ในความทุกข์มีความสุข

[ขอโทษที่คิดถึง...เด็กดื้อ]

มีคนในวงการบ้านเทิงนหนึ่ง ให้เงินเพือนยืมไปสิบสามล้าน แล้วเพื่อนก็ลอยชาย ลอยหน้าลอยตา ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย จะเล่นหนังเล่นละคนก็เจอกันอยู่อย่างนั้น ทวงก็ไม่ไห้ เธอโกรธมาก แต่เธอก็ไม่กล้าจะฟ้องเพราะกลัวเป็นข่าว เกิดความทุกข์ และในที่สุดความทุกข์ก็นำพาเธอเข้าสู่ประตูวัด ไปเรียนวิปัสสนากรรมฐาน

หลวงพ่อก็ถามว่าโยมทุกข์อะไร แค้นเพื่อนค่ะ แค้นอะไร ให้เพื่อนยืมเงินสิบสามล้าน กี่ปีแล้ว สิบกว่าปีแล้วค่ะ อ๋อทุกข์ ทุกข์เพราะเสียดายเงิน เงินไม่เสียดายค่ะ โยมมีเยอะ แล้วทุกข์เพราะอะไร แค้นค่ะ แค้นที่เขายืมแต่เขาไม่ไช้ ก็ยังเห็นหน้าเห็นตากันอยู่ทุกวันนี้แหละค่ะ หลวงพ่อถามต่อ ตอนเขามายืมเงินโยมสิบสามล้านนี่เขาเอาเป็นลูกซองมาด้วยไหม เปล่านี่คะจุดสามห้าเจ็ดเอามาด้วยหรือเปล่า เปล่าค่ะ ถ้าโยมไม่ได้ให้โยมทำผิดกฎหมายไหม ไม่ผิดค่ะ ถ้าโยมจะปฏิเสธโยมทำได้ไหม ได้ค่ะ แล้วทำไมโยมไม่ทำ ก็ไม่รู้นี่ค่ะ

หลวงพ่อเลยบอกว่าเห็นไหม โยมไปโกรธเขา ไม่โกรธตัวเอง หลวงพ่อ พูดแค่นั้น โยมคนนั้นหลุดผัวะเลย ความทุกข์ก็กอดมาสิบกว่าปี หลุดตรงนั้นเพราะจิตมันสว่างขึ้น หลุดจากอดีตมาอยู่กับปัจจุบันขณะ

ทันที่ที่เราเห็นทุกข์ ชีวิตเราจะเปลี่ยนคุณภาพทันที ความทุกข์ พระพุทธองค์จึงบอกว่ามันเป็นอริยะ เพราะในความทุกข์ ถ้ามันผลิบานออกมา ความสุขก็อยู่ตรงนั้น หากเปรียบกับผลส้ม ความทุกข์เปรียบเหสมือนเปลือกส้ม ความสุขก็คือเนื้อส้ม ถ้าใครกำลังมีความทุกข์ในชีวิต ขอได้โปรดยิ้มให้ตัวเองว่า ความสุขมาแล้ว ฉันจะแกะเปลือกมันออกแล้วค้นให้พบความสุขให้ได้

แท้ที่จริงความทุกข์ก็คือรูปแบบหนึ่งของความสุข เพราะความทุกข์และความสุขล้วนพึ่งพาอาศัยกันและกัน เขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น เรามองไม่เห็นเอง ถ้าเราเห็นด้วยปัญญา เราจะขอบคุณความทุกข์


ที่มา : หนังสือ ความทุกข์มาโปรดความสุขโปรยปราย โดย พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี)

[สาวบ้านแต้]

ขอบคุณจ้าพี่เด็กน้อย
อ่านแล้วอี๊ทก็ลดความโกรธลงได้
สาธุ สาธุ สาธุ

[สะใภ้อิสาน]

มองเห็นเลยคะ จะลองพยายามคะ ขอบคุณนะคะ

[ชัย หมอแคน]

อย่างนี้ต้องขอบคุณ"ทุกข์" ที่นำ"สุข"มาให้ เนาะคับ