ส่วนผสมแปรธาตุที่ขาดหายไป

คัดลอกจากหนังสือ “นิทานไทยเมื่อ ๒๐๐ ปีก่อน” ซึ่งแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ

ชื่อ “SIAMESE TALES OLD AND NEW” โดย ร.ศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ต้นฉบับ

ภาษาไทยเดิมเป็นของพระยามนูเนตรบรรหาร หรือ จีน รามโกมุท


ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังมีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ๆ

อยุธยา ชื่อว่านายหาทองกับนางสงสัย มีฐานะพออันจะกินแต่ไม่ถึงกับร่ำรวยนัก นางสงสัย

ภรรยาเป็นนางแก้วของสามีโดยแท้ เธอฉลาดขยันหมั่นเพียรจนอาจกล่าวได้ว่า ถ้าสามีเธอ

จะทำการค้าใดๆ ก็ตามเหมือนคนปกติทั้งหลายแล้วละก็ จะไม่มีอะไรมาขวางกั้นไม่ให้สอง

สามีภรรยานี้ร่ำรวยขึ้นมาได้เลย เพราะความช่วยเหลือของนาง แต่นายหาทองหาได้ปฏิบัติ

ตนหรือทำมาหาเลี้ยงชีพเหมือนกับชายปกติทั่วไปไม่ ตั้งแต่เขาอยู่กินกับนางสงสัยมา เขา

ก็ไม่เคยทำมาหากินอะไรเลย วันๆ ก็ขลุกอยู่แต่กับการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ พยายามที่จะ

หาสูตรเปลี่ยนโลหะต่างๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรที่จะเปลี่ยนทองแดงให้

กลายเป็นทองคำเหลืองอร่ามขึ้นมาให้ได้ นายหาทองใช้เวลาหมดไปกับการนี้เป็นเวลา

หลายปี แต่ก็ยังไม่เคยได้อะไรเป็นมรรคเป็นผลขึ้นมาแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาก็ยังอดทนอยู่

อย่างนั้นกับการทดลองโดยไม่ท้อถอยเลย ทรัพย์สินต่างๆ ที่มีมาแต่ดั้งเดิม จึงชักจะร่อยหรอลง
ทุกวัน เนื่องจากการใช้จ่ายในการเล่นแร่แปรธาตุ
ในที่สุด วันหนึ่งนางสงสัยก็ทนที่จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะรู้สึกตกใจในการร่อยหรอลงของทรัพย์สิน
จึงบ่นกับสามีว่าควรจะเริ่มทำงานทำการเสียที เล่นแร่แปรธาตุก็มีแต่ความล้มเหลวเปลืองทรัพย์อย่างเดียว
แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรขึ้นมาเนื่องจากนายหาทองได้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ฟังเธอ เขาจึงเพียงปลอบให้เธออดใจรอเหมือนเขาเท่านั้น ผลสำเร็จก็จะตามมาแน่ๆ
หลังจากอดรนทนไม่ไหวจริงๆ แล้ว เธอจึงไปหาบิดา และเล่าเรื่องความบ้าของสามีให้ฟัง บิดาเธอก็รับฟังอย่างเห็นใจ โดยมิได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว หลังจากที่นางสงสัยกลับไปแล้วบิดาจึงสั่งคนใช้ให้ไปตามลูกเขยมาพบสักหน่อย นายหาทองจึงรีบมาหาในทันที เมื่อทักทายกันตามพิธีการจบแล้ว
พ่อตาจึงเอ่ยขึ้นกับลูกเขยว่า “พ่อได้ยินมาว่าลูกสนใจในเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ และก็ได้พยายามทดลองมานานนักหนาแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเลย ทำไมลูกจึงไม่คิดจะมาปรึกษาพ่อดูบ้างเล่าในเรื่องยากเย็นอย่างนี้ บางทีลูกอาจจะคิดว่าพ่อไม่มีความรู้ในเรื่องเช่นนี้ แต่พ่อจะบอกให้นะพ่อเองน่ะก็ได้เคยทดลองเล่นกับมันมามากแล้ว พอจะมีความรู้ค่อนข้างจะลึกซึ้งทีเดียว จะบอกให้ก็ได้ พ่อรู้สูตรอยู่อันหนึ่งซึ่งสามารถเปลี่ยนทองแดงให้กลายเป็นทองนพคุณได้เชียวละในพริบตาเดียว แต่เดี๋ยวนี้พ่อมันแก่ไปเสียแล้วเลยเลิกราไป
เพราะมันต้องใช้ความพยายามตระเตรียมหาวัสดุตามสูตรนี้หลายปีนัก”
นายหาทองจ้องมองพ่อตาจนตาไม่กะพริบ อ้าปากหวอ แสดงท่าทางนับถือเลื่อมใสอย่างยิ่ง เพราะเขาได้ลองพยายามมานานแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเลยสักนิดเดียว จึงยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อม
และกล่าวตอบอย่างจริงใจว่า
“คุณพ่อที่เคารพของลูกช่วยกรุณาบอกสูตรอันนี้ให้ผมหน่อยเถอะครับ ไม่ว่ามันจะกินเวลาเป็นปีๆ เท่าใดที่ต้องเตรียมการ บอกผมมาเถอะครับผมจะกัดฟันทำจนกว่าผมทำสำเร็จ เพราะตัวผมเองก็ได้ใช้เวลามานานนักหนาแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นหนทางเลย”
พ่อตาซึ่งรู้ว่าลูกเขยเชื่อคำพูด มีศรัทธาในตน แล้วจึงพูดต่อ
“ส่วนผสมที่จำเป็นต้องใช้ตามสูตรน่ะ พ่อมีครบหมดแล้วละ ยกเว้นอยู่อย่างเดียวเท่านั้น ลูกต้องหามาเองโดยใช้ความพยายามอย่างที่สุด แต่ก็ไม่ยากเย็นเกินกว่าที่จะหามาได้หรอก จะหามาได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถและแรงงานของลูก ของที่พ่อต้องการก็คือ นวลขาวๆ คล้ายแป้งที่จับอยู่บนใบกล้วยน่ะ
พ่อต้องการมันหนักสองชั่ง (หนึ่งชั่งเท่ากับหนึ่งเศษหนึ่งส่วนสามปอนด์-ผู้แปล) ลูกจะต้องเอานวลแป้งขาวๆ
นี้มาจากต้นกล้วยของลูกเอง จะเอามาจากต้นกล้วยของคนอื่นไม่ได้เป็นอันขาด เวลาปลูกและขุดหลุมต้นกล้วยลูกจะต้องร่ายเวทย์มนต์คาถาเองอีกด้วย ถ้าลูกต้องการแป้งจำนวนนี้เร็วเท่าไหร่ ลูกก็ต้องปลูกต้นกล้วยมากขึ้นเท่านั้น ถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเงินทุนสำหรับกิจการนี้ละก็ มาเถอะ พ่อจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขาดเหลืออะไรก็ตาม”
ถึงตอนนี้นายหาทองก็ดีใจจนเหลือที่จะกล่าว ที่ความหวังของตนชักจะเรืองรองขึ้นมาแล้ว ในขณะที่ทรัพย์สินตัวเองชักจะร่อยหรอลงเพราะไอ้การทดลองของตนเองมาหลายปีดีดัก พอมาถึงบ้านเขาก็รีบเล่าให้ภรรยาฟังถึงคำแนะนำของพ่อตาที่ให้มาและคำสัญญาที่จะช่วย เธอก็ดีอกดีใจบอกว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือทุกอย่างเพื่อให้โครงการของเขาสำเร็จผลขึ้นมา
และแล้วระยะเวลาแห่งความฉุกระหุกก็เริ่มขึ้น เงินทุนทั้งหมดที่สองสามีภรรยาพอจะหามาได้ รวมทั้งเงินทุนที่พ่อนางสงสัยช่วยเหลือ ก็ถูกนำมาใช้ซื้อที่ดิน ว่าจ้างแรงงานถางที่ดินและอย่างอื่นๆ อีก เพื่อทำให้มันกลายเป็นสวนกล้วยขึ้นมา ไม่มีเวลาใดถูกทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์เลยตั้งแต่ได้รับคำแนะนำมา ถึงแม้การปลูกต้นกล้วยทั้งหลายจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แต่นายหาทองก็ไม่ได้เคยคิดถึงจำนวนไร่ที่ปลูกต้นกล้วยหรือจำนวนต้นกล้วยที่ปลูกได้ในแต่ละไร่เลย ทันทีที่ต้นกล้วยโต ความสนใจของเขาทั้งหมดก็มุ่งไปที่ต้นกล้วยต้นไหนใบกล้วยใบไหนที่พอจะให้นวลแป้งขาวตามที่ใจปรารถนาได้ เขาก็จะจัดการปาดมาเก็บสะสมไว้
ในตอนเย็นทุกๆ วันเขาจะชั่งน้ำหนักนวลแป้งที่เก็บมาได้อย่างระมัดระวัง คอยเฝ้าการเพิ่มพูนของแป้งที่เก็บสะสมไว้อย่างภาคภูมิใจ ในทางตรงกันข้าม ภรรยาแสนขยันของเขาก็ใช้เวลาทั้งหมดในวันหนึ่งๆ ไปกับการควบคุมงานในสวน ตรวจตราต้นกล้วย เลือกคัดกล้วยสุก คัดใบกล้วยเพื่อตัดไปขายทั้งสดและที่แห้งแล้ว
เวลาสามปีผ่านไป พร้อมกับชื่อเสียงของสองสามีภรรยาในการเป็นเจ้าของสวนกล้วยที่ใหญ่โตทันสมัย ด้านหน้าของบ้านที่ติดกับแม่น้ำก็กลายเป็นบริเวณท่าเรือที่สำคัญในการซื้อขายกล้วยไป เกือบตลอดทั้งวันและคืนจะมีเรือไปมาของพ่อค้าเป็นจำนวนมากมาติดต่อรับกล้วยไปขาย นายหาทองก็หาได้สนใจที่จะไถ่ถามถึงความวุ่นวายของหน้าบ้านตน หรือฐานะกิจการค้ากล้วยที่ภรรยาดำเนินงานอยู่ไม่ ทุกๆ เช้าเขาจะตื่นแต่เช้าเข้าไปในสวน เพื่อตรวจตราดูว่าลูกจ้างดูแลต้นกล้วยเป็นอันดีหรือไม่ เพื่อว่าต้นกล้วยจะได้เติบโตงดงามให้ใบกล้วยที่ใหญ่งามและมีนวลแป้งออกมามากๆ ทุกๆ เย็นทันทีที่ถึงบ้าน เขาจะเริ่มชั่งน้ำหนักนวลแป้งที่เก็บมาได้ในแต่ละวันอย่างระมัดระวัง เวลาผ่านไปอีกสองปีรวมเป็นระยะเวลาห้าปีแห่งความพยายาม นายหาทองก็สามารถเก็บรวบรวมนวลแป้งได้หนักสองชั่ง ดังที่พ่อตาต้องการได้
ด้วยความเชื่อว่าความหวังของตนใกล้จะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว นายหาทองจึงฉวยของที่มีค่านั้นตรงดิ่งไปหาพ่อตาทันที หยิบแป้งขาวออกมาให้พ่อตาด้วยมือที่สั่นระริกและประกายแววตาในดวงตา พร้อมกับพูดว่า
“ในที่สุดผมก็ได้ส่วนผสมที่ขาดไปมาแล้วครับ ทีนี้เราก็จะได้เริ่มทดลองกันเสียที” พ่อตาก็หัวเราะและกล่าวว่า “ใช่แล้วลูก เราจะร่ำรวยกันใหญ่เร็วๆ นี้แหละ”
ถึงจุดนี้นายหาทองก็แทบจะกลายเป็นบ้าด้วยความดีใจสุดขีด หน้าแดงตัวสั่นไปด้วยความตื่นเต้นจนแทบจะอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ส่วนพ่อตาก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่หันไปสั่งคนใช้ให้ไปตามลูกสาวมาพบ พอเธอมาถึง
แกก็ถามลูกสาวว่าเก็บเงินเก็บทองได้จากการขายกล้วยบ้างหรือไม่ในระหว่างเวลาห้าปีหลังนี้ ซึ่งเธอก็ตอบว่าได้ ดังนั้นแกจึงบอกลูกสาวว่า “ไป ไป เอามานี่ซิลูก เอามาให้หมดเลยนะ”
นายหาทองก็ชักจะเริ่มสงสัยอะไรบางอย่างในใจจากการได้ยินคำสนทนาของพ่อตากับภรรยาตน
จึงนั่งงุนงงสงสัยว่ามีความสัมพันธ์อะไรระหว่างเงินที่ได้จากการขายกล้วยกับการเล่นแร่แปรธาตุ ไม่รู้จะเป็นประโยชน์อะไรกับการเตรียมสูตรบ้าง แต่ก็ไม่พูดอะไรเนื่องจากยังดีใจไม่หายจากการได้ส่วนผสมที่ขาดไปมาครบตามสูตร
ไม่นานนักนางก็กลับมา และเริ่มนับเงินที่ได้มาต่อหน้าสายตาหลายคู่ที่แสดงความแปลกใจ ก็ปรากฏว่านับเงินได้ไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาท ทันทีทันใดที่นางนับเงินเสร็จ พ่อตาก็หันมาหาลูกเขย และกล่าวว่า
“เห็นเงินที่ลูกหามาได้จากสูตรแปรธาตุของพ่อไหม เอาละ ถ้าลูกต้องการที่จะเปลี่ยนเงินจำนวนนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์ หรือเพชรพลอย ช้าง ม้า วัว ควาย หรือผ้าไหม หรืออะไรต่ออะไรที่ลูกต้องการ ลูกก็ทำได้ทั้งนั้น สำหรับพ่อแล้วสูตรของพ่ออันนี้ เป็นสูตรที่ประเสริฐกว่าสูตรอะไรต่ออะไรที่ลูกได้เรียนรู้มาแล้วทั้งนั้น”
พอพูดจบนายหาทองก็เหมือนกับคนเป็นใบ้ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำ เพราะเขาเพิ่งจะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ภรรยาสามารถหาเงินจำนวนนี้ได้จากการขายกล้วย เขารู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนในการหาเงินมาได้มากมายถึงเพียงนี้ แต่ในทางตรงกันข้าม เขาก็รู้สึกโกรธที่ถูกพ่อตาต้มอยู่เหมือนกัน ความพอใจ ความโกรธ ความผิดหวังจึงต่อสู้กันอยู่ในใจเขานานพอสมควร ก่อนที่ความพอใจจะเป็นผู้ชนะได้ ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาได้ พ่อตาจึงให้คำสั่งสอนดังต่อไปนี้
“ลูกควรจะได้รู้ไว้เสียด้วยว่า ความพยายามของลูกเป็นเวลานานที่จะเปลี่ยน ทองแดง ตะกั่ว หรือเงินให้กลายเป็นทองคำสุกปลั่งน่ะ มันค้านกฎธรรมชาติ และยังค้านธรรมชาติของโลหะเหล่านี้อีกด้วย เนื้อหนังมังสาของโลหะเหล่านี้น่ะเกิดขึ้นได้ใต้พื้นโลกก็เพราะความกดดันของความร้อน ความเย็น ในระยะเวลานานชั่วกัปชั่วกัลป์ แล้วคนเราจะเปลี่ยนแปลงมันในเวลาสั้นๆได้อย่างไร ลูกคิดหรือว่ามนุษย์เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหนังของโลหะได้แบบเดียวกับที่เราย้อมผ้า แม้แต่มนุษย์เราซึ่งมีชีวิตจิตใจ รู้จักความแตกต่างระหว่างความดีกับความชั่ว เรายังไม่อาจจะแก้ไขคนชั่วสอนให้เป็นคนดีได้เลย แล้วเราจะมีปัญญาเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของสิ่งไม่มีชีวิตจิตใจเช่นโลหะได้อย่างไร เราจึงควรเลิกคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสารอย่างหนึ่งให้กลายเป็นอีกอย่างหนึ่งกันเสียที
เมื่อพูดถึงอาชีพปลูกกล้วยของลูกน่ะ ก็เห็นแล้วว่าเป็นอาชีพที่ดี สามารถหากำรี้กำไรได้ดีพอควรทีเดียว ลองนึกดูซิลูกว่าเมื่อก่อนนี้น่ะ ตอนที่ลูกยังเล่นแร่แปรธาตุก่อนที่จะทำสวนกล้วยน่ะ ลูกสามารถหาเงินจากมันได้เท่าไหร่? ไม่มีเลย มีแต่จะเข้าเนื้อ แต่ถ้าลูกคิดถึงเวลาห้าปีสุดท้ายนี้ซิ ลูกได้กำไรถึงสองหมื่นบาท ในอนาคตลูกก็จะยิ่งร่ำรวยขึ้นอีก เพราะทุนที่ลูกได้ลงไปแล้ว จงปลูกกล้วยต่อไปเถอะลูก เลิกเล่นแร่แปรธาตุเสียที”
นายหาทองได้ยินคำสอนของพ่อตายิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายเวลาและเงินทองที่ตนได้เสียไปจากการเล่นแร่แปรธาตุ ถึงตอนนี้เขาก็เห็นชัดเจนถึงผลตอบแทนที่ได้รับจากกลอุบายที่หลอกให้ทำสวนกล้วย และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็เลิกเล่นแร่แปรธาตุทุกอย่างแล้วอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน
เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพ่อตา เขาได้เอาผงแป้งขาวที่ได้สะสมมาผสมกับน้ำข้าว ปั้นเป็นรูปพ่อตา
เมื่อเขาสิ้นไป เขาก็มอบให้ลูกหลานสืบเป็นสมบัติกันต่อๆ มาเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงความปรานีของท่าน