สิ้นสมเด็จวัดสุวรรณ
พระพุทธโฆษาจารย์ มรณภาพสงบ-103ปี
คณะ สงฆ์และชาวพุทธสูญเสีย "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" วัดสุวรรณาราม มรณภาพอย่างสงบที่ร.พ.สงฆ์ ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด สิริอายุ พรรษา 82 "ในหลวง" พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นเวลา 7 วัน พระราชทานโกศไม้สิบสองประกอบศพ เผยประวัติเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ทุ่มเทด้านการศึกษามาโดยตลอด เป็นพระธรรมกถึกผู้แตกฉานในการแสดงธรรมเทศนา
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. คณะสงฆ์ไทยและพุทธศาสนิกชน สูญเสียพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูป คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ สุวัฑฒโน) เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 2 และกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมรณภาพอย่างสงบด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ภายหลังเข้ารับรักษาอาการอาพาธที่ร.พ.สงฆ์ สิริอายุ 103 ปี พรรษา 82 ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษยานุศิษย์ ญาติโยม และพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าว
พระครูปลัดสัมพิพัฒนญาณวราจารย์ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สุขภาพของสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์ ไม่แข็งแรงนัก ร่างกายก่อนเพลีย อีกทั้งมีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับวัยที่ชราภาพมาก จึงนิมนต์เข้ารับการรักษาที่ร.พ.เป็นประจำ กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน คณะสงฆ์วัดสุวรรณารามนิมนต์และนำเจ้าประคุณสมเด็จ เข้ารักษาและพักฟื้นที่ร.พ.สงฆ์ โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาล และพระอุปัฏฐากคอยดูแลอย่างใกล้ชิด กระทั่งเวลา 00.55 น. วันที่ 26 ม.ค. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มีอาการแน่นหน้าอก และหายใจไม่สะดวก แพทย์นำเข้าห้องไอซียู และรักษาจนสุดความสามารถ ก่อนที่เจ้าประคุณสมเด็จจะมรณภาพอย่างสงบ
เลขานุการเจ้าอาวาสวัด สุวรรณาราม กล่าวต่อว่า วัดสุวรรณารามประสานกับทางร.พ.สงฆ์ นำศพสมเด็จพระพุทธโฆษา จารย์ เก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำ ช่วยรักษาสภาพศพให้สมบูรณ์ที่สุด พร้อมทั้งจะประสานไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อเตรียมทำเรื่องขอรับพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะเดียวกันพระสงฆ์และสามเณร ช่วยกันทำความสะอาดศาลาบำเพ็ญกุศลศพ และบริเวณวัดโดยรอบ ทำ ให้ไม่สะดวกที่จะเคลื่อนย้ายศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในวัดสุวรรณาราม ทางพระสงฆ์ สาม เณร และคณะศิษย์ต่างจัดเตรียมทำความสะอาดศาลากาญจนาภิเษก ที่จะใช้เป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล โดยในเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ม.ค. คณะสงฆ์วัดสุวรรณาราม จะเคลื่อนศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ จากร.พ.สงฆ์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลากาญจนาภิเษก และประกอบพิธีบรรจุศพลงในโกศพระราชทาน
จากนั้นเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จะเปิดให้คณะศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปร่วมพิธีรดน้ำศพเพื่อแสดงความอาลัย ถัดมาเวลา 17.00 น. ประกอบพิธีพระราชทานสรงน้ำศพ และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นเวลา 7 วัน และพระราชทานโกศไม้สิบสอง ประกอบศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
พระครู วรวงศ์ พระลูกวัดสุวรรณาราม ในฐานะลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด กล่าวว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ สร้างผลงานให้แก่คณะสงฆ์ไว้อย่างมากมาย ทั้งในด้านปกครอง งานเผยแผ่พุทธศาสนา โดยเฉพาะด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ ท่านจะให้การสนับ สนุนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มีความเป็นห่วงมากเรื่องการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถวัดสุวรรณา ราม ที่ประดิษฐานหลวงพ่อศาสดา เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย พระประธานของพระอุโบสถ ที่ในขณะนี้ซ่อมแซมพระอุโบสถไปได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับประวัติ สมเด็จพระพุทธโฆษา จารย์ มีนามเดิมว่า พุฒ สุวัฒนกุล เกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2450 ที่บ้านมะขามเรียง ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดามารดา ชื่อ นายเพชร และนางทองคำ สุวรรณฉาย เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ.2467 โดยมีหลวงพ่อเพชร วัดตะลุง เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ พัทธสีมา วัดตะลุง ต.งิ้วราย อ.เมือง จ.ลพบุรี ก่อนเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เมื่อปี พ.ศ.2470 โดยมีพระญาณไตรโลก (ฉาย) วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์บัตร วัดสะตือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการอุ่น วัดหนองแห้ว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมาวัดบัวงาม ต.จำปา อ.ท่าเรือ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลี สามารถ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค จากสำนักเรียนวัดสุทัศนเทพวราราม อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งในทางปกครองคณะสงฆ์ อาทิ กรรมการมหาเถรสมาคม, ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 2, ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ, ที่ปรึกษาสหภูมิอยุธยา, ประธานกรรมการสภาพระธรรมกถึก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นต้น และเมื่อปี พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ โดยตลอดชีวิตของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ทุ่มเทเวลาให้การศึกษามาโดยตลอด เป็นพระเถระผู้แตกฉานในการแสดงพระธรรมเทศนา การบรรยายธรรม และสอนพุทธศาสนา กล่าวได้ว่าเป็นพระธรรมกถึกเอกรูปหนึ่งของประเทศไทย
ที่มาจาก
Bookmarks