บราซิล 3:0 ชิลี GOAL!!!
ศึกลูกหนังฟุตบอลโก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้ายวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน "แซมบ้า" บราซิล ถล่มชิลี ไปแบบขาดลอย 3:0 เดินเข้าสู่รอบ8ทีมสุดท้าย
ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2553
บราซิล 3:0 ชิลี
สนาม : เอลลิส พาร์ค
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)
เวลาเตะ : 01.30 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 9 (MCOT)
ผู้ทำประตู ฮวน[35],หลุยส์ ฟาเบียโน่ [38],โรบินโญ่ [59]
ครึ่งแรก
เริ่มครึ่งแรกชิลีได้เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน ชิลีก็เปิดเกมบุกทันที แต่ทีมที่ได้ลุ้นก่อนกลับเป็น บราซิลในนาที 4 จากจังหวะโต้กลับเร็วของบราซิล หลุยส์ ฟาเบียโน่ หลุดมาทางขวาเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแต่ยิงบดไปมากบอลเลยเสาสองออกหลังไป
บราซิลเริ่มมาเป็นชุด นาที 8 จิลแบร์โต้ ซิลวา ได้ซัดไกลนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งแรงติดไซด์ก้อยทำท่าจะมุดเสาแต่ เคลาดิโอ บราโว่ ยังไม่พลาดกระโดดพุ่งปัดไว้ได้และอึดใจเดียว กาก้า ก็ได้ส่องไกลนอกกรอบบ้างแต่ยังไม่ดีพอ
นาที 13จากลูกวางบอลยาวกลางสนามมาถึงหน้าเขตโทษ อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ ยิงเร็วด้วยขวาทันที ชูลิโอ เซซ่าร์ ยังรับไว้ได้ และอีกสองนาทีถัดมา รามิเรส แข้งแซมบ้ามีโอกาสได้ส่องไกลนอกกรอบ เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารชิลีล้มตัวรับไว้ได้
ชิลีหาทางเจาะเกมบราซิลลำบากจึงได้ลองส่องไกลนอกกรอบในนาที 22 ของอเล็กซิส ซานเชซ และอีกจังหวะจากการยิงไกลของ กอนซาโล่ ฆาร่า
นาที28บราซิลได้ลูกเตะมุม ดั๊กลาส ไมค่อน เปิดลูกเตะมุมโด่งยาวมาหน้าประตู ฮวน ได้เทกตัวขึ้นโขกแตผิดเหลี่ยมไปมากบอลปลิ้นออกหลังไป
แซมบ้ามาได้ประตูขึ้นนำเป็น1:0จนได้ในนาที 35 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ดั๊กลาส ไมค่อน วางบอลยาวมาหน้าประตู ฮวน ได้กระโดดขึ้นโหม่งไม่พลาดบอลเสียบตาข่ายเข้าไปสุดสวย
นาที 38 บราซิลมาได้ประตูหนีห้างเป็น 2:0 จากจังหวะที่ โรบินโญ่ ลากบอลมาทางกราบซ้ายจ่ายตัดเข้าในให้ กาก้า แล้วแทงบอลเร็วไปหน้าประตู หลุยส์ ฟาเบียโน่ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษโชว์ทักษะล็อคหลบ เคลาดิโอ บราโว่ ประตูชิลี แล้วยิงเข้าไปจ่อๆแบบเลือดเย็นบอลข้ามเส้นเข้าประตูไป
ช่วงท้ายเกมในครึ่งแรก ยังเป็นบราซิลที่ครองเกมได้มากกว่าและได้ลุ้นจากลูกพุ่งโหม่งของ หลุยส์ ฟาเบียโน่ จบเกมครึ่งแรก "แซมบ้า" บราซิล ยังนำ ชิลี อยู่ 2:0
ครึ่งหลัง
เริ่มเกมครึ่งหลังแค่3นาทีแรกบราซิลก็ได้ลุ้นก่อนอย่างรวดเร็วจากลูกฟรีคิกนอกกรอบทางซ้าย ดาเนียล อัลเวส เป็นคนปั้นบอลเหินข้ามคานหลุดเสาสองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 59 แซมบ้ามาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกเป็น 3:0 จากจังหวะที่ รามิเรส ตัดบอลได้จากกลางสนามกระชากบอลลากเลื่อยมาถึงไกล้เขตโทษชิลีแล้วแทงบอลออกด้านซ้ายให้ โรบินโญ่ ยิงปั้นด้วยขวาบอลเสียบเสาเข้าไปสุดงาม
นาที 66 ชิลีได้ลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ อเล็กซิส ซาน จ่าบบอลตัดเข้ากลางให้ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย แตะบอลแล้วซัดด้วยขวาใบไม้ล่วงเสียบหลังตาข่ายยังไม่เป็นประตูและอีก3นาทีถัดมา กาก้า ได้มีโอกาสลุ้นประตูจากลูกส่องไกลนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
แซมบ้าบราซิลมาได้โอกาสทองอีกครั้งนาที 73 จากจังหวะโต้กลับเร็ว โรบินโญ่ ได้บอลจากกลางกระชากบอลมาทางฝั่งขวาก่อนเลี้ยงบอลจี้เข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงเองอัดไปที่เสาสองแต่บอลยังไปติดมือของ เคลาดิโอ บราโว่ ปัดออกหลังไปช่วยทีมเอาไว้ได้
นาที 78 เป็นจังหวะได้ลุ้นตีไข่แตกของชิลี โรดริโก้ เตลโล่ ตัวสำรองเตะมุมวางยาวมาถึงกลางประตู อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ ได้ซัดบอลลอยโค้งตกลงโดนเหลี่ยมบนของคานออกไป
ช่วงทดเจ็บ ชิลียังมีลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย ตัวสำรองชิลีได้มีโอกาสยิงไม่ดีพอที่จะเป็นประตู กรรมการเป่าจบ90นาที "แซมบ้า" บราซิล ถล่มชิลี ไปแบบขาดลอย 3:0 เดินเข้าสู่รอบ8ทีมสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่น11 ตัวจริงทั้งสองทีมที่ได้ลงสนาม
บราซิล ระบบ 4-3-1-2 :
ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ (กัปตันทีม), ฮวน, มิเชล บาสโต๊ส - จิลแบร์โต้ ซิลวา, รามิเรส- ดาเนียล อัลเวส, กาก้า, โรบินโญ่ - หลุยส์ ฟาเบียโน่
ชิลี ระบบ 3-4-3 :
เคลาดิโอ บราโว่ - เมาริซิโอ อิสล่า, ปาโบล กอนเตรราส, อิสมาเอล ฟูเอนเตส - อาร์ตูโร่ วิดาล, คาร์ลอส คาร์โมน่า, กอนซาโล่ ฆาร่า, มาร์ค กอนซาเลซ - ฌอน โบเซอฌูร์, อเล็กซิส ซานเชซ, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่
********************************
ฮอลแลนด์ 2:1 สโลวาเกีย
ร็อบเบน, สไนจ์เดอร์ คนละตุง! ดัชต์ต้อนสโลวัก 2:1 ลิ่วก่อนรองฯ
ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2553 ฮอลแลนด์ เอาชนะ สโลวาเกีย 2:1 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จ
ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2553
ฮอลแลนด์ 2:1 สโลวาเกีย
สนาม : โมเซส มาบฮิดา สเตเดี้ยม, เดอร์บาน
ผู้ชม : 61,962 คน
ผู้ตัดสิน : อัลเบร์โต้ อันเดียโน่ มาลเลนโก้ (สเปน)
เวลาเตะ : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 11 (สทท.)
ผู้ทำประตู : อาร์เยน ร็อบเบน น.18, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ น.84, โรเบิร์ต วิตเท็ค น.90+
ทีมชาติฮอลแลนด์ อดีตรองแชมป์โลก หนึ่งในตัวเต็งของฟุตบอลโลกครั้งนี้หลังชนะรวด 3 เกมรอบแรก จะเดินหน้าทำศึกรอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ สโลวาเกีย คู่แข่งร่วมทวีปยุโรป ที่เพิ่งเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกในชื่อสโลวาเกีย หลังแยกประเทศจาก เชกโกสโลวาเกีย
ครึ่งแรก
สโลวาเกีย เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากขวาไปซ้ายและก็ ได้ลุ้นจังหวะแรก วลาดิเมียร์ วลาดิเมียร์ ไวส์ ทำเกมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนแตะตัดเข้าในไหลมาให้ อีริค เยนดริเช็ค ตั้งป้อมซัดด้วยซ้าย แต่กดไม่ลงบอลโด่งข้ามคาน
นาทีที่ 5 ฮอลแลนด์ ได้โอกาสลุ้น! อาร์เยน ร็อบเบน ลากขึ้นมาทางขวาก่อนจะจ่ายสั้นให้ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ซัดจากนอกกรอบ บอลพลาดเป้าออกหลัง
ฮอลแลนด์ ทำเกมขึ้นมาได้น่ากลัว! นาทีที่ 11 โรบิน ฟาน พอร์ซี่ ม้วนพาบอลหนีตัวประกบจ่ายออกซ้ายให้ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ วิ่งเข้ามาซัดเรียดบอลติดเซฟ แยน มูช่า ผู้รักษาประตูสโลวาเกีย
ฮอลแลนด์ ได้ประตูขึ้นนำ 1:0 ในนาทีที่ 18 จากจังหวะสวนกลับ ร็อบเบน พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจะลากตัดเข้าใน ฟาน เพอร์ซี่ วิ่งดึงตัวประกบเปิดช่องให้ ดาวเตะซ้ายผ่านตลอดซัดจากนอกกรอบ บอลพุ่งเรียดเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 40 ฮอลแลนด์ เจาะเกมขึ้นมาตรงกลางสนาม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ได้จังหวะซัดด้วยขวาเท้าข้างไม่ถนัดบอลบดไหลเข้ามือ แยน มูช่า ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก ฮอลแลนด์ออกนำ สโลวาเกีย 1:0
ครึ่งหลัง
เขี่ยลูกเริ่มเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ฮอลแลนด์ ต่อเกมขึ้นมาทางขวามาถึง ร็อบเบน แตะด้วยซ้าตัดเข้าในตวัดยิงเร็วกะให้บอลเสียบเสาไกล แยน มูช่า ปัดปลายมือออกหลัง
นาทีที่ 52 เกมขึ้นมาทางซ้าย ฮอลแลนด์ ได้ลุ้นอีกครั้ง! ร็อบเบน จ่ายผ่านหน้าปากประตูเข้ากลางให้โยริส มาไธจ์เซ่น กองหลังซึ่งเติมเกมขึ้นมาเข้าชาร์จติดเซฟ มูช่า อีกครั้ง
นาทีที่ 60 ฮอลแลนด์ ได้ลูกฟรีคิกทางขวาของเขตโทษ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับหน้าที่สังหารยิงยัดเข้ามาด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้ากรอบ แยน มูช่า ต้องออกแรงเซฟ
สโลวาเกีย เองก็มีโอกาสลุ้น! นาทีที่ 66 บอลจากตรงกลางถ่ายออกขวา มิโรสลาฟ สต็อช ลากตัดย้อนเข้าในได้จังหวะสับไกตรงกลางประตู มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ต้องปัดออกหลัง นาทีถัดมา โรเบิร์ต วิตเท็ค หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงอีกครั้งแต่ยังไม่ผ่าน สเตเคเลนเบิร์ก
สโลวาเกีย ทำเกมบุกกดดัน ฮอลแลนด์ ได้หลายจังหวะ นาทีที่ 79 โรเบิร์ต วิตเท็ค ได้โอกาสสับไกด้วยขวาหน้าเขตโทษโล่งๆ แต่กดไม่ลงบอลโด่งข้ามคานไปไกล
นาทีที่ 84 ฮอลแลนด์ ขยับประตูหนีไปเป็น 2:0 บอลจากลูกตั้งเตะกลางสนามสาดขึ้นหน้า เดิร์ก เคาท์ โฉบโขกแต่งบอลหนี มูช่า ที่ออกมาตัดก่อนจะป้ายเข้ามากลาง เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ วางเท้าแปง่ายๆ ส่งบอลกองก้นตาข่าย
ช่วงท้าย สโลวาเกีย ตีตื้นไล่มาเป็น 1:2 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก รวบ มาร์ติน ยาคุปโก้ ล้มลงผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษ โรเบิร์ต วิตเท็ค รับหน้าที่สังหารซัดไม่พลาดส่งบอลกองก้นตาข่าย แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา ฮอลแลนด์ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นผลสำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์: ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู: มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก
กองหลัง: โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล
กองกลาง: มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ (อิบราฮิม อเฟลลาย น.90+), อาร์เยน ร็อบเบน (เอเรลโย่ เอเลีย น.70), เดิร์ก เคาท์
กองหน้า: โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (คลาส แยน ฮุนเตลาร์ น.80)
กุนซือ: เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์
สโลวาเกีย: ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู: แยน มูช่า
กองหลัง: ปีเตอร์ เปคาริค, มาร์ติน สเคอร์เทล , แยน ดูริก้า, ราโดสลาฟ ซาบาฟนิค (มาร์ติน ยาคุปโก้ น.87)
กองกลาง: มาเร็ค ฮัมซิค (มาเร็ค ซาปาร่า น.87), ยูราจ คุชก้า , มิโรสลาฟ สต็อช, วลาดิเมียร์ วลาดิเมียร์ ไวส์
กองหน้า: โรเบิร์ต วิตเท็ค, อีริค เยนดริเช็ค (คารมิล โคปูเน็ค น.71 )
กุนซือ: วลาดิเมียร์ ไวส์
****************************
เยอรมัน 4:1 อังกฤษ
กฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553
เยอรมัน 4:1 อังกฤษ
สนาม : ฟรี สเตท สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : จอร์เก้ ลาร์ริออนด้า
เวลาเตะ : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7
ผู้ทำประตู มิโรสลาฟ โคลเซ่ [20]ลูคัส โพดอลสกี้ [32]แม็ทธิว อัพสัน [37]โธมัส มุลเลอร์ [67,70]
ครึ่งแรก
เริ่มเกมครึ่งแรก อังกฤษ มาด้วยชุดแดงทั้งชุด ในชั่งนาที่แรกทั้งสองทีมยังเล่นกันแบบระวังตัว และอินทรีเหล็กได้โอกาสลุ้นก่อนนาที5 จากจังหวะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์วางบอลยาวจากกลางสนามมาทางกราบขวา เมซุต โอซิล รับบอลได้กระชากเข้าเขตโทษทางขวาแล้วซัดมุมแคบ แต่ยังไปติด เดวิด เจมส์ บอลออกหลังไป
นาที 17 เยอรมันมีลุ้น จากลูกส่องไกลของ ซามี่ เคดิร่า แต่เหินข้ามคานออกไป และ อังกฤษได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกแต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ยิงไปอัดกำแพงเต็มๆ
อินทรีเหล็ก เยอรมันมาได้ประตูขึ้นเป็น 1:0 ใน นาที 20 จากจังหวะที่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารเยอรมันวางบอลจากหน้าประตูตัวเองลอยโด่งมาถึงหน้าประตูอังกฤษ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โฉบมารับบอลไว้ได้แล้ววิ่งกระชากจี้เข้าเขตโทษ แม็ทธิว อัพสัน พยายามมาเบียดแย่งบอลแต่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ยังล้มตัวยิงได้บอลผ่านมือเดวิด เจมส์ เข้าไปอย่างสุดสวย
นาที 25 แกเร็ธ แบร์รี่ได้ส่องไกลจากนอกกรอบแต่มานูเอล นอยเออร์ยังรับไว้ได้ และอีกหกนาทีถัดมา โธมัส มุลเลอร์ แทงบอลจากนอกกรอบทะลุแผงหลังมาถึง มิโรสลาฟ โคลเซ่ ได้หลุดไปยิงแต่ยังไปติดขาของ เดวิด เจมส์ ยังไม่เป็นประตู
อินทรีเหล็ก เยอรมันได้ประตูหนีห่างไปเป็น 2:0 ในนาที 32จากจังหวะที่โธมัส มุลเลอร์จ่ายบอลจากตรงกลางประตูไปทางซ้ายให้ ลูคัส โพดอลสกี้ ซัดจากมุมแคบทางซ้าย ลอดหว่างขาเดวิด เจมส์ เขาไปอย่างสุดสวย
ทีมชาติอังกฤษ มาได้ประตูตีไข่แตก 2:1นาที 37 สตีเว่น เจอร์ราร์ดวางบอลยาวจากกราบขวามาทีหน้าประตู แม็ทธิว อัพสัน กระโดดโหนโขกย้อนศรเข้าเสียบตาข่ายประตูไป
อีกนาทีถัดมา แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงอัดคานเด็งเข้าประตูไปแต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู หลังจากได้ประตูตีตื้นอังกฤษเริ่มบุกได้มากกว่าแต่ยังทำอะไรไม่ได้มาก จบครึ่งแรก อินทรีเหล็ก เยอรมัน ยังนำ สิงโตคำราม อังกฤษ 2:1
ครึ่งหลัง
เริ่มเกมครึ่งหลังนาที 47 ได้ลุ่นก่อนจากลูกยิงไกลของ เจมส์ มิลเนอร์ แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตูและอีกนาทีต่อมา สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลุดมาทางกราบซ้ายแล้วเลี้ยงตัดเข้าในก่อยซัดด้วยขวาบอลออกหลังไป
นาที52 สิงโตคำรามาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วิ่งเข้าซัดด้วยขวาเต็มข้อจาก 35หลาบอลพุ่งเร็วมุดไปชนคานสนั่น
เยอรมันเสียววาบ นาที 58 ฟิลิปป์ ลาห์ม จ่ายบอลกลับหลังแล้วเจอร์เม่น เดโฟ วิ่งโฉบตามบอลแต่ยังโชคดี มานูเอล นอยเออร์ ออกมาสกัดบอลไว้ได้ทัน อีก4นาทีต่อมา จากการทำเกมกลางสนาม เวย์น รูนี่ย์ ไหลบอลเข้าไปเขตโทษทางซ้ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้ส่องแต่ยังไปติดกองหลังเยอรมัน
อินทรีเหล็ก เยอรมัน มาได้ประตูหนีห่างไปเป็น 3:1นาที 67 จากจังหวะโต้กลับเร็ว บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ รับบอลมาจากเดนหลังแล้วกระชากบอลเข้ากลางก่อนจ่ายบอลไปทางซ้าย โธมัส มุลเลอร์ หอกดาวรุ่งซัดด้วยขวาบอลผ่านมือ เดวิด เจมส์
นาที่ 70 จากจังหวะโต้กลับเร็วอีกลครั้ง เมซุต โอซิล ได้บอลกระชากหลุดมาทางฝั่งซ้ายแล้วจ่ายตัดเข้าไปหน้าปากประตูให้ โธมัส มุลเลอร์ ได้ซัดแบบจ่อบอลเข้าประตูไป เยอรมันนำโด่งเป็น 4:1
นาที 81สตีเว่น เจอร์ราร์ดทำชิ่งกับเวย์น รูนี่ย์ที่หน้าประตูก่อนหลุดเข้าเขตโทษได้ซัดด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมของครึ่งหลัง อังกฤษยังไม่ยอมแพ้มีลุ้นประตู แฟร้งค์ แลมพาร์ด แต่มานูเอล นอยเออร์ยังรับไว้ได้ จบเกม90นาที "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ถล่ม"สิงโตคำราม" อังกฤษ ไป4:1 ลิ่วเข้ารอบ 8ทีมสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งที่ได้ลงสนาม 11 ตัวจริง
เยอรมัน ระบบ 4-2-3-1 :
มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, เยโรม บัวเต็ง, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้, มิโรสลาฟ โคลเซ่
อังกฤษ ระบบ 4-4-2 :
เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, แม็ทธิว อัพสัน, แอชลี่ย์ โคล - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่,เจมส์ มิลเนอร์- เวย์น รูนี่ย์, เจอร์เม่น เดโฟ
******************************
อาร์เจนติน่า 3:1 เม็กซิโก
เตเบซเบิ้ล!ฟ้าขาวอัดจังโก้3:1เข้าบู๊เยอรมัน
ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553
อาร์เจนติน่า 3:1 เม็กซิโก
สนาม : ซ็อคเก้อร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ (อิตาลี)
เวลาเตะ : 01.30 น.
ใบเหลือง : ราฟาเอล มาร์เกวซ 28
ใบแดง : --
ผู้ทำประตู : [1:0]คาร์ลอส เตเบซ 26, [2:0]กอนซาโล่ อิกวาอิน 33, [3:0]คาร์ลอส เตเบซ 52, [3:1]ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ 71
ผู้ชม : 84,377 คน
[/INDENT]
ครึ่งแรก [/CENTER]
เริ่มเกมมานาที 8 ลิโอเนล เมสซี่ ทำฮือฮา! เมื่อได้บอลเลี้ยงจี้ขึ้นมาก่อนยิงติดกองหลัง เม็กซิโก จากนั้น"จังโก้"ได้โอกาส คาร์ลอส ซัลซิโด้ ฉวยโอกาสยิงไกลบอลไปชนคานอย่างจัง และต่อมา เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ ยิงด้วยซ้ายนอกกรอบบอลเลี้ยวหนีเสาออกหลังนิดเดียว
นาที 14 จังหวะตอบโต้ของ เม็กซิโก มีอีกจาก ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ยิงไกลนอกเขตไม่ตรงประตู
จากนั้นเกมเล่นมาถึงนาที 26 "ฟ้า-ขาว" มาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เมสซี่ ไหลบอลให้ เตเบซ สอดขึ้นไปโดน ออสก้าร์ เปเรซ ออกมาสกัดเข้าทาง เมสซี่ อีกทีซิบบอลให้ เตเบซ ขวิดเข้าประตูไป 1:0 ซึ่งยืนล้ำหน้าอยู่ ทำให้ผู้เล่น เม็กซิโก เข้าประท้วงผู้ตัดสิน แต่สุดท้าย โรเซ็ตติ ตัดสินให้เป็นประตู
"จังโก้" เสียสมาธิจากลูกแรกและ ริคาร์โด้ โอโซริโอ ทำปั่นลั่นเมื่อคิดจะดึงบอลกลับแต่กลายเป็นส่งให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน จับบอลไปเลี้ยงหนี ออสก้าร์ เปเรซ ก่อนยิงเข้าไปง่ายดายให้ทีมนำ 2:0 ในนาที 33
นาที 38 เกมรับของ เม็กซิโก พลาดอีกปล่อยให้ อังเคล ดิ มาเรีย ลุยขึ้นมายิงติด ออสก้าร์ เปเรซ เด้งออกมาเข้าทาง คาร์ลอส เตเบซ ก็ยังติดกองหลัง "จังโก้" ที่เข้ามาขวางทัน
นาที 42 อิกวาอิน ได้โหม่งโดนเหลี่ยมไม่ดีปลิ้นออกหลัง ถัดมา 1 นาที ราฟาเอล มาร์เกวซ ลองยิงไกลก็ไปตรงตัว เซร์คิโอ โรเมโร่ จนหมด 45 นาทีแรก อาร์เจนติน่า นำ เม็กซิโก อยู่ 2 ลูก
ครึ่งหลัง
กลับมาเล่นกันต่อ เม็กซิโก แก้เกมใหม่และมีโอกาสบุกใส่ อาร์เจนติน่า แต่จังหวะสุดท้ายยังจบสกอร์ไม่ได้ จนนาที 52 "จังโก้" ต้องมาเสียประตูที่สามจาก คาร์ลอส เตเบซ ตะบันเต็มข้อด้วยขวานอกเขตตุงตาข่าย 3:0
นาที 60 ปาโปล บาร์เรร่า ลุยขึ้นไปทางซ้ายก่อนตัดสินใจยิงเข้าข้างตาข่ายไป และ ฮาเวียร์ อากวิร์เร่ ส่ง กิลเยร์โม่ ฟรังโก้ มาเสริมเกมบุก
นาที 63 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ มีโอกาสขึ้นโขกบอลข้ามคานไปนิดเดียว และนาที 69 ปาโปล บาร์เรร่า ได้โอกาสยิงบอลเด้งพื้นกำลังจะเข้าประตูแต่โดนกองหลัง อาร์เจนติน่า โหม่งออกมา
"ฟ้า-ขาว" ผ่อนเกมบุกมารับและก็มาเสียจนได้เมื่อ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ได้บอลหน้าเขตพลิกไปทางซ้ายกดเข้าข้อพุ่งเข้าประตูไป ไล่มา 1:3 ในนาที 71
หลังเสียประตูทัพ "ฟ้า-ขาว" รับไม่ไหวต้องกลับมาเดินเกมบุกเหมือนเดิม ทำให้เกมมาเปิดอีกจนเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 90 ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ลีลาเลี้ยงลุยขึ้นไปก่อนได้ยิงด้วยซ้ายไม่ผ่าน ออสก้าร์ เปเรซ ปัดออกหลัง
จบเกม!! อาร์เจนติน่า เอาชนะ เม็กซิโก ไป 3:0 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเจอกับ เยอรมัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เจนติน่า ระบบ : 4-3-1-2
ผู้รักษาประตู : เซร์คิโอ โรเมโร่
กองหลัง : นิโคลัส โอตาเมนดี้, มาร์ติน เดมิเคลิส, นิโคลัส บูร์ดิสโซ่, กาเบรียล ไอน์เซ่
กองกลาง : ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, มักซี่ โรดริเกซ(ฮาเวียร์ ปาสโตเร่ น.87), อังเคล ดิ มาเรีย(โฮนาส กูเตียร์เรซ น.79), ลิโอเนล เมสซี่
กองหน้า : คาร์ลอส เตเบซ(ฮวน เซบาสเตียน เวรอน น.69), กอนซาโล่ อิกวาอิน
กุนซือ : ดิเอโก้ มาราโดน่า
เม็กซิโก ระบบ : 4-3-2-1
ผู้รักษาประตู : ออสก้าร์ เปเรซ
กองหลัง : ราฟาเอล มาร์เกวซ, ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ, ริคาร์โด้ โอโซริโอ, คาร์ลอส ซัลซิโด้
กองกลาง : เอเฟรน ฮัวเรซ, เคราร์โด้ ตอร์ราโด้, อันเดรส กวาร์ดาโด้(กิลเยร์โม่ ฟรังโก้ น.62), อโดลโฟ่ เบาติสต้า(ปาโปล บาร์เรร่า น.46), จิโอวานี่ ดอส ซานโตส
กองหน้า : ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
กุนซือ : ฮาเวียร์ อากวิร์เร่
************************************
Bookmarks