หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 2 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 12
กำลังแสดงผล 11 ถึง 13 จากทั้งหมด 13

หัวข้อ: ..นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว..

  1. #11
    ศิลปินแดนไกล สัญลักษณ์ของ chudhancock
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    ที่อยู่
    cambridge, England
    กระทู้
    1,949
    โอ้ย มาคืออยากเป็นบักเสือ แท้น้อหลานอิ๊กจ๋า มันเจ็บ โตอิอิอิอิ

  2. #12
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวกบินทร์
    วันที่สมัคร
    Apr 2007
    ที่อยู่
    ซุหม่อง...ที่ไป..!!!
    กระทู้
    598
    "บักเสือ อิ๊กคิว"
    ฟังว่า "บักเสือ" กะเป็นตาย้านยุดอก.....แต่อั่นคำหลัง "อิ๊กคิว" พะนะ.....จั๊กสิย้านรึบ่ย้านดี...
    ..หมัดเขวี้ยงควาย........ผุใด๋ถืกกะต้องแพ้เด้อ
    ขั่นแม่อิ๊ก บ่ยอมแพ้ ระวังสิเจ็บโตหลายเด้อจ้า.....
    ฝากทักทาย บักเสือ แหน่เด้อจ้า ........จากบักเสือใหญ่...(เสือกินปลาดอก).....

  3. #13
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ สาวเมืองกะสิน
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    584
    อ่านแล้วกะพลอยยิ้มไปนำเด้หล่ะสาวมุก นึกเอ็นดูในความน่ารักของอิ๊กคิวน้อยเด้อจ้า บ่เป็นเรื่องเสียหายดอกที่ลูกชายอยากสิเป็นนักมวย แล้วกะเลียนแบบพระเอกของเรื่องน่ะ เป็นเรื่องที่ดีเสียอีก ที่เขามีฮีโร่ของเขา อย่างเพราะเอกในเรื่อง แสดงว่าเขาเบิ่งละครแล้วรู้ว่าไผผิดไผถูก ไผควรเอาเป็นแบบอย่างเน๊าะ แต่ว่าก็ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลให้คำชี้แนะคือสาวมุกนั่นหล่ะ เพราะเด็กน้อย จังได๋กะยังเป็นเด็กน้อยอยู่เน๊าะ บางอย่างก็ต้องให้ผู้ใหญ่ดูแลแนะนำน้อจ้า

    อีกอย่างเป็นเรื่องที่ดีเสียอีกนะ ที่ลูกชายชอบเตะ ชอบต่อย หรือว่าอยากเป็นนักมวย แบบนี้ส่งเสริมเลยจ้า ให้เขาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ถ้าเขาชอบก็ส่งไปเรียนพิเศษเลยจ้า เขาได้จะมีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้นในทางที่ชอบ อีกอย่างก็เป็นการดึงให้เขาออกไปจากทีวี เกมคอม ไปสู่สังคมโลกแห่งความเป็นจริงนำเด้อจ้า จะได้เรียนรู้สังคมโลกภายนอกซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นจริงสำหรับมนุษย์เฮาน้อจ้า บ่แต่แม่นอยู่แต่ในโลกส่วนตัวหรือว่าโลกไซเบอร์ จนบ่รู้จักปรับตัวเข้ากับสังคมแห่งความเป็นจริง

    และทุกมื่อนี่ ปัญหาที่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่เจอแล้วกะเป็นปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็คือ ลูกๆติดทีวี ติดเกม ติดคอม จนบ่อยากจะไปมีสังคมภายนอก หรือว่าบ่อยากจะเรียนหนังสือกันแล้วเด้อจ้า ตอนแรกๆผู้ปกครองอาจจชอบ เพระว่าลูกอยู่ติดบ้าน ดูแลควบคุมง่าย แต่พอนานๆเข้าคงรู้ว่ามันเป็นปัญหาคือกัน ซึ่งเคยเจอเคสแบบนี้เยอะเลยจ้า ที่เข้ามาปรึกษาปัญหากับหน่วยงานเอื้อยน่ะจ้า

    อาจจะเว่ายาวไปหน่อยกะอย่าว่ากันเด้อจ้า เพียงเห็นว่ามีประโยชน์กะเลยอยากแลกเปลี่ยนจ้า


