอีกแล้ว
เพ็นมองโทรศัพท์อยู่แสนนาน กว่าจะตัดสินใจกดรับ
"เอ้อ..เป็นไงบ้าง ย้ายไปกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อไหร่" และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
เขาไม่ได้แก้ตัวที่หายไป และเพ็นก็รู้ว่าเขาไม่ได้มีใครด้วย
เขาบอกเพียงว่า "พี่เคยบอกเพ็นแล้วถ้าพี่พร้อมจะโทรมาเอง"
205 วันที่เขาหายไปเพ็นนีไม่เคยคิดว่าจะได้ยินเสียงเขาอีก
แล้วเพ็นก็ด่าและบ่นอะไรไปไม่รู้จำได้แต่ว่า รอ รอที่จะได้ด่า รอวันนี้วันที่จะพูดมันออกไป
แล้วเพ็นจะไม่พูดอะไรอีกเลย จะปล่อยเขาไปตามทางของเขา เพ็นอยากได้ยินจากปากเขาเท่านั้น
จะรักหรือจะเลิกก็ขอให้มันออกมาจากปาก เพ็นพยายามให้เขาพูด รักหรือเลิก
แต่เขาก็ไม่พูดอะไร ไม่พูดอะไรออกมาเลย เพ็นสับสนวางสายทั้งๆที่ยังงง หูอื้อ ตาลาย
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ความเงียบเข้ามาปกคลุมพื้นที่ของพาหนะ
"คนที่อยู่อุดรใช่ไหม บอกพี่ได้ไหมชื่ออะไร พี่รู้จักตั้งหลายคน"
"อย่าไปรู้เลย เจ็บ เปล่าๆ"
"ใครเจ็บ"
"หนูไงที่เจ็บ"
น้ำอุ่นๆไหลออกตา เสียงสะอื้นกลบความเงียบ
มือที่อยู่บนตักถูกอีกมือกุมไว้สัมผัสได้ถึงแรงบีบเบาๆ
"เพ็นยังมีพี่อยู่ทั้งคน ลืมซะ ช่างหัวมัน"
เพ็นจะบอกพี่ยังไงดี เพ็นยังลืมเขาไม่ได้ ที่ผ่านมาเพ็นไม่เคยลืมเขาเลย
[WMA]http://www.freewebs.com/thai999/Tromatummai.wma[/WMA]
Bookmarks