มาอ่านกลอนม่วนๆจ้า
ไต่.....ขอบโค้งตะวัน...
โดย..เฌอ?เชลง?
เอาบันไดพาดขอบโค้งของตะวัน
ปีนป่ายขั้นบันได...ไปให้ถึง
เดินต้วมเตี้ยม...ชักช้าอ่อนหล้าหนึ่ง
จะฉุดดึงถึงโค้งขอบ...ดวงตะวัน
อ่อนแรงหล้าจะเดินผ่าอุปสรรค
มิตระหนักจักใฝ่ถึงที่มั่น
เด็ดเดี่ยวใจ...ให้คงมิท้อพลัน
มิมีวัน..ยอมแพ้...แม้เดียวดาย
เอาบันไดพาดขอบแสงกำลังสาด
ใจฝันวาดจินตนา...และท้าทาย
ก้าวด้วยแรงตะวันแสงคือ...สหาย
คงมิตาย...ได้ตะวันบรรดาลใจ
ก้าวที่ย่างทางที่ไต่เพื่อไขว่คว้า
ตีราคาค่าเงินตรา...ก็หาไม่
เปรียบประหนึ่ง...คือสิ่งยึดภายใน
เพื่อก้าวไปคว้าชัย...ให้กับตัว....
มาอ่านกลอนม่วนๆจ้า
หากตะวันพลันเปลี่นบูรพา
คือที่มาทางทิศลิขิตเกิด
สาดส่องแสงอุษาอรุณเลิศ
งามพริ้งเพริด...ใจตะวันนั้นค่าควร
แหล่งกำหนดกฎเกิดคือที่ออก
ตะวันออกบูรพามิมาหวน
พิไรร่ำพลบค่ำถึงรังจวน
เช้าเจ้าด่วน...เปล่งแสงรัศมี
ตราบตะวันหันขึ้นตะวันออก
เหมือนบ่งบอกกำลังหวังใจคงที่
หากตราบใดอาทิตย์เคลื่อนไม่เลือนหนี
ใจพอมี...ความหลังพลังใจ
จะถือเอาบูรพาเป็นที่ตั้ง
เป็นที่หวังแห่งแสงตะวันให้
ตะวันออกอาทิตย์ขึ้นเสมอไป
แรงผลักใส..ความหวังยังพอมี....
![]()
...ตรงปลายฟ้า ขอบโค้ง ดวงตะวัน
ใต้เงาจันทร์ พลันดารา มาเฉิดฉาย
ขอบฟ้ากว้าง เมฆขาวพราว สกาวพราย
ดาราฉาย เฉิดฉันท์ ตะวันลา
อรุณรุ่ง พรุ่งนี้เช้า เจ้ามาใหม่
ดวงตะวัน ที่สดใส ในใจข้า
แสงเรืองรอง ส่องสาดพาด โค้งขอบฟ้า
สกุณา ลารังเรือน เยือนพงไพร
ดวงตะวัน ยังคงสาด แสงดังเก่า
คงเหมือนดั่ง ใจของเรา ไม่ไปไหน
เฝ้าคอยเจ้า ทุกเช้าค่ำ รำพันใจ
เฝ้าห่วงหา และห่วงใย ใจตะวัน........
เอาบันได...พาดขอบเสี้ยวดวงจันทร์
ปีนป่ายขั้นบันได......ใฝ่ให้ถึง
คว้าเสี้ยวจันทร์...มั่นไว้ให้คำนึง
อยากฉุดดึง...จันทรา....มาปลอบใจ
ได้เพียงแหงนหน้าวาดวิมานฝัน
เหม่อมองจันทร์แค่นั้นสวยสดใส
เอื้อมไม่ถึงสุดคว้า....มาทันใด
ขั้นบันได...ไม่เลย....เอื้ออำนวย
ตระเวนหาไม้มาเพื่อต่อชั้น
ต่อลูกขั้นเข้าเติมเผื่อเสริมช่วย
ตระเวณหาจนท้อหนอใจป่วย
ไม้เก่าด้วย..ผุกร่อน..ตามกาลเวลา
ได้แต่นั่งคอยจ้อง....มองอีกครั้ง
ได้แต่หวัง...คงไม่ไร้วาสนา
ได้แต่หลั่งรินรดหยดน้ำตา
ได้แต่ท่ารอเสียวตาหันมา....แล..
เอาบันไดพาดไว้ปลายแสงดาว
ระยิบพราวแจ่มจำรัส..บนฟากฟ้า
นับล้านดวงแสงระยิบละลานตา
อยากเก็บมาเป็นทุน....พออุ่นผิงใจ
ฝันหยิบดาว..ที่สูงเฉียดปลายฟ้า
ร้อยมาลาคำว่ารักถักสานใส่
มอบแด่เธอ...จากหมาน้อยส่งมอบไป
อยากจะให้ปัก...ว่ารักด้วยแสงดาว
ดาวเจ้าเอ๋ย....เฉลยใจปลอบได้ไหม
ส่งอุ่นไอขอทีปลอบใจร้าว
ไม่มีใคร..ส่งยื่นหยิบสักคราวคราว
จึงขอดาว..เอ๋ยจาใจได้ไหมเธอ
ได้อุ่นบ้างจางลงคงหายหมอง
ทดสอบลอง..ต้องใจใคร่เสนอ
แม้เพียงฝัน....ใจฉันนั้นละเมอ
แม้เพียงเพ้อ....สุขอุ่นใจ...ใคร่ขอดาว![]()
เอาบันไดพาดไต่...เส้นขอบรุ้ง
ที่โพยพุ่งเจ็ดสีมีเจ็ดแสง
ออดอ้อนรุ้งใช่ว่า...แกล้งแสดง
ใจร้าวแรงรุ้งจ๋า...โปรดปราณี
ขอเถิดรุ้งโค้งคลุ้งขอได้ไหม
ขอจากใจขอบโค้งรัศมี
ขอจากเจ้าด้วยใจปลอบชีวี
ขอแสงสีโค้งรุ้งมาปรุงเติม
นัยหนึ่งนั้นใจขอรอที่พึ่ง
ด้วยเพราะซึ้งเห็นรุ้งงามตั้งแต่เริ่ม
ละอองฝนดลให้ด้วยใจเสริม
ก่อประเดิมโค้งคลุ้งรุ้งสีทอง
ละมุนใจละอองไอปุยโปรยปลิว
ละล่องลิ่วสีปนดลผุดผ่อง
ปริ่มใจเลิศเกิดสายรุ้งใจล้ำปอง
แค่นั่งมองโค้งสายรุ้ง..ปรุงย้อมใจ![]()
ไต่ขอบโค้ง หรือว่า ไต่ขอบเตียงน่ะ
ขอบโค้งตะวัน.....
เอาบันไดพาดผ่านสะพานเชื่อม
เหลือปลายเหลื่อมทางไต่...ไว้สู่ยอด
โค้งตะวัน...ที่ฝันนั้นโอบกอด
ฝันตลอด...ไต่ขอบ...โค้งตะวัน
ยามตะวันแสนร้อนกุมใจแน่น
มีหลักแกน..ไว้ยึดให้ใจมั่น
ความสำเร็จข้างหน้ากล้าฝ่าฟัน
ปลุกใจฝัน...ฟันฝ่า..ท้าความจริง
เดินสู่ทางข้างหน้า....ที่ละขั้น
ใจมุ่งมั่น...ตะวันหมาย..ในหวังสิ่ง
หวังได้พบ...หวังเคียงใกล้..ตะวันยิ่ง
ใกล้คู่มิ่ง...สิ่งหวังเคียง..คงเพียงพอ
แสงตะวันคือแรงแห่งบันดาล
ส่งขับขานบันดาลใจสู่สิ่งขอ
สำเร็จได้หมายปองของที่รอ
เติ่มแต่งทอสายใจ...?แสงตะวัน?
บนเส้นขอบฟ้าเรืองรองมองไกลตา
จะตามหาไกลแค่ไหนจะไม่หวั่น
หอบความทรงจำล้ำค่าตามหาฝัน
หวังสักวันฝันนั้นพรรค์เป็นจริง
ฟ้าหลังฝนจากมืดมนสว่างไสว
เปลี่ยนแปลงไปไม่สิ้นสุดไม่หยุดนิ่ง
เรื่องเลวร้ายกลายเป็นดีมีอยู่จริง
ฝันทุกสิ่งจะเป็นจริงหากตั้งใจ.......