เครื่องสำอาง...สวยซ่อนพิษ
หญิงสาวหลายคนตกเป็นเหยื่อของเครื่องสำอางอันตราย เพิ่มขึ้นให้เห็นอย่างน่าใจหาย
สาเหตุที่ "เคท ลอค" ออกมาพูดถึงพิษร้ายของเครื่องสำอาง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจสาวๆ
ให้คิดเสมอว่าการจะซื้อเครื่องประทินโฉมสักครั้งหนึ่ง ควรจะเลือกที่ปลอดภัยและอ่านฉลากให้เข้าใจดีเสียก่อน
จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง
เคท ลอค กล่าวว่า "ในอาหารที่คุณรับประทานไปแต่ละมื้อ คุณคาดหวังว่ามันจะต้องอร่อยและถูกหลักอนามัย
นั่นมันก็เช่นเดียวกับเครื่องสำอาง ที่จะต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้งไปยังส่วนผสมที่บรรจุมาด้วยว่าสะอาดและปลอดภัย จริงหรือไม่"
ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้ให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยในการผลิตเครื่องสำอาง
จึงทำให้เครื่องสำอางหลายยี่ห้อยังใช้ช่องวางทางกฎหมายตรงนี้เพื่อหวังผล กำไรทางธุรกิจมากกว่าความปลอดภัยในผู้บริโภค
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่องค์กรเครื่องสำอางทางแถบยุโรปได้ออกข้อบังคับและบท
ลงโทษที่ชัดเจนขึ้น
ในปี ค.ศ.2006 ทำให้ประเทศใหญ่ๆอย่างอังกฤษ ถึงกับตื่นตัวและออกมาป้องกันสิทธิในผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
จนมีความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามมาว่า สารเคมีที่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลักๆ ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงและเรื้อรังมากมาย
อาทิ โรคมะเร็ง โรคสารพิษตกค้างในระบบสืบพันธุ์ เป็นต้น
ไม่เพียงแต่การได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น บริษัทเครื่องสำอางหลายแห่งในเกาะอังกฤษ
ยังต้องตรวจสอบมาตรฐานของเครื่องสำอางในแบรนด์ของตนเองอย่างละเอียด
โดยการลิสต์รายชื่อสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบทุกชนิดในเครื่องสำอางดังกล่าว
เพื่อนำไปตรวจสอบก่อนจะนำมาวางจำหน่ายว่าปลอดภัย 100%
หลายคนอาจคิดว่าการซื้อผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็น "เนเชอรัล โปรดักส์" (ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ)
หรือที่ระบุว่า "dermatologist-test" (ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง) จะปลอดภัย 100% ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
หากลองตรวจสอบบนฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ดีๆ จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์บางชนิดมีสารเคมีที่สกัดจากธรรมชาติแท้ๆ เพียงแค่ 1% เท่านั้นเอง
เคท ลอค เล่าให้ฟังว่า "ฉักรู้สึกตกใจมาก ตอนที่หยิบผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายยี่ห้อหนึ่งที่ราคาแพงมากๆ
คือฉันตัดสินใจซื้อมาเพราะมันโฆษณาว่าสกัดมาจากพฤษาธรรมชาติ แต่พอมาดูแล้วพบสิ่งแรกที่เจอว่ามีสาร Propylene Glycol (PG)
ที่ถึงแม้ทางการจะบอกผ่านให้สามารถบรรจุสารดังกล่าวออกมาวางจำหน่ายได้
แต่จริงๆแล้วมันเป็นแอลกอฮอล์ไวไฟชนิดหนึ่งที่สามารถซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว แต่จะมีผลเสียต่อระบบลำเลียงของกระแสเลือดอีกด้วย"
เคท ลอค ได้ออกมาเปิดเผยส่วนประกอบ 8 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง ดังต่อไปนี้
1.สารเคมีจำพวก Phthalates อาทิ Diethylphthalate ที่พบมากในผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำหอม
หรือเครื่องสำอางที่ต้องใช้หัวน้ำหอมจำพวก Fragrance, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, น้ำหอมระงับกลิ่นกาย, โลชั่นหลังโกนหนวด เป็นต้น
เพราะจะมีการผสมสีและสารกันเสีย ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองแพ้ และมีผลต่อระบบสืบพันธุ์ได้
2.สารเคมีจำพวก Formaldehyde พบมากใน แชมพู, เจลอาบน้ำ, เจลล้างมือ, ยาทาเล็บ, น้ำยาล้างห้องน้ำและน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
3.สารเคมีจำพวก Parabens อาทิ Methylparaben, Propylparaben ฯลฯ
ซึ่งเป็นวัตถุกันเสียที่ขัดขวางการทำงานของระบบฮอร์โมน อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งทรวงอกได้
4.สารเคมีจำพวก Pesticides
5.สารเคมีจำพวก Alpha and Beta Hydroxy Acids หรือ AHA, BHA, lactic Acid, Glycolic Acid ฯลฯ
ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่พบได้ในครีมสครับหรือผลิตภัณฑ์จำพวกไวเทนนิ่งต่างๆ ซึ่งพบว่ามีความระคายเคืองต่อใบหน้าสูงมาก
และสามารถทำลายโครงสร้างของผิวหนังได้ในระยะยาว
6.สารเคมีที่ชื่อ Triethanolamine หรือ TEA พบว่ามีส่วนก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังและปอด
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ
7.สารเคมีที่ชื่อ Idopropynyl butyl carbamate ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาจัดให้อยู่ในจำพวก Toxic
หรือสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาทและระบบสืบพันธุ์
8.สารเคมีที่ชื่อ Triclosan ที่ส่งผลให้โรคมะเร็งและเป็นพิษต่อระบบภูมิคุ้มกัน
อ้างอิงที่มา: 108สุขภาพ
ข้อมูลโดย: spiceday
ว่าแม่นเจ้าของได้ใช้ของดี มีราคาแล้วคึดว่าสิปลอดภัยบ่แม่นตั๊วหนี่...บ่ได้มาตรฐานปานนี่ตี้ ส่างเป็น
ต่อไปสิได้ตรวจเบิ่งส่วนผสมดีๆก่อนซื้อมาใช้อยู่เด้อพี่น้อง เอามาฝาก ผู้ใด๋มักเครื่องสำอางคือกันเนาะจ้า....
Bookmarks