เวลาผ่านเร็วจังเลย แว๊ปแรกที่จี๊ดขึ้นมาในหัว มันทำให้เราได้นึกย้อนกลับไปในหลายสิ่ง หลายอย่างที่เราได้ทำลงไปและหลายสิ่งหลายอย่างที่เราพลาดโอกาสที่จะทำมัน แต่เราคงเรียกร้องหรือย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ คงได้แต่ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้น เทศกาลสงกรานต์มาอีกรอบหนึ่งแล้ว ยังจำวันที่เบียดเสียดคนนับพันนับหมื่นขึ้นรถไฟได้ติดตาติดใจไม่เคยลืม แต่นั่นคือสงกรานต์เมื่อสองปีที่แล้ว นึกได้อีกทีอ่าวเราไม่ได้กลับบ้านมาปีกว่าๆแล้วนี่นา ทำไมมันเร็วแบบนี้นะประสบการณ์บอกให้รีบจองตั๋วรถซะ จะได้ไม่ต้องทนยืนจาก กทม-บุรีรัมย์ แล้วก็ได้ตั๋วเย็นวันศุกร์ เป็นไปตามคาดคนเต็ม แน่นทุกขบวน โชคดีที่เรากลับวันแรกคือเย็นวันที่ 9 เลยได้ที่นั่งมาไม่ได้เตรียมอะไรเลย น้องโทรมาก่อนวันเดินทางหนึ่งวันบอกอยากได้ปืนฉีดน้ำ ยังมีระบุอีกว่า แบบสะพายหลังนะพี่ เอารูปโดเรมอนด้วย มีการสั่ง แต่วันศุกร์ก็มาทำงานจะซื้อยังไงทัน ก็ตอนเย็นเราเดินทางแล้วนี่ นึกได้ พี่สาวเราไง เลยรบกวนไปในเอ็มและหน้าห้องแชท พร้อมกับฝากซื้อขนมต่างๆด้วยงบที่จำกัดนิดนึง :l- สั่งเรียบร้อยใกล้จะเลิกงานพี่ที่ทำงานเดินมาบอกว่า เออนี่วันที่12กับ16มาทำงานปกตินะ งานเข้าแล้วไงคงไม่เป็นไรถ้าเราลาไว้ล่วงหน้าแต่ นึกว่าเขาจะหยุดวันที่ 16 คิดไว้แค่ จะลาวันที่ 12 ปีนี้เราก็หยุดไปซะเยอะด้วยซิ นั่งคิดสักพักนึง คงต้องมาทำงานถ้างั้นคงกลับไม่ได้ สงกรานต์นี้คงไม่ได้กลับอีกแล้ว พี่ซื้อของเตรียมไว้ให้แล้ว พร้อมขนมต่างๆมากมายประมาณว่าเต็มลังทีเดียวเชียว 555+ เลยรบกวนแกอีกรอบนึงว่า ส่งไปรษณีย์กลับบ้านให้ผมหน่อยพี่สาวคนน่ารักก็แสนใจดี ทำให้โดยไม่มีข้อแม้ เอ๊ะหรือว่าเพราะเรากำลังซ่อมคอมฯให้อยู่ 555+ แต่พี่ก็ไปส่งให้ แบบธรรมดาคนส่งบอกว่าน่าจะถึงหลังสงกรานต์โน่น อืมมน่าจะไม่ทันเล่นปืนฉีดน้ำแน่เลยน้องชาย ยังไม่ทันไร น้องก็โทรมาอีกครั้งแต่ก็ต้องบอกไปว่าจะไม่ได้กลับแล้ว เสียงจากต้นสายเงียบสนิทแล้วพูดเสียงอ่อยๆมาว่าทำไมไม่ได้กลับ ในใจคิดว่าน้องคงจะเสียความรู้สึกมากพอสมควร ก็ต้องอธิบายเหตุผล และบอกไปว่าของส่งไปให้หมดแล้วแต่กว่าจะถึงคงจะหลังสงกรานต์ พอสายวางไปไม่ทันไร แม่ก็โทรมาอีกครั้งแล้วก็ถามว่าทำไมถึงกลับไม่ได้ ลางานไม่ได้เหรอ แม่บอกว่าน้องดีใจมากที่พี่ชายจะกลับบ้าน น้องคนกลางไปหว่านแหได้ปลามาบอกว่าทำไว้ให้พี่จันทร์ด้วย น้องชายคนเล็ก(ที่สั่งปืนฉีดน้ำ) เก็บมะม่วงมันหลังบ้านเก็บไว้ให้กิน แม่บอกเยอะมากเพราะรู้ว่าเราจะกลับเลยหวงเอาไว้ ได้ฟังแบบนี้แล้วรู้สึกผิดยังไงๆ ไม่รู้ แต่แม่ก็เหมือนจะเข้าใจว่ากลับยังไม่ได้ พอคุยกันสักพัก วางสายไปนอนคิดว่าจะเอาไงดี เสาร์ผ่านไป อาทิตย์ผ่านไป วันจันทร์มาทำงานดูเงียบเหงาหลายคนลากลับบ้านยาว กลับถึงห้องแม่โทรมาอีกครั้งนึงบอกว่ามาวันสองวันก็ได้นี่ แค่ได้กลับมา ดูน้องจะงอนพอสมควร 555+ แม่ก็อยากให้กลับด้วย ก็เลยอะ กลับก็กลับเย็นนั้นก็เลยรีบกลับห้องเปลี่ยนชุดออกไปซื้อของให้น้องใหม่ ปืนฉีดน้ำและขนมอีกเพราะคิดว่าที่ส่งไปคงยังไม่ถึงแน่ๆ แต่เดาไว้ในใจไปวันนี้คนคงจะเยอะแน่ๆ และเราไม่ได้จองตั๋วไว้ด้วย ยืนอีกตามเคยตั๋วที่จองก็เสียไปเฉยๆ เฮ้อออ อะแม่ให้กลับ ยังไงก็กลับพอนั่งรถไปถึงสถานีรถไฟ คนเยอะมากกกกกกก พยามเบียดๆเข้าไปดูเวลารถ สี่ทุ่ม ห้าทุ่มคนแน่นไปหมดยืนได้สักชั่วโมงนึงก็เลยตัดสินใจกลับห้องก่อนดีกว่าเพราะคนเยอะขนาดนี้ไม่ไหวแน่ๆ ไปนั่งรอที่ป้ายรถเมล์ อืมมรถเมล์น้อยมากที่จะวิ่งไปสายที่เรานั่งเผอิญตรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมประกอบกับสี่ทุ่มแล้วรถเริ่มไม่มี ก็เลยนั่งรอไปเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จนรถรอบสุดท้ายหมด นายสถานีประกาศให้ทุกคนที่อยู่ในหัวลำโพงออกมารอข้างนอก ผมนั่งรอที่ป้ายจนเที่ยงคืน ก็มีลุงที่เขาให้ออกมาข้างนอกมานั่งเป็นเพื่อนและคุยกันไปต่างๆนานา สักพักลุงก็หลับไปบนที่นั่ง 55+ ดูเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว คิดไปคิดมาอะนั่งรอจนเช้าแล้วกัน รอไปรถรอบ06.40คงจะไม่แน่นนั่งรอ รู้สึกเหนื่อยมากแต่คนค่อนข้างเยอะเลยดูไม่ค่อยเหงาเท่าไร ตีสามกว่าๆเกือบตีสี่ เข้าไปข้างในได้แล้วเฮ้อออ ดีหน่อยนั่งให้ยุงกัดตั้งนาน เข้าไป อ่าวววว คนยังอยู่เยอะพอสมควร แต่ก็มีที่นั่ง นั่งลงสักพักเขาขายตั๋วทุกขบวนที่จะออก ไม่ว่าจะสายอิสานเหนือ อิสานใต้ และภาคอื่น คนเริ่มเยอะๆ ๆ ๆ ๆ ในใจคิดจะไม่ได้ไปอีกหรือเนี่ยพอคนเริ่มซาลงเอา เป็นไงเป็นกับยืนเบียดแน่นก็ยืน ไปซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่ยิ้มๆ บอกว่าตั๋วยืนนะครับ ตอบเขาไป อ๋อครับแล้วก็เดินไปซื้อน้ำ เพราะไม่ได้กินอะไรเลยหิวมาก แต่ในใจแม่ พ่อ น้องๆ รอเราอยู่ยังไงก็กลับบ้านให้ได้ไปซื้อน้ำมาจ่ายเงิน คนต่อคิวเยอะจัง เหมือนของลดราคาทั้งๆที่แพงออกขนาดนั้น 555+ หันไปอีกเคาท์เตอร์นึง อ้าวววววว พี่อ้วน คนบ้านเดียวกันดีใจมากเลยถามกันนิดหน่อยพี่เขาก็ชวนไปนั่งด้วยกัน เฮ้ออโล่งอกถึงจะนั่งไม่ได้แต่อย่างน้อยก็มีเพื่อนกลับด้วยกัน พึ่งรู้ความหมายของการมีคนไปไหนมาไหนด้วยก็ตรงเนี่ย :l- ซื้อเสร็จเดินออกมามีผู้หญิงคนนึงยืนตรงเสาร์พร้อมกระเป๋าเหมือนจะรอใครอยู่ ผมก็นึก่าแฟนพี่เขา พี่เขาก็นึกว่าแฟนผมเราหยุดอยู่จรงหน้าเธอ เธองงๆ ผมไม่รีรอที่จะยกมือไหว้เพราะคิดว่าแฟนพี่เขา เธอคงจะงงมาก ถามไปถามมาอ่าวไม่ใช่ นั่นก็ไม่ใช่ 555+ แล้วก็เดินเลยไปทิ้งความสงสัยให้เธอ รู้สึกอายนิดๆแต่ก็เหนื่อยมากกว่า เดินไปขึ้นรถรถยังโล่งพอสมควรขึ้นไปเอาของเก็บบนรถได้ค่อยโล่งใจหน่อยรอสักพักใกล้รถจะออกคนเริ่มเต็มในที่สุดก็ตามคาด คนแน่นรถไปตามสถานีต่างๆ คนขึ้นมาอีกมากมายเลยทีเดียว แต่ที่ดูอบอุ่นคือทุกคนจะพูดอิสาน มีน้ำใจให้กันดูแล้วน่ารักดีจัง รถแน่นๆสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไรก็คนที่มาขายของ 555+ เดินยากนิดนึง แต่ถ้ารถไม่แ่น่นนี่สนุกเลยหละ กว่าจะถึงบ้านเหนื่อยมากกกกกกกกกก ใครเคยมีประสบการณ์คงจะเข้าใจความรู้สึกของการเดินทางเวลาคนแน่นๆ กลับมาถึงบ้าน พ่อ แม่ น้องๆ มารอรับรู้สึกหายเหนื่อย เจอพี่ๆน้องๆ กลับบ้านค่อยๆมองไปรอบๆ อืมม เราไปแค่ปีกว่าๆมีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะพอสมควรเลย น้องสองคนดตเป็นหนุ่ม มีหลานเพิ่มขึ้นอีก หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปแต่สิ่งที่รับรู้ได้เวลาไกลบ้าน คือความรักที่เด่นชัดขึ้นมาจากหัวใจ ได้รับรู้ว่าท่านรักเรามากแค่ไหน และรู้ว่าเรารักท่านแถมยังมีน้องๆที่รอเราอยู่ กลับมากทม คราวนี้มีแรงฮึดสู้งานอีกเฮือกให้ จะสู้ต่อๆ :l-
ปล. ของที่ส่งไปแม่โทรมาว่าพึ่งได้รับเมื่อวาน จ๊ากกกกกก
ปล.อีกนิด แล้วคนอื่นหละ คนไกลบ้านทั้งหลายกลับเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไร เป็นไงบ้าง :l-
[RADIO]http://dc101.google.co.th/img/7202939...d1/preview.mp3[/RADIO]
Bookmarks