กำลังแสดงผล 1 ถึง 8 จากทั้งหมด 8

หัวข้อ: .:: ตำนานแคน ::.

  1. #1
    นักการภารโรง สัญลักษณ์ของ บ่าวคนเดิม
    วันที่สมัคร
    Jan 2006
    ที่อยู่
    Amphoe Det Udom
    กระทู้
    3,148

    .:: ตำนานแคน ::.

    .:: ตำนานแคน ::.
    .:: ตำนานแคน ::.
    แคน เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมือง ที่เป็นมรดกภาคอีสานที่เก่าแก่ที่สุด แคนเป็นเครื่องดนตรีที่มีความไพเราะ มีความซับซ้อนของเสียงมาก แคนเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าเป็นเพลง ใครเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องดนตรีนี้ขึ้นมานั้น ไม่สามารถบอกได้หรือไม่มีหลักฐานที่แน่นอนยืนยันได้ แต่มีเพียงประวัติตำนานที่เล่าขานกันสืบเรื่อยต่อมา ดังนี้ครั้งก่อนนั้นมีพราหมณ์คนหนึ่งได้เข้าไปในป่าเพื่อหาล่าสัตว์ตามวิถีชีวิตของชาวบ้าน และพราหมณ์นั้นได้เดินเข้าไปในป่าลึก ก็ได้ยินเสียงแววๆ มา มีความไพเราะมาก มีทั้งเสียงสูง เสียงต่ำ บ้างสลับกันไป แล้วพราณห์ก็ได้เข้าไปดูว่าเสียงนั้นมาจากที่ใด ทันใดนั้น ก็มองเห็นเป็นเสียงร้องของนกชนิดหนึ่ง เรียกว่า “นกการเวก” จากนั้นก็ได้เดินทางกลับบ้าน แล้วนำเรื่องที่ตนได้ยินมานั้นไปเล่าให้ชาวบ้านได้ฟัง และมีหญิงหม้ายคนหนึ่งพอได้ฟังแล้วเกิดความสนใจอย่างมาก เลยขอติดตามนายพราณห์เข้าไปในป่าเพื่อไปดูนกการเวก ว่ามีความไพเราะจริงหรือไม่ ครั้งหญิงหม้ายได้ฟังเสียงนกการเวกร้องก็เกิดความไพเราะ เพลิดเพลินและติดอกติดใจ มีความคิดอย่างเดียวว่า จะทำอย่างไรดีถ้าต้องการฟังอีก ครั้งจะติดตามนกการเวกนี้ไปฟังคงจะยากแน่นอน จึงคิดที่จะทำเครื่องแทนเสียงร้องนกการเวก ให้มีเสียงเสนาะออนซอนจับใจ ดุจดังเสียงนกการเวกนี้ให้จงได้ เมื่อหญิงหม้ายกลับถึงบ้าน ก็ได้คิดทำเครื่องดนตรีต่างๆ เช่น ดีด สี ตี เป่า หลายๆ อย่าง ก็ยังไม่มีเสียงดนตรีชนิดใดมีเสียงไพเราะเหมือนกับเสียงนกการเวก ในที่สุดนางก็ได้ไปตัดไม้ชนิดหนึ่ง เอามาประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นเครื่องเป่าชนิดหนึ่ง รู้สึกว่าค่อนข้างไพเราะ จึงได้พยายามดัดแปลงแก้ไขอีกหลายๆ ครั้ง จนกระทั่งเกิดเป็นเสียงไพเราะ เหมือนเสียงร้องของนกการเวก จนในที่สุดเมื่อได้แก้ไขครั้งสุดท้ายแล้วลองเป่ารู้สึกไพเราะ ออนซอนจับใจ ดุจดังเสียงนกการเวก นางจึงมีความรู้สึกดีใจในความสำเร็จของตนเป็นพ้นที่ได้ประดิษฐ์เครื่องดนตรีได้เป็นคนแรก จึงคิดที่จะไปทูลเกล้าถวายพระเจ้าปเสนทิโกศล และนางยังได้ฝึกหัดเป่าลายต่างๆ จนเกิดความชำนาญเป็นอย่างดี จึงนำเครื่องดนตรีไปเข้าเฝ้าฯ ถวาย แล้วนางก็ได้เป่าลายเพลงให้พระเจ้าปเสนทิโกศลฟัง เมื่อฟังเพลงจบแล้วพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงมีความพึงพอใจอย่างมากที่มีเครื่องดนตรีประเภทนี้เกิดขี้นและทรงตั้งชื่อเครื่องดนตรีชนิดนี้ว่า “แคน” ด้วยเหตุนี้เครื่องดนตรีที่หญิงหม้ายที่ได้ประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้ไม้ไผ้น้อยเรียงติดต่อกันใช้ปากเป่า จึงได้ชื่อว่า “แคน” มาตราบเท่าทุกวันนี้และ แคน ยังมีหลายท่านที่ให้ความหมายของคำว่าแคน บ้างกล่าวว่าแคนเรียกตามเสียงของแคน โดยเวลาเป่าเสียงแคนจะดังออกมาว่า แคนแล่นแคน แล่นแคน แล่นแคน แต่บางท่านก็ให้ความหมายว่า แคน เรียกตามไม้ที่นำมาทำเต้าแคน คือ ไม้ที่ทำเต้าแคนนั้น นิยมใช้ไม้ตะเคียน หรือภาษาอีสานเรียกว่าไม้แคนจากการสันนิษฐานจากนิยายเรื่อง หญิงหม้าย แล้วยังสันนิษฐานว่าแคนได้รับอิทธิพลมีที่มาอยู่ 2 ประการ คือ
    ประการที่หนึ่ง ทางด้านโบราณคดี ในประเทศจีนซึ่งเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ได้บ่งบอกว่า เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทย ได้มีการขุดพบหลุมฝังศพของหญิงสาวราชินีกุลคนหนึ่ง แถวมณฑลฮูนาน ราว 2,000 ปี ได้ค้นพบเครื่องดนตรีจำนวนมากมาย เช่น ขลุ่ย และเครื่องดนตรีสำหรับเป่าที่มีรูปร่างคล้ายกับแคน แต่มีเต้ายาวมาก เหมือนแคนชาวเขา เผ่ามูเซอ แถบภาคเหนือของไทย นั้นแสดงว่า เครื่องดนตรีประเภทนี้เคยมีอยู่แล้วในประเทศจีน
    ประการที่สอง ด้านวรรณคดี จากวรรณคดีพื้นบ้านอีสานได้พบการใช้แคนอยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่องท้าวฮุ่งท้าวเจือง และท้าวก่ำกาดำ และเรื่องท้าวก่ำกาดำ มีตอนหนึ่งว่า กาดำใช้แคนเป่าจีบสาว ดังว่า
    ท้าวก็เป่าจ้อยๆ คือเสียงเสพเมืองสวรรค์
    จนว่าฝูงคนเฒ่าเหงานอนหายส่วง
    จนว่าสาวแม่ฮ้าง คะนงโอ้อ่าวผัว
    ฝูงพ่อฮ้างคิดฮ่ำคนึงเมีย
    เหลือทนทุกข์ผู้เดียวนอนแล้ว
    เป็นที่อัศจรรย์แท้เสียงแคนท้าวก่ำ
    ไผ่ได้ฟังม่วนแม้งในสว่างว่างเว
    ฝูงกินข้าวคาคอค้างอยู่
    ฝูงอาบน้ำป๋าผ่า แล่นมา
    ในปัจจุบันนี้ แคน เป็นเครื่องดนตรีที่มีความเก่าแก่มากที่สุด เป็นเครื่องดนตรีที่มีความนิยมเป่ากันมาก โดยเฉพาะชาวจังหวัดขอนแก่น ถือเอาแคนเป็นเอกลักษณ์ชาวขอนแก่น รวมทั้งเป็นเครื่องดนตรีประจำภาคอีสานตลอดไป และในปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้มีการประดิษฐ์ทำแคนเป็นอาชีพอย่างมากมาย เช่น อ.นาหว้า จ.นครพนม จะทำแคนเป็นอาชีพทั้งหมู่บ้าน รวมทั้ง จังหวัดอื่นๆ อีกมากมาย และแคนยังเป็นเครื่องดนตรีที่นำมาเป่าประกอบการแสดงต่างๆ เช่นแคนวง วงโปงลาง วงดนตรีพื้นเมือง รวมทั้งมีการเป่าประกอบพิธีกรรมของชาวอีสาน เช่า รำผีฟ้า รำภูไท เป็นต้น รวมทั้งเป่าประกอบหมอลำกลอน ลำเพลิน ลำพื้น รวมทั้งหมอลำซิ่ง ยังขาดแคนไม่ได้

    ที่มา วิชาดนตรีอีสาน สาขาดนตรีไทย
    คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    ขอบพระคุณสมาชิกและทีมงานที่เคารพรักทุกท่าน

  2. #2
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวดอนโบม
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    1,421
    อั่นที่ฝารางงเขาเลียนแบบเป็น อ๊อแก๊นนั่น ฮ่าาาาา

    แคนเป็นเครื่องดนตรีอิสานขนานแท้เลยครับ ไผเลียนแบบบ่ได้ครับ
    เอกลักษ์เฉพาะโตอิหลี

  3. #3
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ บ่าวเมืองขอนแก่น
    วันที่สมัคร
    Jan 2008
    กระทู้
    418
    ขอบคุณเด้อครับ ได้ความรู้หลายอี้หลี...8)

  4. #4
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ sorrattana
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    กระทู้
    15

    Re: .:: ตำนานแคน ::.

    ตำนานแคนไม่น่าจะมาจากแม่หม้าย

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ บ่าวนวนคร
    วันที่สมัคร
    May 2007
    ที่อยู่
    Loei
    กระทู้
    70
    เข้าท่าครับ ที่มาประวัติ
    กะเคยสั่งมาแต่ นาหว้า ของกำนันสุนทร ชาสงวนคือกัน
    ดีครับ ถูกดี
    บ่เปลืองลม มีหลายคีย์(แล้วแต่สั่ง)
    แต่ขี้สูดอ่อนเร็วไปครับ

  6. #6
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ บ่าวต้นฅนมุกดาหาร
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    ..."มุกดาหาร"...
    กระทู้
    761
    ดีๆครับเสียงพิณ เสียงแคนได้ฟังบาดได๋กะคิดฮอดบ้านเฮาหลายครับ

  7. #7
    Membership renewed สัญลักษณ์ของ siranee
    วันที่สมัคร
    Jul 2008
    ที่อยู่
    ลาดกระบัง54(วัดศรีวารีน้อย)
    กระทู้
    909
    มรดกอิสาน....ขอบคุณน่ะค่ะที่เอาข้อมูลมาแบ่งปันจ้า

  8. #8
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ mrprayoon
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    ที่อยู่
    สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด
    กระทู้
    8
    บล็อก
    1
    น่าจะเป็นพรานนะครับที่มีอาชีพเข้าป่าล่าสัตว์ ไม่น่าจะใช่พราหมณ์ แต่ดีครับ ขอบคุณมากมาย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •