ชาร์จบ่อย ชาร์จถี่ ...แบตฯหมดอายุใช้งานเร็ว

โรงงานส่วนใหญ่ ออกแบบชาร์จได้ประมาณ 300-400 ครั้ง

ชาร์จมากเกินกว่านั้น แบตฯจะเสื่อม...หมดอายุใช้งาน

คนละอย่างกับแบตเตอรี่รุ่นเก่า นิกเกิล-แคดเมียม ที่แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม ใช้ไม่หมด เอาไปชาร์จจะทำให้แบตฯเสื่อมเร็ว

เสื่อมเร็วเพราะแบตฯรุ่นเก่ามีวงจรที่เรียกว่า memory effect ถ่านเต็มก้อนใช้ไม่หมด ใช้ไปแค่ครึ่งเดียว พอนำไปชาร์จใหม่เติมให้เต็ม...ไฟที่ถูกเอามาใช้เลี้ยงโทรศัพท์...จะเป็นไฟส่วนที่ชาร์จ เข้าไปใหม่

ไฟเก่าที่เหลือค้างอยู่ในแบตฯ ไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน...ใช้ไปแป๊บเดียวแบตฯหมด

แบตฯหมดเร็วต้องชาร์จบ่อย...เราก็คิดว่าถ่านเสื่อม ซื้อใหม่เปลืองเงิน

ใช้ถ่านรุ่นเก่า อยากจะถนอมแบตฯ ผู้รู้บอก ให้ชาร์จกับแท่นชาร์จรุ่นที่มีระบบ recondition หรือระบบล้างไฟให้หมดก้อน...ล้างหมดแล้วชาร์จให้ใหม่ทันที

ส่วนผู้ใช้แบตฯรุ่นใหม่ ลิเทียม-ไอออน อยากจะถนอมแบตฯไม่ให้เสื่อมเร็ว

รู้กันไปแล้ว ชาร์จครบ 300-400 ครั้ง ถ่านหมดอายุ ฉะนั้นวิธีถนอมแบตฯง่ายๆ...

อย่าชาร์จบ่อย โดยไม่จำเป็น

ใช้จนหมดแล้วค่อยชาร์จ

แต่ที่สำคัญ...เวลาชาร์จ ต้องระวังให้ดี

ประเภทปลั๊กไฟที่บ้านไม่ค่อยดี ปลั๊กหลวม...ขยับนิดขยับหน่อย เดี๋ยวติด เดี๋ยวดับ

ปลั๊กไฟหลวมแบบนี้...อย่าเอามาใช้ ชาร์จแบตฯโทรศัพท์ มือถือ!

เพราะอะไรนั่นหรือคะ

ปลั๊กหลวมเดี๋ยวติด โดนนิดโดนหน่อยเดี๋ยวดับ...ไฟติดๆ ดับๆ

เสียบชาร์จไฟเข้า ...นับเป็นชาร์จ 1 ครั้ง

ปลั๊กหลวม ไฟดับ ขยับแล้วติด...นับเป็นชาร์จครั้งที่ 2...ติดๆ ดับๆ 10 ครั้ง... นับเป็นชาร์จ 10 ครั้งค่ะ

ชาร์จทำให้แบตฯหมดอายุเร็ว อีกอย่าง... ชอบชาร์จแบตฯในรถ

ขับรถ เสียบชาร์จแบตฯในรถ ขับมาได้สักพักจอดรถดับเครื่อง นับเป็นชาร์จครั้งแรก...ทำธุระเสร็จ แบตฯยังเสียบคาอยู่ในรถ สตาร์ตเครื่องออกรถ นับเป็นชาร์จครั้งที่ 2

และที่เป็นปัญหาทำให้แบตฯเสื่อมเร็วที่สุด คือ ชาร์จแบตฯในช่วงสตาร์ตเครื่องรถ.... ปัญหาก็คล้ายๆกับปลั๊กหลวมนั่นแหละค่ะ

รถยังไม่ได้สตาร์ตเครื่อง แต่เสียบชาร์จแบตฯไว้ก่อน...เปิดไฟเสียบชาร์จ ถ่านนับไปเป็นชาร์จครั้งแรก...บิดกุญแจสตาร์ตเครื่อง ถ่านจะนับเป็นครั้งที่ 2

และถ้ากว่าเครื่องจะติด ต้องบิดกุญแจสตาร์ตหลายหน...ก็นับเป็นชาร์จหลายครั้งค่ะ

แบตฯเลยอายุสั้นเสื่อมเร็วกว่าปกติครับ...
จำเอาเด้อพี่น้อง