.....สรรพสิ่งล้วนเกิดมาเพื่อดำรงอยู่และเสื่อมสลายไปในตัวเอง เป็นความจริงตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ถึงสรรพชีวิตที่เกิดมาและเกี่ยวพันกัน ไม่ว่าเราจะดื้อรั้นหรือปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงนั้นเพียงใด สุดท้ายทุกอย่างก็ลงเอยอย่างที่ธรรมชาติต้องเป็นไป
.....ทว่าคนเรากลับไม่ยอมรับที่จะอยู่กับการเปลี่ยนแปลง รู้ไม่เท่าทันความจริงของสิ่งที่เปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้ชีวิตจิตใจจึงถูกรุมเร้าด้วยความทุกข์ตลอดมา เพราะมัวแต่ยึดยื้อกับความไม่เที่ยงของกาลเวลาอย่างไร้ความเข้าใจ
.....สำหรับคนที่เข้าใจชีวิตตามความเป็นจริง ทุกสรรพสำเนียงที่ส่งมาเตือนโดยธรรมชาติ ย่อมเป็นครูสอนชีวิตให้ฉลาดขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นครูที่ดีในการบอกเล่าตำนานของชีวิต เป็นนิทานเรื่องยาวที่เล่าขานต่อกันมาไม่รู้จบ
.....แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ขับเคลื่อนดวงใจไม่ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ที่ได้ประสบมา ปฏิเสธความจริงที่มาจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น จึงต้องทุกข์ทรมานกับความรู้สึกที่รับไม่ได้ ต้องจมอยู่กับอดีตในวันวานที่ตัวเองไม่อาจย้อนคืน
.....เพราะคนที่จมอยู่กับความคิดเดิมๆ และยึดมั่นถือมั่นอยู่กับวันวานที่ผ่านมาโดยขาดความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เขามักจะวางกรอบความคิดตามมโนภาพที่ตนวาดไว้ฝ่ายเดียว เป็นภาวะของการเอาความต้องการของตัวเองเข้าไปจับเป็นเกณฑ์ ซึ่งส่วนมากก็ล้วนปรารถนาให้ทุกความคิดก่อเป็นความจริงในความรู้สึกของตน
.....ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน ต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ทันโลกที่หมุนไป ด้วยความเข้าใจ อาจไม่ต้องให้ทันวัตถุที่เปลี่ยนไปทั้งหมด แต่ให้รู้เท่าทันความรู้สึกที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองเมื่ออารมณ์ต่างๆเวียนผ่านเข้ามาทดสอบจิตใจ เพื่อประคองชีวิตให้ดำรงอยู่ด้วยภาวะของความปกติสุขอย่างที่ควรจะเป็น
.....ถ้าเราต้องการมอบความสุขให้กับชีวิตของตัวเอง เราจำเป็นต้องมีความรู้สึกตัวที่ชัดเจนที่มาจากกระบวนการกลั่นกรองของปัญญา ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรู้เท่าทันไปพร้อมกัน ความสุขที่เป็นแก่นสารจึงจะบังเกิดมีแก่เรา
.....ไม่ใช่เป็นคนขวางโลกหรือยืนอยู่เฉพาะจุดยืนที่ตัวเองคิดว่าถูกเท่านั้น เพราะถ้าคิดเช่นนี้ ประตูแห่งความสุขก็จะถูกปิดตัวลงตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้เราไม่สามารถเปิดรับความรู้สึกดีๆที่มีอยู่มากมายได้อีกเลย

.....ความสุขของชีวิตจึงไม่ควรอยู่ที่ว่าใครมีวัตถุเงินทองมากเท่าใด เพราะวัตถุที่เรามีนั้นไร้ความรู้สึก และไม่สามารถเติมเต็มรายละเอียดของความสุขได้ แต่ควรอยู่ที่ว่าใครจะรู้จักแสวงหาบนพื้นฐานของความพอเพียง และเกี่ยวข้องกับสรรพสิ่งอย่างรู้เท่าทัน นั่นต่างหากเป็นความสุขที่ชีวิตใฝ่หา.....