เรื่องมีอยู่ว่า ...สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด
เหตุเกิดในกรณีการรับสมัครสอบ และประกาศผลสอบ ของเด็กในเขตพื้นที่
ลักษณะใบสมัครเป็นแบบ ก , ข
เด็กในเขตพื้นที่ใช้ฉบับ ก เหตุคือเด็กในเขตพื้นที่บริการ จำนวนมากที่โดนตัดสิทธิ์ในการลงสอบโดยครูที่เป็นคณะแจกใบสมัครให้
เหตุผลว่า
1. เด็กคนละนามสกุลกับเจ้าบ้าน ซึ่งผู้ปกครองบางท่านก็พยายามอธิบายว่าเป็นปู่ ย่า ตา ยาย ของเด็กคนนั้น ครูก็ไม่ยอม ก็เบี่ยงประเด็นไปว่าเด็กพึ่งย้ายเข้ามา ทางผู้ปกครองก็แย้งอีกว่าเด็กย้ายเข้ามาเรียนตั้งแต่อนุบาลจนประถม6 ยังไม่พออีกเหรอครับ ฝ่ายครูก็ตอบว่าไม่รู้ ถ้าอยากให้เด็กเรียนก็ต้องระบบ ง ผู้ปกครองท่านนั้นก็ถามระบบ ง คืออะไร ในเมื่อใบสมัครมีแค่ ก-ข แล้ว คไปไหน
ฝ่ายครูก็ยืนกรานคำเดียวระบบ ง ผู้ปกครองท่านนั้นจึ่งถึงบางอ้อ...แล้วก็เลยถามว่าเท่าไร ครูตอบ15,000-20,000บาท.ขึ้นไป...คุณลองคิดดู ชาวบ้าน คนทำงานต่างจังหวัดจะหาเงินมาจากไหนละครับผม
2. ผู้ปกครองอีกท่านหนึ่งเป็นคนแก่ พาหลานเข้ามาสมัครสอบ พอขึ้นไปที่ตึกรับสมัคร แกถามครูว่าเด็กอยู่ในเขตพื้นที่ ใช้ใบสมัครแบบไหน ครูกลับตอบว่า ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายให้สิทธิกับเด็กในเขตพื้นที่มา2ปีแล้วคะ...แล้วก็พูด ว่าถ้าเด็ฏอยากเรียนก็ต้องบริจาคให้ทางโรงเรียนนะคะ ขึ้นอยู่ที่มากน้อยแค่ไหน ยายฟังแล้วก็เลยนิ่งไป คุณลองพิจารณาให้หน่อยครับว่าที่พูดนะหมายถึงเงินแป๊ะเจี้ย ที่สมัยก่อนเขาใช้เรียกกันหรือเปล่า...
ขอยกตัวอย่างแค่นี้นะครับ จริงๆแล้วปัญหามีมากมายเหลือเกิน แล้วยังงี้จะทำให้เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติเจริญได้อย่างไรในเมื่อผูู้ ใหญ่หากินบนตัวเด็ก เด็กๆยังพูดกันเลยครับว่า
การสนทนาของเด็กๆ " สอบไม่ติดทำยังไงละ".....
."ก็เสียเงินเข้าสิจะไปยากอะไร แม่เค้ามีเงินจ่าย"
"เหรอเท่าไรละ "......"20,000"..... (ความคิดและคำพูดของเด็กหญิงเด็กชายที่เขาคุยกัน)
ที่ยกมาแค่ตัวอย่างอันน้อยนิด ยังมีอีกมากมายหลายเหตุผลที่อ้างว่าต้องเสียเงินเข้าเพราะอะไร ฝากคุณครูที่รักเด็กๆด้วยนะครับ อุดมการณ์การยึดมั่นแห่งความเป็นครูอย่าให้เป็นไปแบบนี้เลยสงสารเด็กครับ ผมเชื่อครูดีๆมีเยอะ ผมเชื่อว่ายังมีมาก และมากด้วย
ผมขอฝากพิจารณาด้วยนะครับ สงสารอนาคตของชาติ สงสารเด็กน้อยที่โดนปลูกฝังค่านิยมที่ผิดๆ ไม่ได้อะไรก็ต้องใช้เงินซื้อแม้กระทั่งการเข้าโรงเรียน การมีเพื่อน การทำงาน ใช้เงินยัดเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ขอบคุณครับผม...
Bookmarks