ทำไมจักจั่นซึ่งเป็นแมลงมีปีกที่ใหญ่ที่สุด จึงต้องส่งเสียง “ร้อง” อย่างที่เราเรียกกัน
จักจั่น มีลักษณะเด่นตรงที่ตัวผู้ทำเสียงได้ โดยแหล่งกำเนิดเสียงมาจากบริเวณด้านใต้ลำตัวของท้องปล้องแรกต่อกับส่วนอก จักจั่นแต่ละชนิดมีเสียงเฉพาะในแต่ละตัว ทำให้สามารถแยกประเภทของจักจั่นได้จากเสียงร้องทำนองของเสียงร้องของจักจั่นอาจบ่งบอกได้ถึงการป้องกันตัว หรือตกใจเมื่อถูกรบกวน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปเพื่อการหาคู่ครอง สำหรับจักจั่น "เสียง" ก็ไม่ ต่างไปจาก "รูปร่างหน้าตาและความสามารถ" ของคนเรา โดยคุณภาพของเสียงบ่งบอกถึงคุณภาพของร่างกาย ขณะที่พลังเสียง ท่วงทำนอง ความไพเราะ คือลีลา เฉพาะของจักจั่นตัวผู้แต่ละตัว ที่จะประกาศหรือโชว์ให้ตัวเมียได้เห็น (ได้ยิน) ศักยภาพและพึงพอใจในที่สุด
มาถึงตอนนี้คงพอเดาออกว่า การที่จักจั่นส่งเสียงร้องให้ได้ยินหนาหูนั้น เป็นเพราะฤดูร้อนเป็นช่วงที่มันเริ่มออกมาหาคู่กัน และที่มักจะได้ยินเสียงร้องอยู่ฤดูเดียว ก็เพราะวงจรชีวิตของจักจั่นในประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 1 ปี หรือ 2 ปีพอดี (ไม่สามารถระบุชัดเจนได้ เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาทางกีฏวิทยาที่ลงลึกเรื่องจักจั่นในประเทศไทย)
ส่วนคำถามที่ว่าในฤดูอื่นนั้นเหล่าจักจั่นหายหน้าหายตาไปอยู่ที่ไหน ตอบได้ง่ายๆ ว่าพวกมันพากันหลบอยู่ใต้ดิน ทั้งนี้ วงจรชีวิตของจักจั่นจะเริ่มด้วยการที่จักจั่นตัวเมียเจาะต้นไม้ให้เป็นรูเล็กๆ เพื่อวางไข่ เมื่อไข่ฟักกลายเป็นตัวอ่อนแล้ว ตัวอ่อนจะร่วงลงสู่พื้นดินใช้ขาหน้าขุดฝังตัวอยู่ในดิน เมื่อเจริญเต็มที่จะไต่ขึ้นมาบนต้นไม้ ลอกคราบ กลายเป็นตัวเต็มวัยอาศัยอยู่บนต้นไม้แต่ระยะที่เป็นตัวเต็มวัยนี้สั้นมาก คือเมื่อผสมพันธุ์และวางไข่ (ในช่วงหน้าร้อน) แล้วก็จะตายไป
Bookmarks