หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 11

หัวข้อ: ...บันทึกรักจากแม่..

  1. #1
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
    ขวัญใจบ้านมหา 2012
    สัญลักษณ์ของ สาวมุก
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    มุกดาหาร
    กระทู้
    662

    ...บันทึกรักจากแม่..

    21-09-2003 (บันทึกขณะท้องแก่)

    .....ฉันชื่ออิณฑุอร ชื่อเล่น อร ขณะนี้อายุ 26 ปี และตอนนี้ฉันท้องแก่ใกล้จะคลอดเต็มที่แล้วล่ะ นั่งก็ลำบาก นอนก็ลำบากมาก ต้องนอนตะแคงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะนอนหงายได้ เพราะท้องมันจะตึง ฉันพึ่งจะกลับมาจากอยุธยาเมื่อวานนี้ เพื่อที่จะมาคลอดลูกที่มุกดาหาร บ้านเกิด ทีแรกกะว่าจะคลอดที่อยุธยา แต่คิดไปคิดมาคงไม่ดีแน่แพราะนี่เป็นท้องแรก ฉันไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนคงจะไม่สามารถอยู่ไฟเองได้ โดยที่ไม่มีใครดูแล อีกอย่างฉันเชื่อว่าในใจลึกๆของลูกผู้หญิงทุกคนในวันที่ได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ทุกคนคงต้องการที่จะให้แม่ของตัวเองได้อยู่ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย ในวันนั้นกันทุกคน เพราะมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องได้รับการแนะนำจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน..หมอบอกว่าฉันจะได้ลูกชาย ดังนั้นฉันจึงคิดไว้แล้วว่าจะให้เขามีชื่อว่าอะไร ฉันให้เขาชื่อว่า นนทกร ชื่อเล่นว่า อิ๊กคิว ซึ่งแปลว่าผู้สร้างความสุข
    .....คืนของวันที่ 21-09-2003 ในขณะที่ฉันนอนหลับ ก็ต้องมาสะดุ้งตกใจอีกที ตอนประมาณ 22.20 น. ว่าทำไมชุดนอนที่ใส่อยู่เปียกน้ำอะไรก็ไม่รู้ รวมถึงที่นอนก็เปียกไปหมด ก็เลยเรียกแม่ ว่าแม่..หนูเป็นอะไรไม่รู้ มีน้ำอะไรออกมาไม่รู้แม่ ชุดนอนหนูเปียกหมดเลย แถมยังรีบพูดปฏิเสธแม่เป็นการใหญ่เลยนะ ว่า หนูไม่ได้ฉี่รถที่นอนนะแม่ ฮ่าๆๆๆ กลัวแม่จะหาว่าเรา ฉี่รดที่นอนน่ะ เพราะตอนเด็กๆ เคยโดนแม่ตี เลยฝังใจเรื่องนี้ พอแม่เห็น แม่เลยบอกว่า นี่มันน้ำคาวปลานะ แสดงว่าใกล้จะคลอดแล้วสิ แค่นั้นแหล่ะค่ะ ทุกคนในบ้านฉันก็โกลาหลกันใหญ่เลย กลัวฉันคลอดก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาล และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ฉันก็ได้แต่คิดว่า เอาล่ะโว้ย จะได้คลอดแล้วโว้ย..แต่ขอโทษเถอะค่ะ กว่าจะได้คลอด ดิฉันนอนปวดท้องอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่คืนวันที่ 21-09-2003 จนถึง เวลา 21.15 น.ของวันที่ 22-09-2003 ถึงได้คลอดจริงๆ ฉันอยากจะบอกว่า อาการเจ็บท้องคลอดลูกนั้น ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ที่จะมาเทียบเท่าได้เลย สำหรับใครที่เคยคลอดลูกมาก่อนย่อมรู้ดี แต่มันก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เรารู้ว่า เรากำลังจะได้เห็นหน้าลูกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ก็เลยทำให้ลืมความเจ็บปวดนั้นไปได้บ้างบางขณะ
    .....และแล้วในที่สุดฉันก็ได้เห็นหน้าเขา ซึ่งคลอดก่อนกำหนดถึง 14 วันเลยทีเดียว น้ำหนักแรกคลอดนั้นชั่งได้ 2.6 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเล็ก วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าเขา มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกว่านี่หรือคือลูกของเรา เขาคือเลือดเนื้อของเรานะ เขาออกมาแล้ว คนที่เรารอคอยมา 9 เดือน จะยังไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่านั้น จะมารู้สึกกับคำว่า..ฉันเป็นแม่แล้วนะ อีกทีก็ตอนที่เขาเริ่มดูดนมด้วยความหิวโหยในครั้งแรกที่พยาบาลนำมาให้ดูดนมแม่ค่ะ หลังจากนั้นฉันก็นอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีก 3 วันก็ออกมาอยู่ไฟต่อที่บ้าน และได้ลาคลอดอยู่กับเขาอีกประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ฉันก็ถึงกำหนด และต้องมาทำงานตามปกติ เขาอยู่ที่มุกดาหารได้ 8 เดือน ฉันก็ไปรับเขามาอยู่ที่อยุธยาด้วยกันจนถึงปัจจุบัน สาเหตุเนื่องจากยายเลี้ยงไม่ไหว เพราะยายไม่แข็งแรง


    16/02/2005 (บันทึกขณะน้องอิ๊ก 2 ขวบ 3 เดือน)

    .....ขณะนี้เป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ แล้วล่ะ แต่ฉันนอนไม่หลับน่ะ ก็เลยหยิบสมุดเล่มนี้ขึ้นมาเขียนอีก จะให้ฉันหลับได้อย่างไร 1 เดือนมานี้พ่อน้องอิ๊ก กลับบ้านดึกทุกวัน อ้างว่าทำงาน หรือบางวันก็บอกว่านอนที่ทำงาน ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะลำพังตัวเองไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องเลี้ยงลูก ไหนจะต้องไปเรียนเสาร์-อาทิตย์อีก โอ๊ย..ชีวิตช่วงนี้ บรรยายไม่ถูกเลยค่ะ เพราะทำงานก็ต้องเข้ากะดึก อาทิตย์เว้นอาทิตย์ ออกกะมากลางวันก็ต้องเลี้ยงลูก ถึงแม้จะจ้างคนเลี้ยง แต่ถ้าเป็นช่วงเข้ากะดึก ฉันก็จะรับลูกมาเลี้ยงเองเพราะอยากจะให้เวลากับลูกอยากอยู่กับเขาให้ได้นานที่สุด กลางคืนก็ต้องไปทำงาน กลางวันเลี้ยงลูก วันหยุดไปเรียนหนังสือ แทบไม่ได้นอนเลยค่ะ(คนดีหรือคนบ้าก็ไม่รู้) มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันไม่ได้หลับเลยเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม ฮ่าๆๆๆ อยู่ได้ไงก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะตอนนั้นยังสาวอยู่มั้ง อิ..อิ.. ถ้าเป็นตอนนี้คงจะหงายหลังตึงไปตั้งแต่ 10 ชั่วโมงแรกแล้วล่ะค่ะ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ฉันไม่ค่อยมีเวลาให้กับสามีซักเท่าไหร่ ทำให้เขามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากที่เคย เช่น พูดน้อยลง แต่งตัวมากขึ้น จากเดิมที่เคยไว้ตัวกระเซอะกระเซิง ผมเผ้ายุ่งเหยิงถ้าเมียไม่บอกให้ตัดก็ไม่ตัด แต่เดี๋ยวนี้ ส่องกระจกที ก็หันซ้ายหันขวาอยู่อย่างนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึงได้เสร็จ และไม่ค่อยเล่นกับลูกซักเท่าไหร่ เวลาลูกร้องทีจากที่เมื่อก่อนจะรีบมาช่วยอุ้มหรือตอนกลางคืนจะลุกขึ้นมาช่วยชงนมให้ เดี๋ยวนี้ กลับมาตะคอกใส่ฉันอีกว่าดูลูกยังไง ปล่อยให้ร้อง ฉันก็ได้แต่คิดในใจว่า ( เอ๊า..ไอ้คุณสามีนี่ ทำไมพักนี้พูดจาแปลกๆจัง) ชอบคุยโทรศัพท์นานๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าฉันโง่หรือเพราะฉันมองโลกในแง่ดีเกินไปอีกหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้คิดอะไร..อีกแล้วไม่ได้คิดอะไรอีกแล้ว ..คุณภรรยาทั้งหลายคะ บางทีคิดไว้ก็ดีนะคะ เดี๋ยวจะเหมือนอย่างดิฉันที่สามีเอาหญ้าให้กินทุกวันก็ยังไม่รู้ นึกว่าเขาเอาข้าวให้กินตามปกติ อิ..อิ.. อีกอย่างตอนนี้ลูกฉันก็กำลังน่ารักมาก เวลาส่วนใหญ่จึงเป็นเวลาที่ฉันอยู่กับลูกซะมากกว่าที่จะมาคิดว่า..สามีเปลี่ยนไปนะ


    4-03-2005 (ผ่านมาสองสัปดาห์จากวันที่ได้รับรู้ความจริง..ว่าสามี ..มีกิ๊ก)

    .....ขณะนี้เป็นเวลา 23.20 น. ฉันนอนไม่หลับก็เลยลุกขึ้นมาเขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆระหว่างผู้ชายสองคนที่ฉันรักมากที่สุด คือลูกกับสามี ณ วันที่ได้รับรู้เรื่องราว สองสัปดาห์แล้วสิ แต่ฉันก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ไม่เคยลืมคืนนั้นเลย คืนวันที่ลูกชายของฉันไม่สบาย ตัวร้อนเป็นไข้ ฉันนั่งเช็ดตัวให้ลูกทั้งคืน ด้วยความกังวล กลัวเขาเป็นอะไรมากไปกว่านี้ และถ้าเขาเป็น ใครจะพาเขาไปโรงพยาบาล ห่วงลูกก็ห่วง ห่วงสามีก็ห่วง ว่าหายไปไหน เป็นอะไรหรือเปล่า โทรศัพท์ไปก็ปิดเครื่อง ใจก็คิดไปต่างๆนาๆ จนเผลอหลับไปและโชคดีว่าลูกไม่เป็นอะไรมากไปกว่านั้น พอตอนเช้าฉันจึงไม่ได้ไปทำงาน เพราะเป็นห่วงลูก จนเวลาประมาณ 11.00 น. สามีเขาก็กลับมา เมื่อกลับมาถึงเขาแปลกใจมากที่เห็นฉันยังไม่ไปทำงาน คุณภรรยาทั้งหลายคะ เวลาที่สามีทำผิดมาเนี่ย ต่อให้ขั้นเทพแค่ไหน แต่เวลานั้น คือเวลาที่ไม่ได้ตั้งตัวมาเลยนี้ เขาจะมีพิรุธทันทีเลยค่ะ ต่อให้ภรรยาที่โง่มากๆเหมือนดิฉันก็สามารถที่จะดูออกว่า สามีมีพิรุธ เช่น สายตาลอกแลก ตอบคำถามวกไปวนมาเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ถามอะไรก็ขึ้นต้นด้วย เอ่อ..หรือแกล้งทำเป็นโมโห อะไรทำนองนี้แหล่ะค่ะ และสุดท้ายความจริงก็เปิดเผยว่าเมื่อคืนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนมา ไปนอนกับใครมา คุณผู้อ่านคงสงสัยว่าอรทำยังไง เขาถึงได้ยอมรับ อรไม่ทำยังไงหรอกค่ะ อรแค่พูดขู่นิดหน่อยเองว่า จะบอกความจริงมั้ย ถ้าไม่บอกฉันจะไปเอาน้ำยาล้างห้องน้ำมากรอกปากลูก..เดี๋ยวนี้ ( แต่อย่าขู่ว่าจะกรอกปากตัวเองนะคะเพราะเขาจะแสดงความดีใจทางสีหน้าทันทีว่า..เออ..ตายไปเลยยิ่งดี อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ) และในที่สุดฉันก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด ความจริงที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน อย่าให้บรรยายเลยนะคะ เพราะเดี๋ยวตัวเองจะร้องไห้เปล่าๆ (พาลทำให้น้ำตามันหยดใส่คอมพิวเตอร์ ไฟได้ช๊อตกันพอดี) ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว พอกันทีกับความอ่อนแอ


    28-05-2010 (บันทึกรัก..จากแม่ถึงลูก)

    .....ณ ปัจจุบัน ฉันกับลูกเราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ก่อนนอนทุกคืน ฉันจะเล่านิทานให้เขาฟังหรือบางวันฉันก็จะเล่าว่าวันนี้แม่ไปทำงานเจออะไรมาบ้าง แม่กินอะไร มีเพื่อนชื่อว่าอะไร และให้เขาเล่าเรื่องที่เขาไปโรงเรียนว่าวันนี้เรียนอะไร ทำอะไร เพื่อนชื่ออะไรบ้าง แล้วก็จะพาเขาสวดมนต์ก่อนนอน เสร็จแล้วก็จะกอดเขา จนเขาหลับไปในอ้อมแขนทุกคืน หรือบางคืนก็จะหลับที่ตักแม่เลยตอนที่แม่ยังนั่งสวดมนต์อยู่ คำว่า..แม่ จะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อได้เห็น รอยยิ้มของลูก ได้เห็นลูกร่าเริง แจ่มใส สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ให้สมกับวัยของเขา และที่สำคัญอย่าร้องไห้หรือแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเด็ดขาด เพราะมันจะติดตาของเขา อาจจะทำให้เขามีปมด้อยได้ในอนาคต ...มีครั้งหนึ่งที่ฉันร้องไห้ น้ำตาไหล เจ้าลูกชายของฉันถามว่า..แม่ครับ แม่เป็นอะไรครับ ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วบอกว่า..เอ่อ ฝุ่นมันเข้าตาแม่น่ะลูก..เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็รีบไปหยิบไม้กวาด มากวาดที่พื้นให้เดี๋ยวนั้นเลย พร้อมกับบอกว่า ..เดี๋ยวหนูกวาดฝุ่นให้นะแม่ ฝุ่นจะได้ไม่เข้าตาแม่ไง..ไอ้เราก็บ่อน้ำตาตื้นอยู่แล้วพอลูกทำอย่างนั้น น้ำตาก็ยิ่งไหลไปกันใหญ่..ทำไงล่ะทีนี้สะอึกสะอื้นใหญ่เลย ..สั่งให้ตัวเองหยุดร้องก็หยุดไม่ได้ ..ยิ่งลูกหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้ แถมยังเข้ามาจับมือแม่..กอดแม่ด้วยความไร้เดียงสา แล้วพูดว่าแม่อย่าร้องนะครับ หนูกวาดฝุ่นให้แม่แล้วไง ..น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ยิ่งไหล (ไม่รู้ว่ามาจากไหนนักหนาไอ้น้ำตาบ้านี่ก็ หน้าตาตัวเองก็ลาวๆอยู่แล้ว ยิ่งร้องไห้..ยิ่งดูไม่ได้ใหญ่เลย ...ยังจะมาห่วงสวยอีกอรเอ้ย อิ..อิ)
    เดี๋ยวนี้ทุกๆวัน ก่อนจากกันกับลูกเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันจะบอกลูกทุกวันว่า..แม่รักหนูนะลูก และ ลูกก็จะบอกว่า.. หนูก็รักแม่ครับ..คุณผู้อ่านทุกท่านคะ บอกกับเขาทุกวันเถอะค่ะ (ก่อนที่วันหนึ่งคุณอาจจะไม่มีโอกาสได้บอกเขา) บอกกับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นใคร พ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูก อื่นๆ ยิ่งเป็นเด็กด้วยแล้ว เขายิ่งมีความต้องการความรักความอบอุ่นจากคนเป็นพ่อแม่ มากที่สุด แต่คำว่ารักต่อให้พูดซักร้อยครั้งก็ไม่เท่าการโอบกอดเพียงหนึ่งครั้งค่ะ .. ทุกวันนี้หากมีใครถามว่า ..อรเหนื่อยมั้ย ต้องทำงานทุกวัน กลับก็มืดค่ำ และยังต้องมาดูแลลูกอีก ..คำตอบคือ..ไม่ค่ะ ฉันภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้ หน้าที่อันยิ่งใหญ่จากคนที่ใหญ่ยิ่งในความรู้สึกของแม่ ..ที่แม่บางคน คงไม่มีโอกาสได้ทำ คลอดเขามาแล้วก็ไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูเขา เนื่องจากต้องมาทำงานที่กรุงเทพ จึงต้องให้ ปู่ย่า ตายาย เลี้ยงดูให้ที่ต่างจังหวัด อันนี้มันก็เป็นเหตุผล ความจำเป็นของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ส่วนฉัน นับจากวันนี้ไป ก็ไม่ได้คิด..หวังอะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเขาหรอกค่ะ ขอแค่ให้เขามีความสุข มีความรับผิดชอบในตนเอง รู้จักรัก รู้จักให้อภัย ตามวัยของเขา เพราะเด็กนั้นเราจะสอนเขาได้ก็แค่ ช่วง 12 ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจะมีความคิดเป็นของตนเอง เขาจะเดินไปทางไหน นั่นก็อยู่ที่การเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนของผู้ปกครอง ซึ่งเฉลี่ยแล้วประมาณ 70 % เกิดจากการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ส่วนอีก 30 % เกิดจากนิสัยโดยกำเนิด(สันดาน)ของเขาเอง ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ครอบครัว การเลี้ยงดูเอาใจใส่ต่อลูก เป็นรากฐานอนาคตของลูก ว่าจะเดินไปในทิศทางใด และหากว่าเพื่อนๆสมาชิกท่านใด ที่มีโอกาสได้ดูแลเลี้ยงลูกเองเหมือนอย่างดิฉัน ขอให้ท่านจงภูมิใจเถิดว่า..ชีวิตนี้ที่ได้เกิดมา ท่านได้ทำหน้าที่ของ..คำว่า..วัฏจักรมนุษย์...ได้อย่างครบถ้วนแล้วกับการที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้ ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ก็คงต้องดูกันต่อไปเมื่อเขาโตขึ้นค่ะ หากสมาชิกท่านใด มีปัญหาเรื่องลูกเราก็มาพูดคุยปรึกษากันได้นะคะ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ค่ะ ส่วนเรื่องสามี..สาวมุก ไม่รับปรึกษาค่ะ(เพราะตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย ฮ่าๆๆๆ)

    (สุดท้ายนี้ขอให้คุณแม่ทุกคนมีความสุขและสนุกสนานกับการทำงานและเลี้ยงดูลูกของคุณนะคะ..เพราะหน้าที่ของเราคือ..แม่ ..)


    จาก สาวมุก/นักเขียนมือสมัครเล่น
    29-05-2010
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สาวมุก; 30-05-2010 at 16:55.

  2. #2
    ศิลปิน,ช่างภาพอิสระ สัญลักษณ์ของ เพ็นนี
    วันที่สมัคร
    May 2009
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    1,308
    บล็อก
    2
    ได้มาอ่านความรู้สึกของคนเป็นแม่แต่เซ้า...กินข้าวไป่น้อ


    ก่อนอื่นดีใจที่ได้เป็นแม่ แม้จะเลี้ยงลูกผุเดียว เข้มแข็งมากจ๊ะ
    อ่านแล้วเศร้านำ แต่กะอดยิ้มบ่ได้...ขอเป็นกำลังใจให้เด้อจ้า สู้ สู้

  3. #3
    ฝ่ายเทคนิค และถ่ายทอดสด สัญลักษณ์ของ อาวอ้วนเมืองยศ
    วันที่สมัคร
    Apr 2010
    ที่อยู่
    เมืองบั้งไฟ
    กระทู้
    1,513
    ได้มาอ่านเรื่องความรักของแม่กะหวลให้คิดถึงแม่ตัวเอง คิดถึงตอนที่ทำให้แม่เสียใจน้ำตาใหล
    แม่อุตส่าห์เป็นห่วงตามไปดูแล ก็ยังลักหนีแม่ ปล่อยแม่นอนร้องให้ในห้องพักยุคนเดียว

    แม่คือคนที่มีความอันรักยิ่งใหญ่ไม่มีรักของใครจะเท่ารักของแม่อีกแล้ว

    และก็ขอให้กำลังใจสาวมุก แม่ผู้เด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง สู้เพื่อลูกต่อไปครับ สู้ๆ

  4. #4
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ ธิดายาเย็น
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,622
    ขอเป็นกำลังใจให้น้องอร..และคนที่รับบทของแม่ได้อย่างสมบูรณ์และมีความสุข โดยที่ไม่ต้องพึ่งคนอื่น..เข้าใจดีค่ะเพราะเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว..สู้ๆๆนะค่ะ:l-

  5. #5
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ กะทิสด
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    กระทู้
    408
    ....ผุหยิงเป็นเพศที่เข้มแข็งที่สุด......
    .............................................ขอบอก....

  6. #6
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวกบินทร์
    วันที่สมัคร
    Apr 2007
    ที่อยู่
    ซุหม่อง...ที่ไป..!!!
    กระทู้
    598
    ...มีครั้งหนึ่งที่ฉันร้องไห้ น้ำตาไหล เจ้าลูกชายของฉันถามว่า..แม่ครับ แม่เป็นอะไรครับ ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วบอกว่า..เอ่อ ฝุ่นมันเข้าตาแม่น่ะลูก..เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็รีบไปหยิบไม้กวาด มากวาดที่พื้นให้เดี๋ยวนั้นเลย พร้อมกับบอกว่า ..เดี๋ยวหนูกวาดฝุ่นให้นะแม่ ฝุ่นจะได้ไม่เข้าตาแม่ไง..ไอ้เราก็บ่อน้ำตาตื้นอยู่แล้วพอลูกทำอย่างนั้น น้ำตาก็ยิ่งไหลไปกันใหญ่..ทำไงล่ะทีนี้สะอึกสะอื้นใหญ่เลย ..สั่งให้ตัวเองหยุดร้องก็หยุดไม่ได้ ..ยิ่งลูกหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้ แถมยังเข้ามาจับมือแม่..กอดแม่ด้วยความไร้เดียงสา แล้วพูดว่าแม่อย่าร้องนะครับ หนูกวาดฝุ่นให้แม่แล้วไง ..น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ยิ่งไหล

    ......อ่านตรงนี้แล้ว บ่าวสิไห้นำแหม จั่งใด๋กะเป็นกำลังใจให้เด้อจ้า สู้ๆ จ้า...
    ยอมรับว่า เป็นผุหญิงที่เก่ง ละกะเข้มแข็งมากเลย...บ่าวกะบ่มีหยังสิเว่าหลาย จั่งใด๋กะขอให้น้องอิ๊กคิว
    มีสุขภาพที่แข็งแรง ใหญ่ขึ้นสิได้เก่ง ละกะเข้มแข็งคือแม่.....มีเวลากะพักผ่อนบ้างน๊า.....

  7. #7
    International chef สัญลักษณ์ของ สะใภ้อิสาน
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    กระทู้
    1,565
    บล็อก
    4
    ขอเป๊นอีกหนึ่งกำลังใจให้น้องอร คะ เข้าใจถึงความรู้สึกนั้นดี หน้าที่ของแม่
    สู้ๆๆๆ นะคนเก่ง เอาความรักของน้องอิ๊กคิวแป๊นแรงใจนะคะ

  8. #8
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ อ้ายเขียว
    วันที่สมัคร
    Jan 2010
    กระทู้
    491
    เป็นกำลังใจให้เด้อจ้า น้องอร สู้ สู้

  9. #9
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ หนุ่มนนท์
    วันที่สมัคร
    Apr 2010
    ที่อยู่
    นนทบุรี
    กระทู้
    28
    ขอเป็นกำลังใจให้น้องสาว สู้ต่อไปชีวิตที่มีความหวัง สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับเรา

  10. #10
    Membership renewed สัญลักษณ์ของ siranee
    วันที่สมัคร
    Jul 2008
    ที่อยู่
    ลาดกระบัง54(วัดศรีวารีน้อย)
    กระทู้
    909
    อ่านแล้วกะยิ้มทั้งน้ำตาคือกันล่ะจ้า
    แต่ขอชมว่าคุณอรเป็นแม่ที่เข้มแข็ง
    และเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วล่ะค่ะ
    ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนึงเด้อค่ะคุณอร
    หน่อยเคยผ่านความรู้สึกนี้มาแล้วเข้าใจดีค่ะ

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •