ภัยผู้หญิงในที่ทำงาน…จะจัดการได้อย่างไร

[khonsurin]

ภัยผู้หญิงในที่ทำงาน…จะจัดการได้อย่างไร






ภัยของผู้หญิงมีอยู่รอบตัว แม้ที่ในที่ทำงานซึ่งผู้หญิงมักจะถูกล่วงเกินทางเพศแล้วจะมีข้อกฏหมายที่ใช้จัดการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง อ.ประมาณ มาบอกให้ทราบแล้ว ค่ะ…


ผู้หญิงคือดอกไม้ประดับบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะในสังคมที่ทำงานเมื่อมีพนักงานสาวๆ เข้ามาทำงาน บรรดารุ่นพี่ทั้งหลายก็จะกระดี้กระด๊าอยากจะเข้าไปพูดคุยด้วย ลำพังเพียงแค่การพูดคุยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเริ่มมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางลามก มือไว ปากไว แบบนี้ก็มีปัญหาแล้ว…


ล่วงเกินทางเพศคือ …

การล่วงเกินทางเพศคือพฤติกรรมทางวาจา สายตาการกระทำที่ไม่เหมาะสมและส่อไปในทางเพศต่อบุคคลหนึ่ง โดยผู้ที่ถูกกระทำไม่พึงพอใจทีจะถูกกระทำแบบนั้น เช่น พยายามสัมผัสเนื้อตัวผู้หญิงให้มากที่สุด หยอกล้อในทางเพศสองแง่สองง่าม หรือแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์สรีระร่างกาย อย่างเช่น บอกว่า “น้องเป็นคนก้นสวย น่าฟัดมาก” หรือ “นมใหญ่จัง” รวมทั้งการใช้สายตาโลมเลีย การใช้ถ้อยคำดูถูกในเรื่องทางเพศ หรือแม้แต่การตามตื้อโดยโทรศัพท์มาหาและพูดจาในทางเพศ เหล่านี้ล้วนเป็นการล่วงเกินทางเพศแล้วทั้งสิ้น



โทษของ…การล่วงเกินทางเพศ

การล่วงเกินทางเพศเป็นข้อห้ามตามมาตรา 16 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้นายจ้างหรือผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน กระทำการล่วงเกิน ทางเพศต่อลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้หญิงหรือเด็ก” โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


แต่หากการล่วงเกินทางเพศนั้นร้ายแรงถึงขนาดมีการแตะเนื้อต้องตัว เช่น จับหน้าอก ให้แก้ผ้า หรือจับต้องของสงวน แบบนี้เข้าข่ายความผิดอนาจาร ในคดีอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากว่าเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานกลัดมันและจขาดสติถึงขั้นมีการข่มขืน … แบบนี้คุกเลย


หลักฐานพยานยืนยัน ในความผิดทางเพศ โดยทั่วไปค่อนข้างจะต้องใช้การพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ยิ่งเป็นการทำความผิดแบบล่วงเกินทางเพศ ด้วยการใช้วาจา สายตา หรือท่าทางนั้นอาจจะไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ชัดเจน ดังนั้น ศาลจะพิจารณาจากพยานบุคคลรวมทั้งหลักฐานอื่นๆ เท่าที่มี เช่น วีดีโอวงจรปิด เสียงบันทึกเทป หรือข้อความที่ส่งให้ทางโทรศัพท์ ฯลฯ แต่หลักฐานเหล่านั้นต้องไม่ใช่หลักฐานที่สร้างขึ้นมาเป็นกับดักประเภทล่อลวงให้เขาทำผิดนะคะ



เมื่อถูกคุกคามทางเพศ

มีวิธีการรับมืออื่นๆ ก่อนที่คุณจะใช้กฏหมายก็คือ เมื่อคุณถูกล่วงเกิน ลวนลาม หรือคุกคามทางเพศ คุณต้องจดบันทึกวัน เวลา สถานที่ บุคคลที่ล่วงเกินคุณ พฤติกรรมในการล่วงเกิน จำนวนครั้งที่ทำ รวมทั้งพยานรู้เห็น เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเล่นงานคนที่ล่วงเกินคุณ หลังจากนั้นให้แจ้งถึงผู้ล่วงเกินให้เขาหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อคุณ ซึ่งส่วนใหญ่มกจะได้ผล


ถ้าเขายังไม่หยุด คราวนี้คุณก็หอบแฟ้มประวัติการล่วงเกินทางเพศของคนคนนั้น ที่ทำต่อคุณรายงานตรงถึงผู้บังคับบัญชาหรือเจ้านายในระดับสูง ซึ่งคุณควรเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อม เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเห็นว่า ต้องทำอะไรสักอย่างกับคนที่รังแกคุณ แต่ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่ทำอะไรอีก ตอนนี้ก็ถึงคราวแจ้งความ ดำเนินคดีกับบุคคลนั้น ข้อหากระทำอนาจาร โดยมีโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นอกจากนี้ หากสาวๆ ที่เป็นเหยื่อของพวกหัวงู ทั้งหัวงูเดียว และหลายหัวงู ....อยากได้ที่ปรึกษาทางกฏหมายหรือต้องการร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ คุณก็สามารถโทรศัพท์ไปที่ “ศูนย์ประชาบดี” โทร. 1300 ยิ่งหากเป็นข้าราชการ เขามีหน่วยงานเฉพาะคือ “ศูนย์รับเรื่องรอ้งทุกข์ของข้าราชการ” โทร. 1786 เอาไว้คอยจัดการกับคนที่ทำตัวไม่ให้เกียรติผู้หญิงด้วยค่ะ




จาก สำนักข่าวไทย

[pcalibration]

จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังที่สุด
เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันการลงโทษไม่หนักพอ
ผู้หญิงในปัจจุบันเริ่มที่จะมีความกล้าหาญ
พอที่จะลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง
แต่ยังไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้หรือผลักดันเรื่อง
เหล่านี้ให้มีผลสำเร็จในทางกฎหมายได้เท่าที่ควร
ส่วนมากเรื่องในทำนองนี้สังคมมักจะมองเป็นปัญหาส่วนบุคคล
จึงขาดแนวร่วมที่จะผลักดันต่อสู้ต่อไป แม้แต่องค์กรที่เป็นทั้ง
ภาครัฐและเอกชนที่ทำเรื่องนี้โดยตรงยังไม่มีความจริงจัง
เห็นได้จากเรื่องที่เป็นข่าวหรือตามกระแสเท่านั้นที่จะให้ความสนใจ
(ล่าสุดกรณีร้อยโทหญิงเป็นเรื่องที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะต้องศึกษาอย่างยิ่ง)

[พล พระยาแล]

บางทีถ้าไม่กล้า ก็ยิ่งได้ใจ ยอมให้ล่วงเกินทางเพศเกิน 1 ครั้ง ในเวลาที่ต่างกัน ก็น่าคิดนะครับ

แต่ถ้าในเวลาเดียวกัน แต่หลายครั้ง ก็เป็นอีกเรื่อง ยังมีอีกเยอะครับที่ไม่กล้าเพราะกลัวเสียหน้า

วิธีป้องกันก็คงจะต้องหากระจัยเหล็กกล้า ใส่กุญแจที่มีรหัสล่ะครับ แต่ถ้าฉุกเฉินจำรหัสไม่ได้ จะทำอย่างไงดีน้อ อิอิ