คิดถึงเชียงราย
ได้มีโอกาสไปราชการที่เชียงใหม่ พิษณุโลก และลำปาง หลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสไปเยือนเมืองเชียงราย ดินแดนแห่งเมืองล้านนาแม้แต่ครั้งเดียว
ที่ทำงานจัดกฐินสามัคคีและทัศนศึกษาที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ผมไม่รอช้ารีบลงชื่อสมัครร่วมกับคณะในครั้งนี้และได้ชวนดีเจเด็กน้อยร่วมเดินทางไปด้วย ดีเจเด็กน้อยตอบตกลง ผมดีใจมาก เพราะอยู่ด้วยกัน 20 ปี ยังไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกันในลักษณะแบบนี้มาก่อน
คาราวานบุญของเราเกือบ 400 ชีวิต ออกเดินทางจาก กทม. ในวันเสาร์ที่ 13 พ.ย.53เวลา 06.00 น. โดยรถโดยสารปรับอากาศ 10 คัน แวะพักรับประทานอาหารเช้าที่หน้าวัดอัมพวัน สิงห์บุรี ก่อนจะเดินทางแวะสักการะพระพุทธชินราชที่ จ.พิษณุโลก และเดินทางถึงบริเวณถนนคนเดิน จ.เชียงราย รับประทานอาหารเย็น และกลับเข้าที่พักแรม โรงแรมแสนภูเพลส ในตัวเมืองเชียงราย
เช้าวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย.53 หลังจากรับประทานอาหารเช้าในตลาดเมืองเชียงราย เวลา 08.00 น. คณะของเราเดินทางไปทอดกฐินที่วัดพระเจ้าล้านทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้รับการต้อนรับอย่างดี และอาหารอร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่มแคบหมูและส้มตำข้าวเหนียว
หลังจากนั้นเดินทางสู่สามเหลี่ยมทองคำ, อ.แม่สาย และข้ามฝั่งไปช้อปปิ้งยังประเทศพม่า ซึ่งบรรยากาศคล้าย ๆ ทางฝั่งหนองคาย แต่น่ากลัวมากกว่า โดยเฉพาะกลโกงในการขายสินค้าของพวกเร่ขาย และสินค้าด้อยคุณภาพ จึงขอแนะนำให้ซื้อสินค้าที่ฝั่งไทยจะดีที่สุดครับ
หลังจากนั้นเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเย็นที่หน้าโรงแรม เย็นนี้เป็นวันพิเศษสุด เพราะเป็นวันที่จะได้พบกับบุคคลที่ผมและดีเจเด็กน้อยอยากเจอมานาน เธอคือหมูน้อย หรือน้องเจน สมาชิกบ้านมหา เธอเป็นคนน่ารักและมีเสน่ห์มาก ๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มของเธอ :l-
น้องเจนพาเราไปดูหอนาฬิกาเปลี่ยนสี ซึ่งน้องเจนบอกว่าจะเปลี่ยนสีเวลา 1 ทุ่ม, 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่ม เราพากันไปดู โอ้โห สมคำเล่าลือจริง ๆ ครับ สวยงามตระการตา วิจิตรพิสดารสุดจะบรรยาย
วันจันทร์ที่ 15 พ.ย.53 พวกเราไปแวะรับประทานอาหารเช้าที่จังหวัดทหารบกเชียงราย ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีตามแบบฉบับชาวเหนือ มีเสียงเพลงบรรเลงขับกล่อม แวดล้อมด้วยแม่น้ำกกที่สวยงามในบรรยากาศยามเช้าที่แสนจะโรแมนติก
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จพวกเราเดินทางไปแวะบ่อน้ำพุร้อน ที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และรับประทานอาหารเที่ยงที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเข้าพักยังโรงแรมเพชรงาม และเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สุดยอดสัตว์ป่าจากทั่วทุกมุมโลก และการแสดงน้ำพุที่สวยงามตระการตา ก่อนที่จะเดินทางเข้าที่พักเวลา 21.00 น.
วันอังคารที่ 16 พ.ย.53 หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม พวกเราเดินทางไปที่วัดร่องขุ่น สุดยอดอลังการงานสร้างที่สุดจะบรรยาย แม้ทัศนียภาพภายนอกและการตกแต่งภายในจะยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์แต่ก็เป็นที่กล่าวขานกันมากว่าคือดินแดนแห่งเมืองสวรรค์
วัดร่องขุ่นออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือคุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่ และมีพระกิตติพงษ์ กัลยาโณ รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
จากนั้นพวกเราเดินทางไปยังพระธาตุลำปางหลวง เพื่อสักการะพระธาตุลำปางหลวง และเดินทางไปยังจังหวัดตาก สักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนที่จะเดินทางกลับถึง กทม. เวลา 21.00 น.
การเดินทางครั้งนี้แม้จะเหนื่อยเพราะถูกจำกัดด้วยเวลา แต่ก็คุ้มค่าที่ได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองเหนือ ถ้ามีโอกาสสัญญาว่าจะกลับไปเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะที่ อยากจะไปมากที่สุดคือที่จังหวัดเชียงราย :l-ธุจ้า
อ้างข้อความนี้
Bookmarks