พลเอ้ยพล เสียงครกมอง (อีสาน) หรือครกกระเดื่อง ดังโป๊ก ๆ ๆ มาทางบ้านป้าทองขัน ไผสิเฮ็ดข้าวปุ้นน้อ อีแมถามข่อย
สมัยข่อยเป็นเด็กน้อย เวลาสิเฮ็ดข้าวปุ้น อีแมข่อยสิซวนข่อยไปตำแป้งข้าวปุ้นบ้านป้าทองขันพี่สาวของอีแม เอาแป้งข้าวปุ้นใส่กะต่า (ตระกร้า) ไป หนักพอสมควร ไปฮอดแล้วมีป้าแต๋วลูกสาวป้าทองขันมาตำซอย (ช่วย) เพราะว่าข่อยขึ้นแล้วครกมองบ่ยก จนเบิ๊ดแฮงซือ ๆ
อีแม่เอามือไปคนแป้งข้าวปุ้นในครก คนตำกะตำไปจนเนื้อแป้งได้ที่กะเอากลับบ้าน มานวดแล้วเอามาบีบเป็นข้าวปุ้น ยามบีบข้าวปุ้นข่อยสิถ่ากินไก่บักจ้น (แป้งขนมจีนที่หล่นก้นหม้อคล้ายรูปไก่โต้ง) หน้าเทศกาลหย่างไปบ้านไผมีแต่ข้าวปุ้น บางบ้านบ่ได้เฮ็ดกะเอามาส่งกัน บรรยากาศอบอุ่นดีคัก
(ขอขอบพระคุณเจ้าของภาพที่ใช้ประกอบกระทู้)
นอกจากนี้ครกมองยังใช้ตำพริก ตำข้าวขั่ว (ข้าวคั่ว) เวลาสิตำมาแปลงปลาแดก สมัยซูมื่อนี้ครกมองบ่ค่อยมีปานใด๋ แต่ก่อนกะมีครกตำข้าว เพิ่นเอิ้นว่าข้าวซ้อมมือ มีคุณค่าทางอาหารหลาย ผุเถ่าผุแก่สมัยก่อนบ่ค่อยเป็นโรคเหน็บชากันปานใด๋ เพราะเพิ่นกินข้าวซ้อมมือ ซูมื่อนี่ไปสีข้าวยิ่งขาวยิ่งดี สรุปแล้วมีแต่แป้ง สารอาหารไปตกอยู่ในฮำ (รำ) เอาไปให้หมูกินหมูอ้วนเอา ๆ
ซูมื่อนี้หายากแล้วครับครกมอง เพราะบ่ว่าสิเป็นขนมจีนหรือขนมที่ใช้ครกมองตำ เฮาสามารถซื้อสำเร็จมากินได้โลด เว่ามาแล่วคึดฮอดตอนสมัยเฮาเป็นเด็กน่อยน้อครับ
Bookmarks