"..ชีวิตที่ถูกทอดทิ้ง.."
..............เกิด..แก่..เจ็บ..ตาย มันเป็นวัฏจักรของชีวิตที่เราหลีกหนีไม่พ้น...ช่วงของชีวิตระหว่าง แก่ไปเจ็บ..แน่นอนว่าชีวิตย่อมวนเวียนอยู่แถวๆโรงพยาบาล..ดังนั้นกว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจึงเป็น...ผู้สูงอายุ......ต่ายนั่งมองผู้สูงอายุเอาตั้งแต่ 60 ปีต้นๆแต่ละคนยังพอดูแลตัวเองได้...แต่...70 ปีขึ้นไปก็จะมีลูกหลานพามาส่ง...บ้างก็จูงมือพาไปห้องต่างๆ ..บ้างก็หลานเอามาส่งแค่ประตูโรงพยาบาลแล้วก็หายจ้อยเข้าไปในเมือง..
...........ผู้ป่วยสูงอายุหลายรายที่ต่ายต้องใช้เวลาอธิบายวันนัด การปฏิบัติตัวในโรคที่เป็นนานพอสมควรเนื่องจากความเสื่อมของร่างกาย หูตึง ตามัว สารพัดจะเจอปัญหา..ครั้นพอถามหาญาติ..ท่านก็บอกว่ามาคนเดียว หรือไม่ก็ญาติเอามาทิ้งไว้ บ่ายๆจะมารับ..หลายคนที่ต่ายเห็นนั่งเหม่อลอยอย่างเดียวดาย...ดวงตาฉายแววหงอยเหงา.. วิตกกังวลและมีหลายคนที่ต่ายเห็นท่านเหม่อมอง ผู้สูงอายุคนอื่นๆที่มีลูกหลานรุมล้อมมาส่ง
ต่ายเข้าใจว่า..ครอบครัวแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน....
........แต่สิ่งที่ต่ายรู้สึกสะท้อนใจมากๆ..คือผู้ป่วยที่บอกว่ามีลูกหลานหลายคน แต่ไม่มีใครว่างที่จะมาเป็นธุระคอยรับส่งเพราะอ้างว่า ติดงาน งานยุ่ง สารพัดข้ออ้างซึ่งต่ายรู้ว่ามันก็จริง...
ทั้งๆที่ผู้สูงอายุเลี้ยงดูลูกๆส่งเสียให้ได้ร่ำเรียนพร้อมๆกันหลายคน ขายนา ขายไร่ บ้างก็กู้เงินมาสารพัด โดยที่ท่านไม่เคยมีข้ออ้างที่จะไม่เลี้ยงดูลูกๆเหล่านั้น......แต่สิ่งที่ท่านได้รับในบั้นปลายของชีวิตคือ..การถูกทอดทิ้งเพียงลำพัง..
........คุณยายคำก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกทอดทิ้งแบบไม่ตั้งใจ..เพราะลูกๆคิดว่าคุณยายยังพอช่วยตัวเองได้..ก็เลยปล่อยให้ท่านดูแลตัวเองไปก่อน...
.........แต่สิ่งที่คุณยายได้ระบายให้ต่ายฟังด้วยน้ำตาคลอตาคือคุณยายไม่อยากเป็นภาระลูกๆ......เลยพยายามดูแลตัวเองเพราะคุณยายต้องมารับยาทุก 3 เดือน..จนมาวันหนึ่งคุณยายก็ต้องจากลูกๆไปแบบกระทันหันไม่ทันได้สั่งเสียเลยแม้แต่น้อย...คุณยายขับรถจักรยานยนต์มารับยาเองตามปกติ..แต่ขณะจะเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาล..คุณยายถูกรถอีกคันชนด้านหลังแบบไม่ทันระวังตัว..เหตุเกิดที่หน้าโรงพยาบาลแท้ๆแต่เราก็ไม่อาจช่วยชีวิตคุณยายได้
.......ทีมช่วยปั๊มหัวใจคุณยายเกือบชั่วโมง..แต่ก็ไร้ผลเพราะคุณยายหัวน็อคพื้นถนน..สมองกระทบกระเทือนมาก..คุณยายไม่ได้สวมหมวกกันน็อค..เหมือนที่ผู้สูงอายุหลายๆคนไม่ชอบใส่...ญาติๆที่มารับศพคุณยายร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด..แต่มันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา....เพราะปั้นปลายชีวิตของคุณยายไร้คนที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น........
.......ต่ายไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย...หนึ่งชีวิตที่เสียไปดูเหมือนช่างไร้ค่าและเดียวดาย..ทั้งๆที่ตอนท่านมีชีวิตอยู่หลายชีวิตเติบโตมาด้วยการเอาใจใส่ดูแลของท่านด้วยความยากลำบาก.....
.......บันทึกฉบับนี้ของต่ายเพียงหวังว่าจะช่วยเตือนสติหลายคนที่ยุ่งกับงานจนทอดทิ้งผู้ที่เคยเลี้ยงดูเรามาเกือบตลอดชีวิต...ชีวิตคนเราไม่แน่นอน..อย่าปล่อยเวลาผ่านไป...ผู้สูงอายุไม่ได้ต้องการเงินมากไปกว่าการดูแลเอาใจใส่ท่านบ้างในบั้นปลายของชีวิต...
อย่ารอให้ท่านร้องขอจากเรา...เพราะมันอาจจะสายไปคะ...
Bookmarks