zผมน้องใหม่ฝากตัวแน่เด้อครับ
zผมน้องใหม่ฝากตัวแน่เด้อครับ
สุดยอดเลยครับ ให้ไป 1 แต้ม หามาให้อ่านอีกแนเด้อ
เสียดายความดีที่มีให้
เสียดายหัวใจและเวลา
เสียดายที่ที่โดนหลอกตลอดมา
เสียดายคุณค่าความจริงใจ
อยากได้หนังสือ พลังลาวชาวอิสานมาจากไหน
แต่งโดยสุจิตต์ วงษ์เทศค่ะ
คนมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ พอจะทราบบ้างหรือปล่าวคะ ว่า หาซื้อได้ที่ไหน
อยู่พิษณุโลกค่ะ หาซื้อจนทั่วแล้ว ไม่มี คือ อยากอ่านมากๆๆ เคยแอบดูของเพื่อน
อยากมีไว้เป็นของตนเอง ใครทราบแหล่ง บอกด้วยค่ะ..จะไม่ลืมพะระคุณ
ขอคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
...เปรียบแม่เช่น โคมทองของชีวิต
ช่วยชี้ทิศ ช่วยนำทาง ช่วยสร้างสรรค์
ให้ความรัก ให้ความรู้ ชูชีวัน
ลูกจึงมั่นกตัญญูบูชาคุณ..........เพื่อแม่ แพ้บ่ได้
ผมก็พอจะรู้จัก ศรีโคตรบูรณ์เหมือนกัน นครพนม นะเนี่ย
จารึกจิตรเสน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ชี มูล
ขออนุญาติ เพื่มเติมนะค่ะ
พระเจ้าจิตรเสน หลักจากขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงพระนามว่า พระเจ้ามเหนทรวรมัน เป็นกษัตริย์องค์สำคัญของเจนละ ที่เรืองอำนาจมากพระองค์หนึ่ง หลักฐานเกี่ยวกับอำนาจของพระองค์นั้น พบอยู่เป็นจำนวนมาก ในดินแดนภาคใต้ของประเทศลาว และบริเวณภาคเหนือ ชองประเทศกัมพูชาปัจจุบัน แต่ที่พบมากที่สุดนั้น น่าจะได้แก่ บริเวณลุ่มแม่น้ำมูล ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ทุกครั้งที่พระเจ้าจิตรเสนได้รับชัยชนะ ก็จะสร้างศาสนานุสาวรีย์ พร้อมทั้งจารึก ประกาศพระราชประสงค์ที่สร้างรูปเคาพขึ้น เป็นการอุทิศถวายแด่พระศิวะเทพเจ้า โดยมีพระประสงค์ จะให้เป็นที่สักการะบูชาของปวงชน ณ อาณาบริเวณนั้นๆ อีกทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง และเป็นที่ระลึกแห่งชัยชนะของพระองค์ด้วย
หลักฐานเก่าที่สุดที่พบในประเทศไทย ได้แก่ ศิลาจารึกที่ระบุพระนามของพระเจ้าจิตรเสน หรือ พระเจ้ามเหนทรวรมัน ปัจจุบันนี้พบแล้ว จำนวน 10 หลัก มีทั้งจารีกอยู่บนแท่งหิน ที่ทำขื้นโดยเฉพาะ บนฐานประติมากรรม และบนผนังถ้ำ จารึกไว้ด้วยภาษาสันสกฤตเหมือนกันทุกหลัก ถึงแม้จะไม่ปรากฎศักราช แต่เมื่อศึกษาวิเคราะห์รูปอักษรในจารึกแล้ว ทราบว่าเป็นรูปอักษรปัลลวะ ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12 จารึกเหล่านี้ พบอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 5 หลัก ได้แก่ จารึกปากแม่น้ำมูล 1 และ 2 จารึกปากโดมน้อย จารึกวัดสุปัฏนาราม และ จารึกถ้ำภูหมาไน จารึกถ้ำเป็ดทอง 3 หลัก ที่อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณลุ่มแม่น้ำชีตอนบน พบจารึกวัดศรีเมืองแอม ที่อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ในภาคตะวันออก พบจารึกช่องสระแจง ที่อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ข้อความในจารึกทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
1. กล่าวถึง พระนามพระเจ้าจิตรเสน ไม่ได้กล่าวถึงพระนามพระเจ้ามเหนทรวรมัน ได้แก่ จารึกถ้ำเป็ดทอง แสดงว่ามีการจารึกในสมัยที่พระองค์ยังเป็นพระเจ้าจิตรเสน ทรงนับถือศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ตามบรรพบุรุษ เมื่อทำสงครามชนะข้าศึกแล้วพระองค์ได้สร้างศิวลึงค์ ด้วยความภักดีตามคำสั่งของพระบิดาและพระมารดา
2.กล่าวถึงพระประวัติพระเจ้ามเหนทรวรมัน และการสร้างศึวลึงค์ ไว้เป็นเครื่องหมายแห่งขัยชนะของพระองค์ ได้แก่จารึกปากแม่น้ำมูล 1 และ 2 จารึกวัดสุปัฎนาราม และ จารึกปากโดมน้อย
3.กล่าวถึงพระประวัติ พระเจ้ามเหนทรวรมัน เหมือนกลุ่มที่ 2 แต่ตอนท้ายต่างกัน คือ ให้สร้างโคอุสภะ ไว้เป็นสวัสดิมงคลแก่ชัยชนะซองพระองค์ ได้แก่ จารึกถ้ำภูหมาไน และ จารึกวัดศรีเมืองแอม
4.กล่าวถึงการสร้างบ่อน้ำไว้ให้แก่ประชาชน ในจารึกช่องสระแจง
หลักฐานจากจารึกที่กล่าวมานี้ นับเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์รุ่นแรกสุดที่พบ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ระหว่างชุมชนโบราณในแถบอีสาน กับอาณาจักรเจนละทั้งด้านการปกครอง และศาสนาระยะแรกเริ่ม โดยเฉพาะศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย .....
มีต่อ....
ต่อ....
การพบจารึกของกษัตริย์องค์สำคัญ ของอาณาจักรเจนละ นามว่า "จิตเสน" จำนวน 5 หลัก ซึ่งจารึกหลักที่ 1-3 มีข้อความ รูปอักษร ภาษาตรงกัน พบที่ปากแม่น้ำมูล อำเภอโขงเจียม 2 หลักมีลักษณะเป็นใบเสมาหิน จารึกข้อความด้านเดียว จำนวน 6 บรรทัด ทั้ง 2 หลักมีข้อความที่ตรงกันตามที่ ได้ถอดความไว้ ดังนี้
"พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใด ทรงพระนามว่า จิตรเสน ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าศรีวีรวรมัน
เป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าศรีลารวเคามะ (แปลตามศัพท์ที่อ่าน)
แม้โดยศักดิ์จะเป็นอนุชา แต่ก็เป็นพระเชษฐาของพระเจ้าศรีภวรรมัน ผู้มีพระนามปรากฎในด้านคุณธรรมแต่พระเยาว์ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้น ได้รับพระนามอันเกิดจากการอภิเษกว่า
พระเจ้าศรีมเหนทวรมัน (หลังจาก) ชนะประเทศ (กัมพู) นี้ทั้งหมดแล้ว ได้สร้างพระศิวลึงค์ อันเป็นเสมือนหนึ่งเครื่องหมายแห่งชัยชนะของพระองค์ ไว้บนภูเขานี้"
และบริเวณปากลำโดมน้อย อำเภอสิรินธร 1 หลัก และอีก 2 หลักพบที่ถ้ำภูหมาใน หรือถ้ำปราสาท อำเภอโขงเจียม ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายไปอยู่วัดสุปัฎนาราม 1หลัก ซึ่งข้อความส่วนหลักจะเหมือนกัน แต่ตอนท้ายกล่าวถึงการสร้างรูปโคอสุภพ เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ
หลักฐานที่สำคัญภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรเจนละ อีกอย่างหนึ่งได้แก่ ทับหลังแบบถาลาบริวัติ อายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 12 ปัจจุบันอยู่ที่วัดสุปัฎรารามทับหลัง และชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมแบบไพรกแมง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13 ที่วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร และโบราณสถานร้างวัดแก่งตอย บ้านโอด ตำบลท่าเมือง อ.ดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี
จารึกถ้ำปราสาทหรือถ้ำหมาไน ตั้งอยู่บนหน้าผาชันของเทือกเขาหินทรายบนฝั่งขวาของแม่น้ำมูล ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ลักษณะเป็นเพิงผาธรรมชาติไม่ลึกมากนัก ได้พบว่าศิลาจารึกพระเจ้าจิตรเสน ข้อความคล้ายกับศิลาจารึกปากโดมน้อย เพียงแต่ข้อความในตอนท้ายให้สร้างรูปโคอุสภะอันเป็นเสมือนหนึ่งข้อความมีชัยชนะของพระองค์
นอกจากศิลาจารึกพระเจ้าจิตรเสนแล้ว ยังพบฐานโยนี หน้าบันศิลาโบราณวัตถุที่พบ กำหนดอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
กลุ่มชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม จากโบราณสถานร้างวัดแก่งตอย บ้านโอด ตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง เป็นเสากรอบประตูโสมสูตรรูปหัวมกร กำหนดอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
3. ศิลาจารึกปากโดมน้อย ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำมูลบริเวณที่ลำโดมน้อยไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำมูล ลักษณะโบราณสถานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าสู่แม่น้ำมูล มีบันไดลงสู่แม่น้ำ ใช้หินธรรมชาติก่อสร้าง
บนโบราณสถานมีศิลาจารึกแท่งสี่เหลี่ยม ยอดคล้ายใบเสมา จารึกด้วยอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต อายุราวพุทธศตวรรษ 12 เนื้อความกล่าวถึงเจ้าชายจิตรเสนหรือพระเจ้าศรีมเหนทรวรมันได้สร้างศิวะลึงค์อันเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะไว้บนภูเขา
ทับหลัง ศิลาจารึกและชิ้นส่วนฐานประติมากรรม วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร นำมาจากแหล่งโบราณสถานโรงเรียนบ้านสะพือได้ อำเภอพิบูลมังสาหาร ทับหลังจัดอยู่ในแบบศิลปะเขมรแบบไพรกเมง ราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
ที่มา:..
-ไกด์อุบล.คอม
-งานข้อมูลท้องถิ่น ม.อุบลฯ
งั้นก็แสดงว่า
อารยธรรมล้านช้าง มีก่อน สยาม ใช่ไหมครับ
Bookmarks