-
Moderators
เทคนิค "สร้างกำลังใจ" ในวันหดหู่
วันนี้ได้รับ Forward mail ดีๆ เลยอยากเอามาแบ่งปัน สำหรับใครที่รู้สึกหดหู่ ท้อแท้ค่ะ
อยากบอกทุกคนว่า...ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครไม่เคยล้มหรือผิดหวังนะคะ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า เมื่อเราล้มแล้ว เราพร้อมที่จะลุกขึ้นมาสู้ต่อไหม อย่าหมดหวังค่ะ กำลังใจไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลค่ะ มันสร้างได้จากตัวเราเอง
เหมือนกับคำที่ว่า...
"สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร" และ
"ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ สู้ๆค่ะ
1. อย่าโทษตัวเอง
นำข้อนี้มาวางไว้เป็นข้อแรก เพราะการโทษตัวเองเป็นสิ่งที่มนุษย์ผู้ซึ่งเผชิญหน้ากับความผิดหวัง - ความเศร้าหมองมักทำก่อนข้ออื่น ๆ ดังนั้น หากสามารถเลิกโทษตัวเองได้ คน ๆ นั้นก็จะสามารถก้าวข้ามความตึงเครียดที่เผชิญอยู่ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ใน ที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น หากผู้ที่กำลังทุกข์มองว่าภาวะดังกล่าวก็ไม่แตกต่างจากการเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน หรือมะเร็ง ที่ต้องการการปรับปรุงเปลี่ยนวิถีชีวิต หรือมุมมองก็จะทำให้เขารับมือกับภาวะซึมเศร้านี้ได้ง่ายมากขึ้น
2. หาใครสักคนเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ
แม้ปัญหาที่ถาโถมเข้ามาจะไม่เหมือนกับอาการขาหัก - แขนหักที่ทุกคนมองเห็นและพร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ในยามนี้ การมีใครสักคนให้เราได้ปรึกษาสามารถช่วยให้อาการซึมเศร้าดีขึ้นเร็วกว่าการ เก็บความทุกข์เอาไว้กับตัวเองคนเดียวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี การจะหาคนปรึกษาในยุคนี้อาจต้องทำความเข้าใจด้วยว่า คนบางคนก็ไม่พร้อมจะรับฟังและให้การสนับสนุนคุณ แถมบางครั้งอาจไม่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเสียอีก ในกรณีนี้ ลองมองหาคนสนับสนุนที่สามารถให้ความรักคุณได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เช่น พ่อแม่ สามี-ภรรยา หรือเพื่อนสนิทที่รู้จักนิสัยคุณดีมาเป็นผู้รับฟัง เพราะเขาเหล่านั้นอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตคน ๆ หนึ่งจะพึงมี
3. เลื่อนการตัดสินใจออกไปก่อน
หากตอนนี้คุณมีอาการซึมเศร้าอยู่และต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญ คำแนะนำที่จำเป็นก็คือ พยายามเลื่อนการตัดสินใจนั้นออกไปก่อน เพราะความรู้สึกหดหู่สามารถส่งผลกระทบต่อมุมมองและการตัดสินใจของตัวบุคคล นั้น ๆ ให้เป็นไปในแง่ลบได้ ดังนั้น การรีบตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ หรือเรื่องสำคัญในตอนนี้ดูจะไม่เป็นผลดีมากนัก เพราะอาจทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เลวร้ายลงกว่าที่ควรจะเป็น จึงควรยืดการตัดสินใจต่าง ๆ ออกไปจนกว่าจิตใจของคุณจะดีขึ้น
แต่หากการตัดสินใจนั้นต้องทำโดยเร่งด่วน หรือไม่สามารถผัดผ่อนออกไปได้ ก็ควรขอคำแนะนำจากกัลยาณมิตร หรือคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อพิจารณาร่วมด้วย จะช่วยให้การตัดสินใจนั้น ๆ เกิดขึ้นบนมุมมองที่มีความหลากหลายมากขึ้น
4. ยิ่งเศร้าหมองยิ่งต้องดูแลสุขภาพ
อาจเป็นเรื่องยากที่จะฉุดคนไม่มีกำลังใจให้ลุกไปออกกำลังกาย แต่ถ้าหากจะปล่อยให้ความเศร้าเข้ายึดครองพื้นที่ทุกมุมของชีวิตก็คงเปรียบ เหมือนการไม่ยอมแก้ไขให้สถานการณ์ที่น่าหนักใจนี้พ้นผ่านไป การหมั่นออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้อาการ เศร้าหมองในชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
5. ปฏิบัติหน้าที่ตามกิจวัตรประจำวัน
การที่ปล่อยตัวเองจมอยู่กับความเศร้า และละเลยกิจวัตรประจำวันอาจทำให้ชีวิตของคุณดูแย่มากขึ้น จะดีกว่าหากยังคงทำสิ่งต่าง ๆ นั้นต่อไป เช่น ทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน ให้อาหารสุนัข รดน้ำต้นไม้ เพราะหากคุณมีสมาธิจดจ่อกับงานต่าง ๆ ที่ทำจะช่วยให้ลืมเรื่องที่ทำให้สิ้นหวัง - โศกเศร้าลงได้บ้าง
6. นอนหลับ
ความเครียดกับความเศร้าก็เหมือนไก่กับไข่ ที่บางครั้งความเครียดก็มาเยี่ยมเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ และบางครั้งเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอก็นำมาซึ่งความเครียด หากตอนนี้ทุกอย่างเข้ามารุมเร้าเยอะจนรับมือไม่ไหว การหยุดทุกอย่างเอาไว้แล้วนอนหลับพักผ่อนไปก่อนก็จะช่วยให้สภาพจิตใจหลังจาก ตื่นขึ้นมาดีขึ้น และมีสติไตร่ตรองมากขึ้น
7. อย่าทำจนเกินตัว
หลายครั้งที่คนเราจะเกิดความเครียดเพราะต้องรับมือกับหลายสิ่งหลายอย่างมาก จนเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ คำแนะนำในข้อที่ 7 คือการมองภารกิจเหล่านั้นให้เล็กลง พยายามไม่รับงานเพิ่มเข้ามา จากนั้นก็ค่อย ๆ สะสางงานเก่า ๆ ที่ค้างอยู่ให้หมดไป หรือลองแบ่งงานชิ้นใหญ่ ๆ ให้มีขนาดเล็กลง ทำไปทีละชิ้น ๆ จนครบ ก็สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของงานได้เช่นกัน
นอกจากนั้น การยอมรับความสามารถของตัวเองในช่วงที่เกิดอาการเครียด - หดหู่ว่าไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนช่วงที่สมองปลอดโปร่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ สถานการณ์ดีขึ้น ลองลดความคาดหวังกับตัวเองลงเหลือสัก 75 - 80 ปอร์เซ็นต์ดูบ้างก็คงไม่ผิดกระไร เพราะความเครียดนี้ก็เป็น
8. ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่เราทุกคนรับประทานเข้าไป นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้วยังส่งผลต่อสมองอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งอยู่ในภาวะหดหู่ก็ยิ่งสมควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ได้รับ สารอาหารที่ดี บำรุงเลี้ยงสมองให้คิดแต่สิ่งดี ๆ ได้
9.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่พบปัญหาในชีวิต แล้วหันไปพึ่งยาเสพติด เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หวังว่าการพึ่งพายาเสพติดเหล่านั้นจะช่วยให้จิตใจกลับมาดีได้ดังเดิม แต่ในความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้อาการซึมเศร้าต่อเนื่องยาวนานมากกว่าเดิมแล้ว ยังมีผลต่อร่างกายในระยะยาวด้วย เพราะจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง การปฏิสัมพันธ์กับผู้คน หรือหากเสพเป็นประจำจนติดเป็นนิสัยก็ยังมีผลเสียต่อหน้าที่การงานด้วย
เรียบเรียงข้อมูลจาก Health.com:1-:1-:1-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks