ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของคนเมือง หรือหนุ่มสาวออฟฟิสตึกระฟ้าอีกแล้ว
เพราะหลายคนต้องพึ่งพาการขึ้น-ลงลิฟต์วันละหลายครั้ง
หลายคนอาจโชคดีที่ไม่เคยติดอยู่ใน "ลิฟต์" โดยลำพัง
แต่คนที่แจ็คพอตแล้วขอบอกว่า...น่ากลัวมั๊กมาก โดยเฉพาะหากเจอไฟดับในลิฟต์ด้วย
ผู้เขียน กลายเป็นคนถูกเลือกให้ติดอยู่ในลิฟต์ ที่แสนระทึกใจอย่างน้อย
3-4 ครั้งแล้ว จึงอยากเตือนภัยให้ระมัดระวังกันไว้บ้าง
วีรกรรมแรก... ไปเยี่ยมแม่เพื่อนที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี
จำไม่ได้ว่าตึกไหนแล้ว ประมาณทุ่มเศษๆ พอจอดรถเสร็จก็ตรงรี่ไปใช้บริการลิฟต์
เพื่อขึ้นไปที่ชั้น 4 ปรากฎว่าเจอ "ลิฟต์ค้าง" ช่วง 2-3
นาทีแรกก็ยังคิกคักได้กับพี่อีกคน แต่พอกดปุ่มฉุกเฉิน (Emergency call ) แล้ว
ไม่มีเสียงดัง ...เสียครับทั่น .....ทำไงดี ?
ทั้งสองสาวพยายามช่วยกันงัดประตูลิฟต์ก็แล้ว
ตะโกนให้คนข้างนอกช่วยก็แล้ว ไม่มีใครช่วยเราเลย (คงคิดว่าเราเป็นผี...แน่ๆ
เพราะตอนนั้นเกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว )
ใจแป้ว 10 นาทีผ่านไป อากาศภายในเริ่มอึดอัด
แต่โชคดีที่ไฟในลิฟต์ยังเปิดสว่างอยู่
จึงควักโทรศัพท์มือถือโทรกลับไปหาเพื่อนที่ออฟฟิส
เพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยายาบาล แต่พอโทรไปแล้วกลับไม่มีคนรับสายเลย
เพราะเป็นเวลาเลิกงานราชการแล้ว...โอ้ My God
สุดท้าย โทรไปแจ้งตำรวจ 191 ไม่นานก็มีพี่ๆ ตำรวจใจดี 2
นายที่เข้าเวรอยู่ในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมางัดเปิดประตูลิฟต์ออกมาได้
แต่พบว่าลิฟต์ค้างอยู่ระหว่างชั้นเลยต้องปีนป่ายกันเล็กน้อย
งานนี้ต้องบอกว่าโชคดี เพราะมือถือช่วยชีวิต แต่โชคดีที่สุดก็คือ
มีสัญญาณมือถือในลิฟต์..!
ครั้งที่ 2
รอบนี้ติดอยู่ในลิฟต์ของคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งย่านเมืองนนทบุรี
วันนั้นเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้คนในคอนโดฯ
ส่วนใหญ่เดินทางไปฉลองปีใหม่ต่างจังหวัด บรรยากาศคอนโดฯ เงียบเหงา นานๆ
จึงจะมีคนมาใช้ลิฟต์ บ่ายวันนั้นบังเอิญต้องลงไปขนสัมภาระในรถรอบที่ 2
ก็เลยขี้เกียจพกมือถือ โดยขึ้นลิฟต์มากับชายคนหนึ่งที่พักในคอนโดฯเดียวกัน
จู่ๆ ลิฟต์ก็ค้าง เปิดไม่ออก กดปุ่มฉุกเฉินแล้วก็ไม่ดัง
รปภ.ก็ไม่ได้นั่งอยู่ในตึก
....!
โชคดีที่ชายคนนี้มีมือถือ แต่แบตเตอรรี่ก็ใกล้จะหมด
แต่ก็สามารถโทรไปบอกคนที่พักในห้องเดียวกันให้ไปตาม
รปภ. ที่อยู่ด้านนอกของตัวตึกมาช่วยกันเปิดลิฟต์ออกมาได้
คราวนี้ติดอยู่ในลิฟต์ประมาณ 15 นาที การหายใจเริ่มอึดอัด เริ่มวิตกกังวล
รอบนี้ติดอยู่นาน เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าลิฟต์มันค้างอยู่ชั้นไหนกันแน่
รปภ.ต้องสุ่มเปิดลิฟต์อยู่หลายชั้น กว่าจะรอดออกมาได้ก็เข่าอ่อนไปเลย
ครั้งที่ 3 ขึ้นลิฟต์ที่ออฟฟิศไปพร้อมกับแม่และเด็กคู่หนึ่ง
พอดีฝนตก เกิดไฟดับกระทันหัน ภายในลิฟต์มืดสนิท
หัวใจหล่นไปกองที่พื้นอีกแล้ว แต่ก็ยังมีสติเอื้อมไปกดปุ่ม Emergecy
call มีเจ้าหน้าที่
รปภ.มาช่วยๆ ได้เร็วทันใจ
ครั้งที่ 4 ผ่านไปหมาดๆเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเลิกงานราว 3
ทุ่มเศษ ลงลิฟต์คนเดียวเพื่อจะกลับบ้าน ลิฟต์ก็ไปติดอยู่ที่ชั้น M
ไม่ค่อยรู้สึกกลัวเพราะจะถึงชั้นล่างแล้ว
พอดีลองกดปุ่มปิด-เปิดอีกครั้งก็เลยรอดมาได้
แต่... ครั้งนี้มีลางบอกเหตุ เมื่อคืนฝันว่าตัวเองติดอยู่ในลิฟต์
ก็รู้สึกผวาทั้งวัน และในช่วงบ่ายบังเอิญต้องไปทำงานที่กระทรวงแห่งหนึ่ง
ที่ชั้น 28 แต่ก็ไม่เจออะไร โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิสจนค่ำ
สุดท้ายมาติดลิฟต์ที่ออฟฟิศตนเองเสียนี่
แถมมารู้ข่าวทีหลังว่าเมื่อคืนลิฟต์ที่คอนโดฯ
ตัวเองก็เสียอีกแล้ว ...ฮือ ฮือ....ชั้น รัก ลิฟต์จังเลย...!
แต่ทุกวันชีวิตก็ต้องผูกพันกับลิฟต์ ยังไงก็ต้องใช้ลิฟต์
วิธีป้องภัยติดลิฟต์คือ ต้องมีสติทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้
และสำทับตัวเองเสมอว่า ต้องพกมือถือติดตัวตลอด
ที่สำคัญยังมีเรื่องใกล้ตัวที่ต้องระวังอย่างยิ่งสำหรับสุภาพสตรีที่ต้องเผชิญโลกนอกบ้าน
นอกจากติดลิฟต์แล้ว ยังเจอปัญหา "ติดในห้องน้ำ" โดนมาเต็มๆ 2 ครั้งแล้ว
ครั้งแรกนี่ก็สยองที่สุด
ไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้วไปเข้าห้องน้ำของป้อมตำรวจแห่งหนึ่ง
กลุ่มพี่ผู้ชายเข้าไปปลดทุกข์ครบแแล้วก็ถึงคิวเราเข้าเป็นคนสุดท้าย (
เป็นหญิงสาวคนเดียว)
เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ประตูห้องน้ำเปิดไม่ออก เปล่งเสียงตะโกน
ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะเป็นห้องน้ำแบบปิดทึบ และไม่มีมือถือด้วย
รีบตั้งสติให้มั่น ทั้งถีบทั้งเตะประตู
กระทั่งตำรวจในป้อมยามได้ยินมาเปิดให้ ปัญหาเกิดขึ้นเพราะลูกปิดประตูเสีย
หมุนเท่าไหร่ก็ไม่ออก ส่วนใหญ่เป็นประตูลูกบิดแบบพีวีซี
ถัดมาอีก 2-3 ปี ก็แจ็กพอตอีกแล้ว คือ ไปติดอยู่ในห้องน้ำ ชั้น 2
ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด
ลูกบิดประตูห้องน้ำเสียอีกแล้ว รอบนี้ลืมพกมือถือ
เพราะรีบมากก็เลยฝากกระเป๋าไว้กับเพื่อนข้างนอก
พอตะโกนให้คนช่วยก็ไม่มีใครมาเข้าห้องน้ำเลยในช่วงนั้น เพราะเป็นเวลาประมาณ
12.30 น. ข้าราชการพักเที่ยงไปกินข้าวข้างนอกกันหมดแล้ว
แต่ก็โชคดี (อีกแล้ว) ที่สุขาแห่งนี้เป็นแบบห้องน้ำเปิดโล่งข้างบน
จึงใช้วิชาลิงปีนป่ายลงมาได้อย่างทุลักทุเล นี่แหละภัยใกล้ตัวของจริง
ซึ่งไม่นับรวมพวกโจรขโมยที่แอบซุ่มซ่อนอยู่ในห้องน้ำในปั๊มน้ำมันที่หญิงสาวต้องยิ่งระวังเป็นพิเศษ
วันนี้ ทุกครั้งที่เดินทางไปนอกบ้าน ไปตะลอนทัวร์ต่างจังหวัด
หรือไปต่างประเทศ จะเลี่ยงเข้าห้องน้ำที่มีประตูเป็นลูกบิด
และพยายามไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับเพื่อน แต่ที่แน่ๆ
ยังพกโทรศัพท์มือถือไว้ข้างกายตลอด อย่างน้อยก็มั่นใจว่าโทรหาเพื่อนได้
แต่อย่าให้แบตเตอรี่หมดล่ะ
...!
ที่มา...ฟอร์เวิร์ดเมลธรรมะสวัสดีดอทคอม
Bookmarks