ก่อนกลับเมกาสองวัน ก็กลับเข้ากรุงเทพมาพักกับเพื่อนเหมือนเดิมค่ะ ภาพกรุงเทพในสมัยที่ฉันเข้ามาเรียนและทำงานนั้นดูมีแต่ความวุ่นวาย แข่งขัน แย่งกันขึ้นรถเมล์จนฉันเบื่อหน่าย ถอนตัวกลับไปทำงานต่างจังหวัด
แฮะต่างจังหวัดก็วุ่นวายคือกั๋นแหละจิบอกให่
ในวันนี้ที่ฉันเห็นบางมุมในกรุงเทพที่ยังดูสงบ ตื่นเช้ามา มีอาหารให้ซื้อใส่บาตร มีพระมาเดินบินณฑบาตร (เขียน บิน ทะ บาด ไม่ถูก) เด็กๆ รีบเร่งไปโรงเรียน พวกเขาก็ไม่ต่างกับเด็กต่างจังหวัด สักเท่าไหร่ ออกจะเหนื่อยกว่าด้วยซ้ำด้วยอากาศ มลภาวะ สิ่งแวดล้อม การจราจร รวมทั้งความปลอดภัย แต่เด้กก็ยังเป็นเด็กใสๆ สนุกสนานตามวัยของเขา
สังคมตรงนี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนจากต่างจังหวัดมาพักพิง และทำงาน ดูเหมือนสนิทชิดเชื้อกันจนเหมือนสงคมชนบทบ้านเรา คนขับแทกซี่ ที่อยู่แฟลตเดียวกันเรียกใช้ทุกครั้งที่มา ก็คนพิมาย เพื่อนฉันก็คน โชคชัย แฟนเขาก็คนสระบุรี คนจากหลายจังหวัด อุดร ขอนแก่น เชียงใหม่ พเยาว์ อยู่กันอย่างพี่น้อง ไม่เห็นเขามีปัญหาอะไร
เดินลงจากแฟลตตอนบ่ายๆ ก็ได้กินน้ำแข็งใส อาหารอิสาณส้มตำ ต้มแซบ ปลาดุกย่าง ของโปรดอย่างแมงทอดต่างๆ ถึงจะดูเก่าไปนิด ก็ดีกว่าไม่ได้กินเลย
เย็นๆ ลงมาซื้อกับข้าวเย็นประทับใจกับไอเดียนี้มาก
แกงเห็ดสดๆ ค่ะ เลือกผักได้ตามชอบ แกงเห็ดไหมค่ะ แม่ค้าจำนรรจาเรียกลูกค้า
เห็ดและผักหลากหลายชนิดวางเรียงรายให้ลูกค้าได้เลือก
น้ำย่านาง กับ ปลาร้า main ingredients เลยหละค๊า
ตักน้ำย่านางลงหม้อ ตามด้วยพริก ที่ตำพอหยาบพร้อมถามลูกค้าชอบ รสชาดไหน เผ็ดไหมค่ะ รับเห็ดอะไรบ้างค่ะเห็ด แล้ว เอาผักอะไรบ้าง ถามไปพร้อมหยิบเห็ดและผักลงตะกร้าเตรียมหั่น เตรียมผักเสร็จ น้ำแกงเดือดพอดี ใส่เห็ดและผัก ผักสลดชิมรส ตักใส่ถุงหรือใส่ถ้วยให้ลูกค้า พร้อมข้าวเหนียวร้อนในกระติ๊บ หรือใครจะทานข้าวสวยก็มีให้
ไอเดียนี้ดีน่ารุ่ง ขายได้ทุกที่เพราะใครๆก็ชอบอาหารอิสาณ ยิ่งจัดร้านแนวคลาสสิคอย่างนี้นี่ยิ่งดึงดูด
การทำอะไรทุกวัน ธรรมดาแต่นอกกรอบนิดๆ อย่างนี้แหละดี
Bookmarks