หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 16

หัวข้อ: เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว)

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว)

    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว)



    1. ผีเสื้อรับรสด้วยเท้าของมัน

    2. เสียงร้องของเป็ดจะไม่เป็นเสียงสะท้อน (echo) ไม่มีใครรู้ว่าทำไม

    3. ในเวลา 10 นาที พายุเฮอริเคน... มีพลังมากกว่า..พลังงานนิวเคลียร์

    4. ช้าง..เป็นชนิดเดียวในโลก ที่ไม่สามารถกระโดดได้

    5. ผู้หญิง... กระพริบตา...มากกว่า..ผู้ชาย..ถึง 2 เท่า

    6. แปลก... ที่มนุษย์เรา... ไม่สามารถเลียข้อศอก...ของตัวเองได้

    7. ห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยอินเดียนน่า จมลงในดิน 1 นิ้วทุกปี เพราะวิศวกรลืมคำนวณถึงน้ำหนักหนังสือ

    8. หอยทาก...สามารถนอนหลับได้ 3 ปี!

    9. ตาของเรา...จะขนาดเท่าเดิมตลอด...ตั้งแต่เกิด แต่จมูกและหู...จะไม่หยุดโต

    10. เก้าอี้ไฟฟ้า (สำหรับประหารชีวิตนักโทษ) ออกแบบโดยหมอฟัน

    11. หมีขั้วโลกทุกตัว...จะถนัดมือซ้ายทั้งนั้น

    12. สมัยอียิปต์โบราณ พระ...จะถอนขนทุกเส้นในตัว รวมถึงคิ้วและขนตา....โอยยย

    13. ตาของนกกระจอกเทศ ใหญ่กว่า...หัวสมอง..ของมันซะอีก

    14. คำว่า ...TYPEWRITER ... เป็นศัพท์ที่ยาวที่สุด
    ที่คุณจะนึกออก.....ในแป้นพิมพ์แถวเดียวกัน



    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)


    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)




    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)


    1 ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้
    โดยใช้ไข่ขาว มาทาที่น้ำร้อนลวกให้ทั่วทิ้งไว้จนแห้ง ไปเอง แล้วรอสักพักใหญ่ๆ จึงล้างออกจะไม่มีรอยแดง หรือพองเลย ข้อสำคัญ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้ถูกน้ำเย็นหรือของอื่นเลย และอย่าไปแกะ หรือเกาตอนที่ใกล้จะแห้ง เพราะจะทำให้หนังถลอก


    2 ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้
    โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆ ของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมด แล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ



    3 ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย

    โดยการใส่หลอดลงไปให้ลึกถึงก้นขวด เพื่อให้อากาศสามารถแทรกผ่าน เข้าไปในขวดได้ แล้วเทซอสมะเขือเทศ ก็จะไหลออกมาง่ายขึ้น


    4 ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย
    โดยการนำเกลือ 2 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลอน แช่ถุงน่องใหม่ไว้นาน 3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ยกถุงน่องขึ้น มาตากให้น้ำหยดจนแห้ง ก็จะทำให้ถุงน่องคงสภาพ และเหนียวทนนาน


    5 มันฝรั่งกำจัดกลิ่นปลาร้าติดมือ ไม่ได้
    แต่มันฝรั่งสามารถกำจัดกลิ่นหัวหอมติดมือได้ โดยการนำมันฝรั่งที่ปอกแล้ว มาถูมือที่มีกลิ่นหัวหอมติดอยู่ กลิ่นหัวหอมก็จะค่อยๆ จางหายไป


    6 พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้
    เวลาตากของแห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้


    7 เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้
    ให้รินเบียร์ลงไปบนเกลียวขึ้นสนิมนิดหน่อย รอ 2-3 นาที ความเป็นกรดของเบียร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษสนิม ทำให้เกลียวหมุนเปิดได้ง่ายขึ้น



    8 เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่ายได้
    การรีดผ้าไหม ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพราะผ้าไหมจะไหม้เกลียม หรือเป็นสีเหลืองได้ง่าย แต่ถ้าผ้าไหมยับมาก ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น ประมาณ 10 -15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่าย และเรียบยิ่งขึ้น



    9 นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาได้
    โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา


    10 ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่นได้ จริงหรือ
    โดยให้นำใบฝรั่งมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ แยกกากใบออก น้ำมันหอมระเหยที่ได้ จะทำหน้าที่ดับกลิ่น ส่วนกากใบที่ได้ให้นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยดูดกลิ่นได้



    11 กินน้ำมะนาวปั่นสามารถแก้อาการเมาค้าง ไม่ได้
    แต่แก้อาการเมาค้างได้โดยการดื่มน้ำกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง เพราะกล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา ทำให้อาการเมาหายไปได้



    12 เมื่อเป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง
    เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียมสูง เมื่อเวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงจะส่งผลให้เกิดอาการชักได้



    13 มันฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำลงได้
    เพราะในมันฝรั่งมีสารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชื่อว่า คูคัวไมน์ส มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำลง และมันยังรักษาโรคที่ลึกลับที่เรียกว่า โรคนอนหลับ ได้อีกด้วย



    14 ดื่มนมร้อนก่อนนอนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศไม่ได้
    แต่การดื่มนมร้อนก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น เพราะนมร้อนจะส่งเสริมให้สมองหลั่งสาร


    15 การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายไม่ได้
    แต่การเคี่ยวหมากฝรั่งช่วยให้คนไข้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่หายเร็วขึ้น เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการผ่าตัด เป็นการบริหารให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติได้เร็วขึ้น คนไข้จะไม่เกิดอาการลำไส้อืด ซึ่งทำให้ปวดท้อง และท้องอืด หลังจากที่ต้องหยุดทำงานไปพักหนึ่ง


    16 การกินเนยก่อนนอนทำให้นอนหลับสนิทขึ้นได้
    เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มีชื่อว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับได้สนิทดีขึ้น


    17 กินส้มช่วยแก้อาการเซ็งได้
    การรับประทานส้มโดยปอกเปลือกเองจะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวนที่เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมาด้วย


    18 การกินช็อคโกแล๊ตช่วยแก้ไอได้
    เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ตมีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ผล



    19 การกินบ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้
    เพราะ การที่คนเรามีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความเป็นด่างได้ทัน แต่บ๊วยมีความเป็นด่าง Ph 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึงช่วยถ่วงดุลความเป็นด่างได้ และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มากอีกด้วย



    20 การกินอาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้
    เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัวง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น สารอาหาร ไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง สมองจึงค่อยๆ เสื่อม




    เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้(หรือรู้แล้ว 2)



    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 05-11-2010 at 12:15.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  3. #3
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    ช่องให้กรอกตัวเลขหรือตัวอักษรเวลาสมัครสมาชิก

    ช่องให้กรอกตัวเลขหรือตัวอักษรเวลาสมัครสมาชิก



    ช่องให้กรอกตัวเลขหรือตัวอักษรเวลาสมัครสมาชิก



    เวลาเราเล่น อินเตอร์เน็ตที่จำต้องสมัครสมาชิกเราคงจะเคยเห็นช่วงที่ให้ใส่ ตัวเลขคุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร วันนี้สาระน่ารู้มีคำตอบมาให้ค่ะ ช่องที่กรอกนั้นเขาเรียกว่า แคปช่า หรือ CAPTCHA เป็นตัวย่อมาจากภาษาอังกฤษเต็มว่า Completely Automated Public Turing test to tell Computers and Humans Apart แปลง่ายๆ คือแบบทดสอบที่แยกแยะผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์ (User) ออกจากโปรแกรมอัตโนมัติหรือ บอท (Bot)



    นิยมใช้มากในวงการคอมพิวเตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปไม่สามารถแปลรหัสแคปช่าได้ ดังนั้นผู้เขียนเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการใดๆ ที่ตั้งรหัสแคปช่าไว้ จึงมั่นใจได้ว่าผู้ที่ผ่านรหัสเข้ามาเป็นมนุษย์ ที่มีความ สามารถอ่าน ออกเขียนได้และมีความตั้งใจคลิกเข้ามา บางครั้งมีการอธิบายระบบแคปช่าว่าเป็นการทดสอบแบบย้อนกลับ เพราะเป็นการทดสอบจากคอมพิวเตอร์ส่งไปยังมนุษย์
    รหัสแคปช่าส่วนใหญ่ มักเป็นภาพตัวอักษรหรือตัวเลขที่บูดเบี้ยว บางครั้งอาจเป็นเสียง เพื่อให้ผู้ใช้พิมพ์ข้อความเหล่านั้นเป็นรหัสผ่านเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ นอกจากนี้รหัสแคปช่าสมัยใหม่อาจเป็นคำถามที่ผู้คนทั่วไปรู้กันเป็นอย่างดี เช่น “สีของท้องฟ้าเป็นสีอะไร?” หรือ “1+1=?”
    แคปช่าใช้ในวงการ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ อย่าง Gmail, Hotmail และ Yahoo! ซึ่งช่วยป้องกันผู้ใช้จากอีเมล์ที่ไม่ต้องการ หรืออีเมล์ขยะ วงการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ อย่าง Paypal หรืออาจเป็นกระดานความเห็นทั่วๆ ไป


