สัมมาทิฏฐิแท้ ปฐมมรรค
เป็นบทนำประจักษ์ สว่างจ้า
เห็นชอบดั่งใจภักดิ์ คงมั่น
นำสู่นิพพานหล้า ผ่องพ้นโลกีย์

สัมมาสังกัปป์ป้อง จิตเขลา
ยืนนั่งเดินดูเอา จิตรู้
คิดพูดอย่าดูเบา บุญส่ง
ละบ่วงบาปทนสู้ สิ่งเร้าโลโภ

สัมม์วาจากล่าวอ้าง กุศล
พูดแต่ดีกับคน ทุกผู้
พูดชอบดั่งมนต์ดล ใจชื่น
ทุกส่ำสัตว์เสพรู้ อิ่มแท้คำงาม

สัมม์กัมมันตะต้อง ตรงเต็ม
ทำแต่บุญสุนทร์เอม อิ่มท้อง
ละโลภล่วงเลาะเล็ม สินอื่น
หาใส่ตัวถูกต้อง เช่นเชื้ออรหันต์

สัมม์อาชีวะไว้ เป็นสุข
ชีพไป่แปรเป็นทุกข์ บาปได้
อาชีพที่เข็ญขุก ละล่วง
กินอิ่มสุจริตไว้ ขุ่นข้องเคืองหาย

สัมม์วายามะนั้น ครองคง
สืบกิจสำเร็จลง ผ่องหน้า
เพียรละสิ่งปรุงหลง บาปบ่วง
เพลินแต่ภาวนากล้า ล่วงพ้นกามคุณ

สัมมาสติตั้ง เต็มกาล
พิศเพ่งไตรลักษณ์ญาณ เชี่ยวแท้
วิปัสส่งสำราญ ปีติ
รู้เท่าทันอาจแก้ ชั่วช้ากิจกรม

สัมมาสมาธิล้ำ โลกา
สานสู่ทางโสดา เด่นผู้
เป็นแนวเนื่องมรคา โกกุตร์
เต็มเปี่ยมเป็นยอดรู้ เช่นชั้นอริย์ชน











โดย ปติ ตันขุนทด
ที่มา.....Forward mail