จังหวัดอุดรธานี อุทัยธานี สุราษฎ์ธานี ปทุมธานี แล้วทำไม อุบล จึงเป็น "ราชธานี" เป็นหยัง.....สงสัยบ่พี่น้อง..สงสัยกะนำอ่านเบิ่งจ้า
(ที่มาของการการตั้งกระทู้นี้มีนักเรียนผู่หนึ่งหนีผู่ปกครองมาผ้อกันอยู่ห่มบักมี่(มือปุ้มๆดอก ฮ๋า )ขี่ส่อคัก ครูกะตอบไปแบบกำปั้นทุบโต๊ะ..."ตกเป็นเมืองขึ้นของร้อยเอ็ด"พะนะ ครูต่วงตอบ...ยายเห็นว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆเลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้---->
เหตุที่มีคำว่า “ ราชธานี " ต่อท้ายนั้น เนื่องด้วยเห็นวว่าเป็นเมืองข้าหลวงเดิมช่วยเหลือในการศึกเสมอมา เช่น ปราบจราจลและปราบกบฎอ้ายเชียงแก้ว ก็จัดให้สำเร็จโดยมิต้องสั่งการ นับว่าเป็นกำลังของแผ่นดิน พระปทุม ฯ ครองเมืองมาได้ 3 ปี ก็ถึงอนิจกรรม ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ สัปตศกจุลศักราช 1157 ( พ.ศ.2338 )
หลังจากนั้นก็มีเจ้าเมืองสืบต่อกันมาอีก 4 คน จนถึง พ.ศ.2425 จึงไม่มีการตั้งเจ้าเมืองสืบสกุลคงมีแต่ข้าหลวงขึ้นมาปกครองเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พลตรีกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เป็นข้าหลวงต่างพระองค์ ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการมณฑล ประทับที่เมืองอุบลราชธานี สร้างสรรค์ความเจริญ ให้แก่เมืองอุบลราชธานีเป็นอเนกอนันต์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาอุบลราชธานีจึงเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร การเก็บภาษีอากร และกิจการบ้านเมืองด้านอื่นๆ ของภาคอีสานตอนใต้
อุบลราชธานี ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดใหญ่และสำคัญมากของภาคอีสาน เป็นเมืองเก่าที่เจริญด้วยศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงานมานานนับร้อยปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของถิ่นไทยดี
เหตุผลที่ชื่อเมืองอุบล
ที่ตั้งชื่อว่า “ เมืองอุบล “ นั้น หนังสือบางเล่มว่าตั้งตามนาม พระปทุมสุรราช ( คำผง ) เพราะเป็นผู้นำอพยพมาตั้งเมือง และ “ ปทุม “ ก็แปลว่า บัวหลวง หนังสือบางเล่มว่าเอาชื่อเดิมของหนองบัวลุ่มภู ( หนองซึ่งตั้งอยู่ในลุ่มภูเขาชื่อหนองบัว ) คือนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน อันมีคำว่า “ บัว “ ซึ่งเป็นเมืองที่บรรพบุรุษอพยพมาอยู่ก่อน แล้วแปลงลงเป็นศัพท์ว่า “ อุบล “ มาตั้งเป็นชื่อ ทั้งสองอย่างก็มีเหตุผลน่าฟัง
สันนิษฐานว่าคงเอาชื่อ “ หนองบัว “ ซึ่งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือบ้ายห้วยแจระแมนั่นเองมาตั้งเป็นชื่อ โดยแปลงศัพท์ว่า “ อุบล “ มาตั้งเพราะเดิมหนองนี้ใหญ่ ยาวประมาณ 24 เส้น มีน้ำอยู่ตลอดปีตั้งต้นจากทิศเหนือ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ ยาวไปจนจรดตะวันออกเฉียงใต้ของ ศ.ว.พ. ( ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชน ) แต่เดี๋ยวนี้ตื้นเขินมีคนรุกล้ำเป็นเจ้าของเกือบหมดแล้ว ยังคงเหลืออยู่ตอนเดียวหน้าวัดหนองบัวเท่านั้น เหตุผลมีว่าคนโบราณชอบตั้งชื่อบ้าน ชื่อเมือง ตามภูมิประเทศและสถานที่ เช่น หนองบัวลุ่มภู ก็มีหนองตั้งอยู่ในลุ่มภู บ้านหินโงมก็เป็นที่มีเทือกเขากั้น ( โงมเป็นภาษาถิ่นอีสาน แปลว่า กั้น , ครอบ , หรืองำ ) เมืองหนองหานหลวง ( สกลนคร ) ก็เอาชื่อหนองใหญ่มาตั้ง และที่อื่น ๆ ก็ยังมีอีกมาก
อีกนัยหนึ่ง มงคลนาม อุบลราชธานี ตามตัวอักษรมีความหมายว่า ราชธานีแห่งดอกบัว กล่าวคือ อุบล มีความหมายว่าดอกบัวซึ่งเป็นดอกพฤกษชาติ ที่มีคติธรรมทางพุทธศาสนาคนนิยมใช้ไหว้พระ อุบลราชธานี มีวัดวาอารามที่มีความวิจิตร งดงามด้วยศิลปะด้านสถาปัตยกรรมและประติมากรรม อันทรงคุณค่าเป็นจำนวนมาก ราชธานี หมายถึง เมืองของกษัตริย์เป็นสร้อยนามของจังหวัดที่มีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย อุบลราชธานี จึงมีฐานะเป็นเมืองของกษัตริย์ เป็นดินแดนแห่งดอกบัวงาม เป็นที่เชิดชูพระบวรพุทธศาสนา ในส่วนที่เกี่ยวกับประวัติการศึกษา อุบลราชธานี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองนักปราชญ์มาแต่โบราณ มีหลักฐานว่าประชาชนเริ่มมีการเรียนการสอนให้อ่าน ออกเขียนได้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2434คือก่อนที่จะมีการสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ 1 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชาวอุบลราชธานีวิถีชีวิตที่แสดงลักษณะตื่นตัวทางการศึกษามาเป็นเวลานาน
ข้อมูลจาก : http://www.radioubon.com/ubon/
((มีต่อจ้า ------------------>
Bookmarks