    หนังสือ พิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ไอเดียสร้างสรรค์แคปช่าเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.2543 โดย ดร.อูดิ แมนเบอร์ (Udi Manber) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอิสราเอลของบริษัท Yahoo! ที่รู้สึกหงุดหงิดกับพวกวัยรุ่นที่ชอบเข้ามาโพสต์ข้อความซ้ำๆ ข้อความโฆษณา หรือลักลอบเจาะข้อมูลส่วนบุคคลของกระดานสนทนาบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ ยังสมัครอีเมล์ฟรีเพื่อใช้เป็นที่อยู่ปลอมในการใช้งาน


    ดังนั้น จึงปรึกษากับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน สหรัฐ และนำไอเดียนี้ไปให้ ลูอิส วอน อาห์น (Luis von Ahn) มานูเอล บลัม (Manuel Blum) นิโคลัส เจ. ฮอปเปอร์ (Nicholas J. Hopper) และ จอห์น แลงฟอร์ด (John Langford) (สามคนแรกมาจากมหาวิทยาลัย ส่วนคนสุดท้ายมาจากไอบีเอ็ม) นำไปพัฒนาต่อจนเกิดเป็นแคปช่าทุกวันนี้


    แต่รหัสแคปช่ายังมีข้อด้อย อยู่ เนื่องจากใช้การพิสูจน์ความเป็นมนุษย์ผ่านทางสายตา คือการอ่านตัวอักษรที่ปรากฏบนหน้าจอ ดังนั้นจึงถูกทักท้วงว่าปิดกั้นไม่ให้ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงหน้าเว็บไซ ต์ได้ (ปกติคอมพิวเตอร์ของผู้พิการทางสายตาจะมีโปรแกรมอ่านออกเสียงตัวอักษรที่ ปรากฏบนหน้าจอ แต่อ่านรหัสแคปช่าไม่ได้)

    ดังนั้น จึงมีการเพิ่มเสียงอ่านตัวอักษรขึ้นแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเพราะมีความซับ ซ้อนในการใช้งานและการผลิต


    นอกจากนี้ บางคนยังวิจารณ์ว่า
    รหัสแคปช่าบิดเบี้ยวจนอ่านไม่รู้เรื่อง และเมื่อกด “รีเฟรช” (refresh) ก็เปลี่ยนรหัสที่ปรากฏไม่ได้ ซึ่งทีมงานแคปช่ากำลังพัฒนาต่อไป


    ปัจจุบันแคปช่ามีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่ www.captcha.net คลิกเข้าไปเพื่อดูพัฒนาการของแคปช่าหรือว่าจ้างเว็บไซต์ให้ออกแบบรหัสแคปช่า ของตัวเองก็ได้นะคะ



    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  4. #4
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    สถานที่จอดรถแล้วหาย จากวิทยุ FM 91

    สถานที่จอดรถแล้วหาย จากวิทยุ FM 91



    วิทยุ FM 91 จัดอันดับสถานที่“จอดรถหาย หรือจอดแล้วหาย” จากสถิติรับแจ้งรถหาย พบสถานที่เสี่ยง 70 แห่ง



    อันดับ 1 ได้แก่ การเคหะ ร่มเกล้า, เคหะ คลองจั่น, ลานจอดรถตลาดสนามหลวง 2, คอนโดเมืองทองธานี และห้างสรรพสินค้า เซียร์ รังสิต



    อันดับ 2 เป็นสถานที่จอดรถ ได้แก่ ตลาดกรมชลประทาน ถนนติวานนท์, หมู่บ้าน รินทร์ทอง คลอง 2 ลำลูกกา, ซอยลาดพร้าว 112 ถนนลาดพร้าว, และซอยกำนันแม้น หรือเอกชัย 36 ถนนเอกชัย


    อันดับ 3 เป็นสถานที่จอดรถ ประกอบด้วย ตลาดไท ถนนพหลโยธิน, ซอยมังกร-ขันดี ถนนเทพารักษ์, หมู่บ้านเสนานิเวศน์ ถนนเสนานิคม, ซอยจุฬาเกษม หรืองามวงศ์วาน 18 ถนนงามวงศ์วาน, ซอยท่าข้าม ถนนพระราม 2, ซอยท่าอิฐ ถนนรัตนธิเบศน์, ซอยลาดพร้าว 101, ซอยแฮปปี้แลนด์ ถนนลาดพร้าว, ถนนกรุงเทพ-กรีฑา, ซอยสุขุมวิท 71 หรือปรีดีพนมยงค์, ลานจอดรถ ตลาดมีนบุรี, ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสมุทรสาคร, หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ถนนสามัคคี, ซอยวัดด่านสำโรง ถนนศรีนครินทร์, ซอยเรวดี ถนนติวานนท์, ซอยเอกชัย 76 ถนนเอกชัย, และถนนสุขาภิบาล 1 (ฝั่งธนบุรี)



    อันดับ 4 เป็นสถานที่ ซึ่งมีรถยนต์กระบะ (ปิกอัพ) รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์ตู้ หายไป ได้แก่ ลานจอดรถใต้ทางด่วนฯ ซอยพหลโยธิน 1, ซอยพหลโยธิน 48, ซอยพหลโยธิน 52, ซอยพหลโยธิน 56, ลานจอดรถมหาวิทยาลัย รังสิต, ลานจอดรถ กอล์ฟ แมนชั่น ข้างมหาวิทยาลัย รังสิต, ห้างสรรพสินค้า ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต ถนนพหลโยธิน, หมู่บ้าน ณัฐดา ซอยรังสิต-นครนายก 62, ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอร์แลนด์, ซอยคู้บอน, ถนอมมิตร ปาร์ค คอนโด วัชรพล ถนนรามอินทรา, เคหะ ปากเกร็ด นนทบุรี, ซอยติวานนท์ 13 ถนนติวานนท์, หมู่บ้านรัตนธิเบศน์, บางใหญ่ ซิตี้ ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี, สมาคมชาวปักย์ใต้, หมู่บ้าน สุขสันต์ 6 ถนนกาญจนาภิเษก, เคหะ ทุ่งสองห้อง ถนนแจ้งวัฒนะ, ซอยชินเขต หรืองามวงศ์วาน 47, ซอยประชาราษฎร์ 1 ถนนประชาราษฎร์, ซอยลาดพร้าว 43, ซอยลาดพร้าว 71, ซอยลาดพร้าว 109 ถนนลาดพร้าว, ซอยรามคำแหง 24, ซอยรามคำแหง 58, ซอยรามคำแหง 188 ถนนรามคำแหง, เคหะ ดินแดง, ซอยอ่อนนุช 17 ถนนอ่อนนุช, ซอยสุภาพงษ์ ถนนศรีนครินทร์, ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์, ลานจอดรถวัดพลับพลาไชย ถนนหลวง, ทางเข้า สน.บุปผาราม ถนนอิสรภาพ, ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ถนนจรัญสนิทวงศ์, ซอยเอกชัย 34, ซอยบางบอน 5 ถนนเอกชัย, ซอยเพชรเกษม 88, ซอยเพชรเกษม 114, ฟาร์มจระเข้ สามพราน, ลานจอดรถ วัดไร่ขิง ถนนเพชรเกษม, ซอยประชาอุทิศ 27 (ฝั่งธนบุรี), ซอยสะแกงาม ถนนพระราม 2, ตลาดมหาชัย สมุทรสาคร, ห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส สาขา ศาลายา จังหวัดนครปฐม



    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  5. #5
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    ปลาสวรรค์หรือปลาเส้นปรุงรส กินมากอันตราย

    ปลาสวรรค์หรือปลาเส้นปรุงรส กินมากอันตราย เพราะมีปริมาณโซเดียมสูงมาก




    ปลาสวรรค์หรือปลาเส้นปรุงรส ขนมขบเคี้ยวยอดฮิตในหมู่เด็กๆ และสาวๆ ซึ่งดูเหมือนเป็นขนมมีประโยชน์และมีโปรตีนสูงนั้น ที่จริงแล้วเต็มไปด้วย “โซเดียม” ที่สูงมากเกินความต้องการของร่ายกาย


    ปลาสวรรค์หรือปลาเส้นปรุงรส เป็นอาหารว่างอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก โดยเฉพาะเด็กๆ และสาวๆ ที่กลัวอ้วนทั้งหลาย เพราะมีการโฆษณาโดยเน้นจุดขาย “ไขมัน ต่ำและโปรตีน สูง” แทนที่ขนมขบเคี้ยวประเภทอื่นๆ ซึ่งมีทั้งแป้ง น้ำตาลและไขมัน อย่างไรก็ตามปลาเส้นปรุงรสก็มีข้อด้อย คือการมีปริมาณ “โซเดียมสูง” จนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะประเภทรสจัดจ้านหรือรสเข้มข้น ยิ่งมีโซเดียมสูงขึ้นไปอีก


    ดังนั้น เมื่อจะบริโภคปลาเส้น เราไม่ควรประมาทควรลองพลิกดูฉลากด้านหลังซองเพื่อมองหาปริมาณโซเดียมสักนิด อย่างไรก็ตาม ฉลากของปลาเส้นบางยี่ห้อก็ไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้ เพราะมีแต่วิธีรับประทานกับวิธีดัดแปลงเป็นอาหารประเภทต่างๆ เท่านั้น


    เราจึงนำเราผลิตภัณฑ์ปลาเส้นปรุงรสยี่ห้อต่างๆ มาทดสอบหาปริมาณโซเดียมและปริมาณโปรตีน นอกจากนี้ ยังแถมการทดสอบ “ปลาหมึกปรุงรส” ให้ด้วย เพราะเป็นสินค้าประเภทเดียวกันและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน


    ปลาเส้นทำมาจากอะไรกันแน่…
    ปลาเส้นทำมาจากผลิตภัณฑ์ที่เรียก “ซูริมิ” ซึ่งก็คือ “เนื้อปลาทะเลบด” ที่ผ่านกระบวนการล้างน้ำ เพื่อแยกไขมันและส่วนประกอบที่ไม่ต้องการอื่นๆ ออกไป ให้เหลือแต่ “โปรตีน” ที่เรียกว่า “ไมโครไฟบริล” ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้เนื้อปลามีคุณสมบัติในการสร้างเจล ทั้งนี้ ซูริมิถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหลายประเภท เช่น ปูอัด ลูกชิ้น ไส้กรอก ปลาเส้น เนื้อปลาเทียม หรือเนื้อกุ้งเทียม




    ผลการทดสอบพบว่า…



    - ปริมาณโซเดียมในปลาเส้นปรุงรสและปลาหมึกปรุงรส มีปริมาณสูงมากๆ ในทุกยี่ห้อ โดยปลาเส้น 30 กรัมจะมีโซเดียม 500-700 มิลลิกรัม โดยเฉพาะรสเข้มข้นจะมีโซเดียมสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะมีการปรุงแต่งรสด้วยผงชูรส หรือโมโนโซเดียมกลูตาเมตมากขึ้น

    - มีปริมาณโปรตีนตามที่โฆษณา แต่ก็ไม่แตกต่างจากอาหารทั่วไปที่สามารถหารับประทานได้ง่ายและราคาไม่แพง เช่น นม ไข่ หรือแม้แต่ถั่วต้ม
    คำ แนะนำจากเรา…

    - ผลิตภัณฑ์ปลาเส้นอาจเป็นตัวเลือกสำหรับเด็กที่ติดขนมขบเคี้ยว เพราะมีปริมาณไขมันและน้ำตาลน้อยกว่า เมื่อเทียบกับขนมขบเคี้ยวทั่วไป แต่เด็กไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะมีปริมาณโซเดียมสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เนื่องจากเด็กไม่ควรได้รับ โซเดียมจากอาหารว่างเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน การที่บริโภคโซเดียมมาก จะทำให้ไตทำงานหนักและเสี่ยงต่อโรคความดันสูง

    - ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไตหรือหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานแต่น้อย

    - ควรซื้อครั้งละซองเล็กๆ เพราะหากซื้อซองใหญ่จะทำให้เผลอทานมากเกินไป

    - ควรหาตัวเลือกอื่นๆ ถ้าต้องการแหล่งโปรตีนที่ดี เช่น นม ไข่ หรือถั่ว ที่มีราคาไม่แพงและมีปริมาณโปรตีนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย






    ขอขอบคุณ
    นิตยสารฉลาดซื้อ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 05-11-2010 at 12:20.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  6. #6
    ฝ่ายเทคนิคและโปรแกรม สัญลักษณ์ของ ต่วง
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,826
    ขอบคุณน้องเล็กมากครับที่หยิบยกสาระน่ารู้มาฝาก ขอบคุณมาก
    การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องขึ้นอยู่กับความพยาม ความตั้งใจ สู้ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่าง

  7. #7
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    คนที่ชอบพักมากๆ ตายเร็วกว่าคนทำงาน

    คนที่ชอบพักมากๆ ตายเร็วกว่าคนทำงาน




    นักวิจัยสมาคมวิจัยโรคมะเร็งอเมริกัน ได้พบในการศึกษาว่า คนเรายิ่งนั่งอยู่เฉยนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสี่ยงกับความตายมากเท่านั้น


    นัก วิจัยอัลพา ปาเตล ของสมาคมกล่าวแจ้งว่า การนั่งนานในเวลาว่างมากเท่าใด ยิ่งเสี่ยงกับการตายสูงเท่านั้น โดยเฉพาะผู้หญิง สตรีที่รายงานว่า ใช้เวลานั่งนานไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชม. จะเสี่ยงกับการเสียชีวิตลง ในระหว่างช่วงเวลาของการศึกษา มากกว่าผู้ที่นั่งนานไม่เกินวันละ 3 ชม. ถึงร้อยละ 37 สำหรับผู้ชาย คนที่นานมากกว่าวันละ 6 ชม. ก็จะเสี่ยงตายมากกว่าเพื่อนที่นั่งนานไม่เกินวันละ 3 ชม. ร้อยละ 18 โดยจะตายด้วยโรคหัวใจมากกว่ามะเร็ง


    เขาอธิบายว่า “การนั่งนานๆ โดยไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว จะทำให้เป็นโทษกับการเผาผลาญอาหารของร่างกาย และอาจจะมีอิทธิพลกับไตรกลีเซอไรด์ ลิโพโปรตีน คอเลสเทอรอล ความดันโลหิต และเลปติน ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องชี้วัดของความอ้วน และโรคหลอดเลือดหัวใจกับโรคเรื้อรังต่างๆ



    รายงานการศึกษาได้สรุปว่า “ข้อแนะนำและคำประกาศทางสาธารณสุข ควรจะรวมคำเตือน ให้มีการลดการใช้เวลานั่งไว้ด้วย เพื่อจะได้เคลื่อนไหวอิริยาบถมากขึ้น”





    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 05-11-2010 at 12:20.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  8. #8
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    นักดื่ม...คอทองแดงต้องอ่าน

    นักดื่มคอทองแดงต้องอ่าน





    ในสังคมไทยการดื่มเหล้าถือเป็นค่านิยมที่ปลูกฝังมาช้านาน ซึ่งเราเองต่างก็รู้ดีว่าการดื่นเหล้าเพียงแต่ให้ความสนุกสนานชั่งครั้งชั่ว คราว แต่หาประโยชน์อันใดต่อร่างกายไม่ได้เลย มิหนำซ้ำยังส่งผลเสียและอันตรายอีกมากมายให้กับผู้ที่ดื่มเข้าไป ซึ่งก็เห็นได้จากทางหน้าหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ทั้งอุบัติเหตุ ขาดสติ ทะเลาะวิวาท ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีผลกับสุขภาพอีกด้วย ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเพิ่มอัตราการเกิดโรคร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ และนี่คือ 4 โรคร้ายที่คุณนักดื่มคอทองแดงจงระวังให้หนัก



    โรคทางระบบประสาท
    โรคนอนไม่หลับ กระบวนการการรับรู้ความเข้าใจบกพร่อง ขาดสติ จิตหลอน ประสาทหลอน โรคคลั่งเพ้อ เกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรัง การทำหน้าที่ของสมองผิดปกติส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อส่วนปลายแขน ขาอ่อนแรง ปลายประสาทพิการ นอกจากนี้ก็ยังมีโรคซึมเศร้า โรคลมชัก โรคระแวงเพราะสุราด้วย


    โรคมะเร็ง
    มะเร็งในปากและช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งเต้านมในผู้หญิง และมะเร็งรังไข่ ซึ่งในผู้ชายส่วนใหญ่ที่เป็นนักดื่มมักป่วยเป็นมะเร็งตับ


    โรคหลอดเลือดและหัวใจ
    เกิดจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จะทำให้เส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจตีบ ส่งผลให้ผู้ที่ชอบดื่มสุราเป็นประจำมีอัตราการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่ดื่ม น้อยกว่า และยังทำให้เกิดความผิดปกติที่กล้ามเนื้อหรือเซลล์หัวใจได้ กลายเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม นอกจากนี้ยังทำให้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สมองส่วนนอกลีบฝ่อ อาการระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินไป โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะและโรคหัวใจล้มเหลว


    โรคเรื้อรังอื่น ๆ
    โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง ต่อมาก็โรคกระเพาะอักเสบ เนื่องจากแอลกอฮอล์ไปทำลายสารเคลือบกระเพาะ โรคต่อมหมวกไต กระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นต้น
    เทศกาลเฉลิมฉลองแบบนี้ต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ ทราบข้อมูลกันแบบนี้แล้วก็ควรหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นนะคะ ที่สำคัญก็ควร ลด ละ เลิก การเดิมสุราเสียด้วยก็จะถือเป็นการดีมากค่ะ







    ข้อมูลจาก
    Woman’s Story
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  9. #9
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    เรื่องเมืองไทย

    เรื่องเมืองไทย





    แบบเรียนเล่มแรกของไทย

    แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ “จินดามณี” แต่งโดย พระมหาราชครู กวีในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ปี พ.ศ. 2199 - 2231)




    ถนนสายแรกในเมืองไทย



    ถนนสายแรกในเมืองไทย คือ ถนนเจริญกรุง (New Road) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2404 โดยต่อมาได้มีการตัดถนนบำรุงเมือง ถนนเฟื่องนคร รวมทั้งถนนพระราม 4 และถนนสีลมในเขตชานพระนคร




    น้ำแข็งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก

    น้ำแข็งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 4 ประมาณ พ.ศ. 2410 สันนิษฐานว่า ผลิตที่สิงคโปร์แล้วส่งมาถวาย โดยใส่หีบกลบขี้เลื่อย คนเฒ่าคนแก่ในสมัยนั้น ไม่เชื่อว่าจะทำน้ำแข็งได้จริง ถึงกับออกปากว่า “จะปั้นน้ำเป็นตัวได้อย่างไร”




    พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสต่างประเทศ

    พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่เสด็จประพาสต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยเสด็จประพาสสิงคโปร์เป็นแห่งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2413 และเสด็จชวาด้วย




    ผู้ที่ประพันธ์เพลงสรรเสริญพระบารมี

    ผู้ที่ประพันธ์เพลงสรรเสริญพระบารมี คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ โดยมีนายปโยตร์ ซูโรฟสกี้ (Pyotr Shchurovsky) ชาวรัสเซีย แต่งทำนองเพลงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2431




    ธนบัตรหรือเงินกระดาษของไทย

    ธนบัตรหรือเงินกระดาษของไทย ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผลิตขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 พิมพ์ออกใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2445 โดยก่อนหน้านั้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการผลิตธนบัตร หรือเงินกระดาษออกใช้เป็นครั้งแรก ในเมืองไทยแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2396 แต่เรียกว่า “หมาย” ทำด้วยกระดาษปอนด์สีขาวรูปสี่เหลี่ยม พิมพ์ลวดลายด้วยหมึกทั้งสองด้าน และประทับตรา พระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ตราจักร และพระราชลัญจกรประจำรัชกาลสีแดงชาด (ลัญจกร อ่านว่า ลัน-จะ-กอน แปลว่า ตราสำหรับใช้ตีหรือประทับ ราชาศัพท์ใช้คำว่า พระราชลัญจกร)




    ผู้ที่คิดออกลอตเตอรี่เป็นคนแรกในเมืองไทย

    ผู้ที่คิดออกลอตเตอรี่เป็นคนแรกในเมืองไทย คือ มิสเตอร์เฮนรี่ อาลบาสเตอร์ (ต้นตระกูล “เศวตศิลา”) ชนชาติอังกฤษ เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่เป็นคนแรก โดยเรียกว่า “ลอตเตอรี่” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๗ เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา




    คนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน

    คนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน คือ พระบรมวงศ์เธอ กรมพระยากำแพงเพ็ชรอัครโยธิน โดยประทับเครื่องบินออร์วิลไรท์ คู่กับกัปตัน มร.เวนเดนเปอร์น ซึ่งขับวนเวียนเหนือสนามราชกรีฑาสโมสร เป็นเวลา 3 นาที 45 วินาที เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2453 เป็นเครื่องบินที่บริษัทฝรั่งเศสนำมาแสดง ณ ราชกรีฑาสโมสร(สนามม้านางเลิ้ง) ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินแห่งแรก ที่ใช้ในการบินของเมืองไทยด้วย




    พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่ทรงผ่านการศึกษาจากต่างประเทศ


    พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่ทรงผ่านการศึกษาจากต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงยังดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เมื่อปี พ.ศ. 2436 - 2445 รวมระยะเวลา 9 ปี




    นามสกุลหมายเลข 1 ที่รัชกาลที่ 6 ทรงคิดพระราชทาน

    นามสกุลหมายเลข 1 ที่รัชกาลที่ 6 ทรงคิดพระราชทาน คือ นามสกุล “สุขุม” พระราชทานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2456 ต้นสกุลคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)




    ผู้ที่ให้กำเนิดรถแท็กซี่ขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก

    ผู้ที่ให้กำเนิดรถแท็กซี่ขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก คือ พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นรถยนต์นั่ง (รถเก๋ง) ยี่ห้อออสติน จำนวน 4 คัน เปิดบริการรับจ้างครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2466 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ในสมัยนั้นเรียกว่า “รถไมล์”




    ประเทศไทยเริ่มนับเวลา ตามแบบสากลครั้งแรก

    ประเทศไทยเริ่มนับเวลา ตามแบบสากลครั้งแรกในสมัย รัชกาลที่ 6 โดยแต่เดิมเรานับเวลาตอนกลางวันเป็น “โมง” และตอนกลางคืนเป็น “ทุ่ม” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้เปลี่ยนมาเรียกว่า “นาฬิกา” (เขียนย่อว่า “น.”) และให้นับเวลาทางราชการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมเนียมสากลนิยม โดยให้ถือว่าเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นเวลาเปลี่ยนวันใหม่ และให้ถือเวลาที่ตำบลกรีนิช ประเทศอังกฤษเป็นมาตรฐาน ซึ่งเวลาในประเทศไทย เป็นเวลาก่อนหรือเร็วกว่าเวลาที่กรีนิช 7 ชม. เช่น ไทยเป็นเวลา 19.00 น. ทางกรีนิชเท่ากับ 12.00 น. เป็นต้น




    ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรก

    ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรก คือ มิสเตอร์เอ็ดวิน แมกพาแลนด์ ยี่ห้อเรมิงตัน



    นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย

    นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย คือ พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 - 20 มิถุนายน พ.ศ.2476 ส่วนนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งคือ นายควง อภัยวงศ์ หลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 ได้ถูกคณะนายทหารเข้าพบ เพื่อขอร้องแกมบังคับ ให้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้กับจอมพลป. พิบูลสงคราม กลับเข้าเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 3




    ยศสูงสุดของทหารไทย

    ยศสูงสุดของทหารไทย คือ ยศจอมพล แต่ปัจจุบันไม่มีการแต่งตั้งแล้ว ยศสูงสุดทางทหารในปัจจุบันคือ “พลเอก” ผู้ที่เป็นจอมพลคนแรกของไทยคือ จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นต้นสกุล “ภาณุพันธุ์” ส่วนจอมพลคนแรกในระบอบประชาธิปไตย คือ จอมพลป. พิบูลสงคราม และคนสุดท้าย ที่ดำรงตำแหน่งจอมพลในระบอบประชาธิปไตยคือ จอมพลประภาส จารุเสถียร เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2516 (สำหรับพระมหากษัตริย์ จะทรงดำรงตำแหน่ง “จอมทัพไทย”)



    ผู้ประพันธ์เพลงชาติไทยในปัจจุบัน

    ผู้ประพันธ์เพลงชาติไทยในปัจจุบัน คือ พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยากร) เป็นผู้แต่งทำนอง และหลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง เมื่อ พ.ศ. 2483




    ผู้ที่คิดฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย

    ผู้ที่คิดฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช โดยได้ทรงค้นคิดและวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 และทรงถ่ายทอดแนวพระราชดำริ และผลการวิจัยแก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร จนมีการทำฝนหลวงพระราชทานครั้งแรก ในปีพ.ศ. 2512




    มกุฎราชกุมารพระองค์แรก ที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก

    มกุฎราชกุมารพระองค์แรก ที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก คือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร




    สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรก ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย

    สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรก ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทรงจบอักษรศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. 2519



    คนไทยคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมัชชาใหญ่ แห่งสหประชาชาติ

    คนไทยคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมัชชาใหญ่ แห่งสหประชาชาติ คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2499



    ผู้นำไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ

    ผู้นำไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ คือนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 18 ของไทย ได้รับในสาขางานบริการภาครัฐบาล ประจำปี พ.ศ. 2540




    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 05-11-2010 at 15:08.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  10. #10
    ศิลปิน นักแสดง สัญลักษณ์ของ kitty
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    ลำลูกกา คลอง 2
    กระทู้
    1,135
    ป๊าดดดด ขอบคุณค่ะ ส่วนมากที่อ่านมา บ่รู้ค่ะ

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •