กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 10

หัวข้อ: ตีลูกทั้งน้ำตา..

  1. #1
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ บ่าวน้ำโสม
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    ไต้หวัน
    กระทู้
    235

    ตีลูกทั้งน้ำตา..

    วันนี้เป็นวันแม่ ก็เลยอยากจะเอาความรักของแม่ที่มีต่อลูกมาเล่าสู่พี่น้องได้อ่านกันครับ..

    เช้าวันหนึ่ง อาหลินเดินเข้ามาที่ทำงานด้วยหน้าที่อิดโรยตาบวมเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืนหรือไม่ก็พึ่งร้องไห้มา ผมก็ไม่กล้าถามเธอต่างคนก็ต่างทำงาน พอพักเที่ยงกินข้าวอิ่ม บ้างก็นอนพักเอาแรงบ้างก็จับกลุ่มคุยกัน ผมเองก็แอบมองอาหลินตั้งแต่ตอนกินข้าวเธอกินข้าวเหมือนกับว่าในอาหารมีสารพิษหรือไม่ก็ใส่บีขมๆ(ฮ่า)พอได้โอกาสเห็นอาหลินนั่งอยู่คนเดียวผมก็เลยเดินเข้าไปถามเธอว่า "วันนี้เป็นอะไรหรอไม่พูดไม่กิน"หญิงสาวชาวไต้หวันเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมพร้อมกับขอบตาที่แดงกล่ำดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ แล้วตอบผมด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือนิดๆ "หว่อ เต๊อ เอ๋อสึ"เธอหมายถึงลูกชายของเธอผมก็ถามต่อไปว่า"ลูกชายคุณทำไมหรอไม่สบายหรือเปล่า" เธอส่ายหน้าแล้วเล่าต่อว่า "พึ่งจะไปรับลูกชายมาจากบ้านนอก(อาหลินเป็นคนต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงของไต้หวัน)เพื่อจะเข้าโรงเรียนอนุบาลซึ่งแกอายุ 5 ขวบแล้วและจัดอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องเรีบนชั้น ต้าปั๊น(ต้าปั๊น คืออนุบาลชั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องเรียนชั้นป.1 ในปีต่อมา+อันนี้ผมเองไม่แน่ใจว่าบ้านเราน่าจะเป็นอนุบาล 3 หรือเปล่าครับ

    อาหลินหยุดนิดหนึ่งแล้วเล่าต่อว่า "แกยังไม่เคยเรียนไม่มีพื้นฐานจากไหนมาก่อนเลยจึงเป็นปัญหาทำให้แกตามเด็กคนอื่นๆไม่ทัน เมื่อวานตอนเย็นฉันไปรับลูกกลับบ้านตามปกติพอถึงบ้านฉันก็หยิบสมุดพกขึ้นมาอ่าน(ไต้หวันเขาจะมีสมุดเล่มหนึ่งไว้สำหรับครูและผู้ปกครองนักเรียนได้ติดต่อสื่อสารกันทุกวัน ภาษาจีนเรียกว่า "เหลียนโล้วปู้")ครูเขียนว่าลูกคุณเรียนรู้ช้ามาก ฉันอ่านแล้วก็รู้สึกโมโหนิดๆ คิดว่าทำไมลูกเราโง่ขนาดนี้ แล้วฉันก็ตะโกนเรียกให้แกเอาการบ้านมาทำให้ฉันดูแต่ลูกฉันบอกทำไม่ได้ ฉันก็สอนแกสอนกันอยู่หลายรอบ ขณะที่ฉันสอนก็ใช้เสียงดังเหมือนตะคอกแก ลูกฉันก็บอกว่าทำไม่ได้เขียนไม่เป็น(ในความรู้สึกของผมภาษาเขียนของจีนเป็นภาษาที่ยากมากๆ)ด้วยความที่โมโหกับสมุดพกที่ครูเขียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉันก็เลยจะทำโทษแกด้วยการให้แกไปหยิบไม้แขวนเสื้อมา

    เล่าถึงตรงนี้อาหลินไม่แค่น้ำตาไหลแต่เปลี่ยนเป็นสะอื้นพร้อมกับสายธารของน้ำตา สายตาหลายคู่ของเพื่อนร่วมงานก็เริ่มมองมาทางเราสองคน แต่เธอก็ยังคงเล่าต่อว่า "พอลูกชายฉันได้ยินว่าไม้แขวนเสื้อแกก็ถึงกับหน้าถอดสีซึ่งฉันเองในตอนนั้นก็รู้สึกใจหายแวบเหมือนกัน พอแกหยิบไม้แขวนเสื้อส่งให้ฉันก็ง้างมือจะตีแก น้ำตาของลูกฉันก็ทะลักออกมา ซึ่งมันทำให้หัวใจของฉันเจ็บปวดมากตอนนั้น มือที่ง้างไม้แขวนเสื้อลดต่ำลงทันทีและตามมาด้วยธารน้ำตา ฉันกอดลูกไว้ในอ้อมอก แล้วขอโทษลูกชายพร้อมกับคำปลอบโยนต่างๆนาๆ ฉันและลูกชายกอดกันร้องไห้อยู่พักใหญ่ๆ ก็เลยพาแกไปอาบน้ำกินข้าวและให้แกดูการ์ตูนสักพักแล้วให้เข้านอน

    ส่วนตัวฉันนอนไม่หลับทั้งคืนได้แต่คิดว่าตัวเองทำอะไรลงไปเกือบทำร้ายดวงใจตัวเอง ดวงใจที่ไร้เดียงสา ก็แกพึ่งจะเรียนได้สามวันเอง แล้วนี้ฉันจะให้แกเก่งเท่ากับเด็กคนอื่นได้อย่างไร" อาหลินหยุดและสะอื้นเป็นระยะอีกครั้ง "ฉันต้องให้โอกาสและเวลากับแกมากกว่านี้ซิถึงจะถูก.."ผมนั่งฟังอาหลินเล่าเรื่องลูกของเธอจนจบด้วยความสงบนิ่งเงียบและไม่มีคำปลอบโยนใดๆ เพราะเธอเองก็คิดได้แล้วว่า "ต้องให้โอกาสลูกเธอมากกว่านี้" ส่วนลึกในใจของผมคิดถึงแม่และเข้าใจแล้วว่า ตอนผมเด็กๆแม่เองก็เคยตีผมทั้งน้ำตา

    "ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วครับแม่ว่าทำไม แม่ตีผมทั้งๆที่แม่ก็ร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง"

    "เพราะแม่รักและเป็นห่วงลูกคนนี้อยากให้เป็นคนดีมีการศึกษา"

    ขอบพระคุณครับแม่ ที่ให้ชีวิตและทุกๆสิ่งกับลูกชายคนนี้ ผมจะเป็นคนดีอย่างที่แม่เคยสั่งสอนเพื่อตอบแทนพระคุณแม่ตลอดไปครับ..แม่

    "ผมรักแม่ครับ"

    ปล.ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงช่วยปกปักษ์รักษาแม่ทุกท่าน ให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปครับ....

  2. #2
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
    ขวัญใจบ้านมหา 2012
    สัญลักษณ์ของ สาวมุก
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    มุกดาหาร
    กระทู้
    662
    ตีลูกทั้งน้ำตา...เคยเป็นอยู่จ้า..ตีแล้วกะไปแอบฮ้องไห้ในห้องน้ำผุเดียว......

  3. #3
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    เคยคือกันครับ ตีแล้วยามนอนหลับกะแอบไปจับเบิ่งฮอยตีครับ

  4. #4
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ nuzing
    วันที่สมัคร
    May 2007
    ที่อยู่
    ตกฟากอยู่อุบล เป็นคนชราบางแคแล้ว
    กระทู้
    2,260
    บล็อก
    5

    ตีย่อนปึก...ยายห้าม..อย่า!!

    ในฐานะที่ยายเป็นทั้งครู+แม่ ขอฝากไปบอกแม่ของ หว่อ เต๊อ ด้วย...
    ต้องเป็นแม่ที่อดทนใจเย็นปลอบโยนให้กำลังใจลุกบ่อยๆมีเวลาให้ลูกและที่สำคัญให้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณครูที่เขารับผิดชอบลูกของเราเป็นพิเศษให้ครูรู้ประวัติอันแท้จริงหรือปูมหลังของลูกเราด้วยเพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กในทุกๆเรื่อง ...ส่วนเรื่องวิชาความรู้ก็ควรอดทนใจเย็นค่อยบอกสอนลูกผู้ใหญ่บางคนยังโง่เลยนับประสาอะไรเด็กวัยนี้ ที่ควรทำโทษอย่างยิ่งคือเรื่องความประพฤติ/กิริยามารยาทโดยเฉพาะการเอาแต่ใจตัวเอง ยายเห็นด้วย..ตีให้มันตายเลย อิอิ แต่ถ้าตีเพราะ...เด็กเขียนไม่ได้.....อ่านไม่ออก...ต้องตามไปตีพ่อแม่มันด้วยเพราะยีนส์พ่อโง่+ยีนส์แม่โง่ แล้วจะให้ลูกฉลาด....แม่มันบ้าหรือเปล่าฮ๋าๆๆๆ อยู่ใกล้ยายหน่อยไม่ได้จะเสี้ยม หว่อ เต๊อ ..ให้เอาไม้เรียวฟาดก้นแม่มันสักป๊าบๆๆ .........ฮ่าๆๆๆๆๆ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nuzing; 12-08-2010 at 22:02.
    "ใจประสงค์สร้างกลางดงกะหว่าถ่ง ใจขี้คร้านกลางบ้านกะหว่าดง"

  5. #5
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ ข้าวต้มมัด
    วันที่สมัคร
    Aug 2010
    กระทู้
    986
    ตอนเด็กผอมมาก ถึงเวลากินแล้วยังไม่หิวแม่มาตาม อีกอย่างก็ห่วงเล่นกับเพื่อนด้วย แม่ยิ่งตามเราก็ิ่ยิ่งวิ่งแม่ตามไม่ทัน
    มีเพื่อนบ้านเขาช่วยจับไว้ วิ่งไปเกือบหนึ่งร้อยเมตรเห็นจะได้ตานี้โดนตีหนักๆเลย ไม้เรียวหักไปสามท่อน
    คุณยายเอายาหม่องทาให้เป็นไข้อยู่สองวัน ทุกวันนี้ไม่เคยกล้าตีลูกหนักๆเลยแค่ทำให้เขาเข้าใจ ฉันเข้าใจความรู้สึกดี
    แค่รู้ว่าผิดนีมันก็แย่น่ะ แต่จะทำโทษโดยไม่ให้เขาออกไปเล่นกับเพื่อนแทน หรือไม่ก็อื่นๆๆ
    แต่ก็ต้องขอบคุณไม้เรียวของแม่ที่ทำให้ฉันได้ดิบได้ดีในทุกวันนี้

    เรื่องการเรียนถึงฉันจะเป็นคนเรียนไม่เก่ง ก็พยายามสอนให้ลูกๆ เป็นคนมีระเบียบและบอกให้ลูกเขียนหนังสือให้สวยๆ

    ดีใจทีครูเขาชมว่า พ่อแม่ติดตามผลการเรียนของเด็ก เขาเรียนพอใช้ได้ค่ะ เกรดมืองนอกเขาให้คะแนนเต็มสิบ
    เขาได้ 7 ภาษาอิตาเลี่ยน(ยาก) จากนั้นวิชาอื่นๆ 8,9,10(อังกฤษ) เรื่องมารยาทเดี๋ยวส่งมาเรียนโรงเรียนวัดหริอไม่ก็
    ยายหนู....จ้า (ฝากหลานนำแน่ค่ะสองคน ฮ่าฮ๋า)

    มาอยู่ต่างบ้านเราก็กลัวแต่จะเสียหน้า เดี๋ยวเขาจะหาว่ามีแม่คนไทยมันไม่สอนลูก (แต่ดูแล้วไม่น่าใช่เพราะ
    มีลูกเราที่เด็กๆ มาเล่นด้วยแล้วพ่อแม่เขสบายใจ) และเด็กๆคนอื่นมาเรียกลูกเรามาก จนแม่ชักจะรำคาญ






    กำลังใจบอกให้เพื่นใจเย็นๆค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวก็ดีเอง
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ข้าวต้มมัด; 13-08-2010 at 01:17.

  6. #6
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    ประทับใจมากเลยค่ะ

    น่ารักจังเลยนะคะ อ่านแล้วน้ำตาจะไหลไปด้วยจ้า
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  7. #7
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ บ่าวน้ำโสม
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    ไต้หวัน
    กระทู้
    235

    ชี้แจง แม่เฒ่า นู๋ซิง หน่อยนึ่งครับ

    ด้วยความเคารพเฒ่าหนูซิง อันว่า"หว่อ เต๊อ"บ่แมนซื่อลูกซายเลาเด้อแม่เฒ่า "หว่อ เต๊อ เอิ๋อสึ"

    หว่อ คือ ผม ฉัน ข่อย

    เต๊อ คือ การไปเจ้าของ คล้ายๆกับ is am are ครับผม

    เอิ๋อสึ คือ ลูกผุซาย

    แปล ทั้งประโยค "ลูกซายของข่อย" ครับแม่เฒ่า

    คั่น "หว่อ ไอ้ หนี่" แม่เฒ่าคือสิรู้ยุเนาะครับ ฮ่าๆๆ:l- ขอบคุณแทนมูผมเด้อครับสำหรับคำแนะนำดีๆแล้วผมสิเอาไปบอกเลาให้ครับแม่เฒ่าหนูซิง

  8. #8
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ nuzing
    วันที่สมัคร
    May 2007
    ที่อยู่
    ตกฟากอยู่อุบล เป็นคนชราบางแคแล้ว
    กระทู้
    2,260
    บล็อก
    5

    ฮิ้วๆๆ

    เออ.........อันเดียวกันนั่นหละ...ลูกเขยโสม...สิตายติจั่งบ่แปลคักๆ....ฮ่าๆๆๆๆๆ (เว่าแล้วไปหว่าแต่บักน้อยๆ...ยายกะซุปเปอร์ปึก.....หึย.).
    ((บักหำน้อยมันชื่อหยังหละยายสิได้เอิ้นถืก..สิเข้าไปแก้ย่านไทไต้หวันมาหัวขวนเว่ย)
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nuzing; 13-08-2010 at 10:22.
    "ใจประสงค์สร้างกลางดงกะหว่าถ่ง ใจขี้คร้านกลางบ้านกะหว่าดง"

  9. #9
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ ธิดายาเย็น
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,622
    ตีไปนำ ไห้ไปนำ ลูกเจ็บกาย แต่แม่เจ็บอยู่ข้างในใจฮ่วมสิขาดแล้ว..

  10. #10
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    บางคนพ่อแม่ปึกลูกกะฉลาดครับ ลูกผมพ่อกะปึกแม่กะปึก ลูกกะซูปเปอร์ปึกครับ

    ทุกมื่อนี่ฉลาดอย่างเดียวเอาตัวรอดในสังคมยากครับ ต้องมีไหวพริบปฏิภาณรู้จักเอาตัวรอด

    การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า (เฉลียว) คนบ่มีความรู้อ่านหนังสือบ่ออก ประสบความสำเร็จกะหลาย

    มีความรู้ท่วมหัวเอาตัวบ่รอดก็มีครับ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งตอนจบปริญญาตรีพูดกันรู้เรื่อง พอจบปริญญาโทพูดเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง พอมันจบปริญญาเอก ผมพูดกับมันไม่รู้เรื่องเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ

    อย่างไรก็ตามครับ ความรู้จะต้องคู่กับคุณธรรมเสมอครับ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •