ยาทิส์ วปเต พช ตาทิส์ ลภเต ผล์
กลฺยาณการี กลฺยาณ์ ปาปการี จ ปาปก์
บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
(พุทฺธ) ส์.ส ๑๕/๓๓๓.
ชาวนา เมื่อฤดูทำนาย่อมไถและหว่านข้าวลงในนา เพราะมีน้ำหรือฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวที่หว่านไว้ก็เจริญงอกงามและออกรวง ฉันใดผู้กระทำกรรมดี คือกุศลธรรม ๓ อย่าง มี
๑. อโลภะ ไม่อยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตนเองในทางมิชอบ
๒. อโทสะ ความไม่คิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือการกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
๓. อโมหะ ไม่หลงงมงาย คือ เชื่อโดยความถูกต้อง เมื่อกระทำกรรมดีตามที่กล่าวแล้ว ผู้นั้นย่อมได้รับผลดี คือไม่ต้องกลัวเดือดร้อน เพราะกรรมที่ตนกระทำไว้ดี ผลที่ได้รับ คือความสุข ความสบาย และมีสุคติ เป็นเบื้องหน้า แต่ผู้ที่กระทำกรรมชั่ว คือ กรรมลามก หรือบาปกรรม เขาได้รับผลชั่วตามที่ได้ประกอบกรรมทำชั่ว เป็นความทุกข์ความเดือดร้อนในโลกนี้ แม้ละจากโลกนี้แล้งก็ประสบกับความเร่าร้อนในอบายในสัมปรายภพต่อไป
Bookmarks