    ต่อไปจะขอยกตัวอย่างที่อยู่ใกล้ตัวเอื้อยให้ฟังเด้อจ้า ว่ามีกรณีคล้ายๆน้องอิ๊กคิวนี่หล่ะจ้า เป็นหลานชายของเอื้อยเอง ชื่อน้องเน็ต ตอนที่เรียนอยู่ป.4 น้องเน็ตกะมักละครอยู่เรื่องหนึ่งคือ เพลงรักริมฝั่งโขงที่มีเวียร์นำแสดง มื่อได๋ที่มีละครเรื่องนี่น้องเน็ตจะถ่ารอเบิ่ง บ่ยอมเข้านอน ทางบ้านเอื้อยกะบ่ได้ว่าหย้ง เพระว่าเบิ่งเนื้อหาละครแล้ว กะบ่ได้ล่อแหลมจนเด็กน้อยเบิ่งบ่ได่ แต่ว่าเอื้อยกับพี่สาวแม่น้องเน็ต แล้วกะยาย จะเบิ่งละครนำหลานตลอดจนจบตอน

    ถ้าละครตลกก็หัวเราะกันดังๆ ตามหลานไปเลยจ้า ถ้ามีเนื้อหาหรือคำเว่าที่หลานฟังแล้วบ่เข้าใจ หรือบ่เหมาะสม เอื้อยกับยายกะสิอธิบายให้หลานฟังไปนำ แล้วจะถามหลานว่าคิดจังได๋แน คือฝึกให้เขาคิดไปนำน่ะจ้า แล้วกะแสดงความกระตือรือร้นอยากจะเบิ่งละครเป็นหมู่เขาในมื่อที่มีละครเสมอ บางมื่อกะหอบหมอนผ้าห่ม มานอนหน้าทีวีถ้าเบิ่งพร้อมเขาเลยจ้า แต่ในใจเอื้อยและพี่สาวกะหวังลึกๆอยู่นะว่าอยากจะให้หลานเป็นนักดนตรีคือพระเอกในเรื่อง แต่ก็บ่ได้บังคับหลานให้เรียนดนตรี เคยลองถามๆเขาว่าอยากเรืยนดนตรีบ่ เขาบ่อยากเรียนทางบ้านก็เฉยๆจ้า แต่เฮาใช้วิธีส่งเสริมทางอ้อมโดยการ พาเขาเบิ่งละครแทน


    และแล้วอยู่ๆมื่อหนึ่ง น้องเน็ตมาบอกว่า เขาไปสมัครเล่นดนตรีกับชมรมดนตรีไทยของโรงเรียน ทางบ้านก็ดีใจกัน แล้วกะส่งเสริมเต็มที่เลยจ้า ให้กำลังใจหลาน จากนั้นน้องเน็ตได้เป็น มือจะเข้ของโรงเรียน เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขัน ได้รางวัลมากะหลายเติบอยู่จ้า ระดับประเทศก็ได้มาแล้วจ้า พอจบประถม ก็สอบเข้าราชวินิตบางแก้วได้ตามโควต้านักดนตรีของโรงเรียน โดยเป็นมือจะเข้คนเดียวที่ได้รับคัดเลือกจ้า ตอนนี้น้องเน็ตเรียนอยู่ ม.2 แล้ว ก็เล่นดนตรีเป็นตัวแทนของโรงเรียนคือเก่า

    การเรียนก็อยู่ในระดับทื่ดีมาก บ่เสียหายเรื่องการเรียนจ้า และที่น่าดีใจกับหลานคือ ปิดเทอมนี่ทางโรงเรียนจะสอนดนตรีอิสานบ้านเฮา ตั้งเป็นวงคล้ายๆโปงลางสะออน ซึ่งทางบ้านก็ดีใจหลาย เพราะว่าลึกๆแล้วกะอยากให้หลานเล่นพิณคือพระเอกในเรื่อง เพลงรักริมฝั่งโขง นั่นหล่ะจ้า แต่ว่าโรงเรียนที่น้องเน็ตเรียนอยู่ตอนนั่นน่ะ เขาบ่มีสอนดนตรีอิสาน น้องเน็ตเลยเลือกเรียนจะเข้จ้า ซึ่งตอนนี้พวกเอื้อยกะคอยลุ้นหลานอยู่ว่า จะเป็นจังได๋แน แต่ว่าอนคตจะเป็นจังได๋กะบ่ได้ไปกดดันเขาดอก ปล่อยเขาไปก่อนช่วงนี้ให้เขาคิด เขาเลือกเอง ตามความถนัดจ้า


    ที่เล่าสู่ฟัง กะบ่ได้ว่าอยากอวดอ้างหลานจะของเด้อจ้า แต่ว่าอยากจะยกตัวอย่างให้เห็นว่า บางทีการเบิ่งละครของเด็กน้อย แล้วเขามีฮีโร่ในดวงใจเขาน่ะ กะเป็นการดีกับเด็กน้อยจ้า ถ้าเฮาส่งเสริมให้เขาเดินตามฮีโร่เขาได้ ก็ยิ่งจะซ่อยให้ได้แสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่ เต็มความฝันเน๊าะจ้า ผลงานที่ดีก็จะตามมาจ้า
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สาวเมืองกะสิน; 24-09-2010 at 21:59.

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 2 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 12

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •