มื่ออื่อนก่อนจั่งสิมาอ่านครับ ตอนนี่สิไปนอนก่อนดอก ย้านๆๆๆๆๆ...ย้านผีมาจับนำหัว นำแขน ขา 555
ตั้งใจจะเขียนเรื่อง ผี นานแล้วครับแต่เพิ่งมีโอกาส ก็เลยอยากรวบรวม เรียบเรียงมาเล่าสู่พี่น้องชาวบ้านมหา ตามความเข้าใจ ของบ่าวข้าวจี่
ผี ตามความเข้าใจตามความเข้าใจผู้เขียน(บ่าวข้าวจี่) เอาแบบเข้าใจยากง่าย ท่านก็ลองอ่านแล้วคิดตามด้วยนะครับ อาจมีผิด บกพร่อง เอาเป็นว่าใช้ วิจาณญานในการอ่านของแต่ละท่านก็แล้วกันครับ.....
“ผี” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า คือ สิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นสภาพลึกลับ มองไม่เห็นตัว แต่อาจจะปรากฏเหมือนมีตัวตนได้ อาจให้คุณหรือโทษได้ มีทั้งดีและเลว หรืออาจหมายถึง คนที่ตายไปแล้ว หรือเทวดาก็ได้ ทุกๆสิ่งที่เรามองไม่เห็นอาจใช่หรือไม่ใช่ ผี แต่ความหมายสิ่งที่เรามองไม่เห็นเว้นแต่ เขาทำให้เราเห็นนะครับ
“ผี” ตามความเข้าใจโดยทั่วๆ ไป คือ วิญญาณ ของคนและสัตว์ที่ตายไปจากโลกนี้ และคนธรรมดาไม่สามารถควบคุมการมองเห็นได้ สรุปง่ายๆ คือ วิญญาณทั้งหลาย เราเรียกว่าผี เอาเป็นว่าบ่าวข้าวจี่ อยากเล่าให้ฟัง เขียนให้ฟังตามความรู้ความสามารถ โดยอิงจากหลักการ หรือ บทพิสูจน์ตามหนังสือบ้าง
ตามคำพูดของ พระ ที่บ่าวข้าวจี่ได้มีโอกาส สนทนาธรรม และพูดกับพระคุณเจ้า หลายคนที่อดีตเคยเป็นเพื่อนรักกันนะครับ แต่ตอนนี้อยู่คนละสภาวะแล้วหละ เอาเป็นวิชาการปวดหัวเล่นๆก่อนนะครับ..ฮ่า
“วิญญาณ” ศัพท์ทางพุทธศาสนา จริงๆ หมายถึง การรู้ หรือการรับสื่อ หรือการรับสัญญาณใดๆแล้วรู้ เช่น เมื่อประสาทตารับสื่อคือแสง เกิดการรู้ แต่ศัพท์บัญญัติ เราเรียกว่า “เห็น” ซึ่ง “เห็น” นี้แหละ คือวิญญาณ
“สัมภเวสี” หมายถึง สภาวะที่จิตกำลังเสาะแสวงหาสมภพ หรือกำลังหาที่เกิดอยู่ ซึ่งสภาวะนี้ จิตต้องการรูปร่าง จิตอาจจะสร้างรูปร่างขึ้นโดยอาศัยสัญญาหรือความทรงจำสุดท้ายก่อนจุติ(ก่อน ตาย) แล้วจิตก็เข้าอาศัยร่างนั้น อันเป็นร่างชั่วคราว พูดง่ายๆ สัมภเวสี ก็คือสภาวะจิตที่ครองร่างชั่วคราว นั่นเอง เรามักเรียกว่า ผีเร่ร่อน
“สมภพ” หมายถึงแหล่งซึ่งเป็นที่กำเนิดร่างใหม่ มี 4 แหล่ง คือ ครรภ์, ไข่, xเซลล์ และ โอปปาติกะ(เปลี่ยนร่างแล้วโตเลย ไม่ต้องผ่านการเป็นตัวอ่อน เช่น สัตว์นรก เปรต เทวดา พรหม เป็นต้น)
“จุติ” แปลว่าเคลื่อน หมายถึงการที่จิตเคลื่อนออกจากร่างเก่า ไปสถิตยังร่างใหม่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การที่จิตเปลี่ยนร่างใหม่ นั่นเอง ซึ่ง เรานิยมเรียกว่า ตาย (การกลายร่าง เช่น จากไข่เป็นไก่ จากหนอน เป็นแมลงวัน เป็นต้น เป็นความเปลี่ยนแปลง ที่เรียกว่าชรา ไม่ใช่การจุติ ไม่เรียกว่า จุติ)
ร่างเก่า หากเป็นร่างในสมภพ โอปปาติกะ จะสลายหายวับไป ไม่เหลือซาก
ร่างเก่า หากเป็นร่างในสมภพอื่นๆ ที่เหลือ จะเหลือซาก ซึ่งเรานิยมเรียกว่า ศพ หรือซากศพ
“ภูต” แปลว่า ผู้เกิดแล้ว หรือผู้มี(ร่าง)แล้วหมายถึง จิตที่ได้สมภพแล้ว แต่ในความหมายทั่วไปที่เราใช้กัน หมายถึงเฉพาะจิตที่ได้สมภพเป็นโอปปาติกะ เช่น เป็นเปรต เป็นรุกขเทวดา และเราก็เรียกภูต ว่าผี หรือนำมาพูดติดกันว่าภูตผี...
ครับเกริ่นมาหลากหลายพอสังเขปเอาเป็นว่าตอนหน้า มารู้จัก ผี ที่ชาวอิสานบ้านเรารู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็น ผีเป้า ผีปอบ(อันนี้ฮิตครับ..) ผีโพง ผีกองกอย และ ผีต่างๆที่อยู่ภาคอิสาน อย่างเดียวนะครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป
มื่ออื่อนก่อนจั่งสิมาอ่านครับ ตอนนี่สิไปนอนก่อนดอก ย้านๆๆๆๆๆ...ย้านผีมาจับนำหัว นำแขน ขา 555
โอ้ย น้องย้านกะด้อ 555 มาลงให้อ่านบ่อ่านแล้วจ้า ย้านเจ้าของพอแฮงแล้วล่ะจ้า ยังจะมาย้านผีอีกอยู่อิอิอิ
ขอบคุณกระทู้น่าติดตามจ้า แต่น้องบ่ตามย้านนั้นล่ะจ้า555+
..บ่าวข้าวจี่นอกจากถนัดทางเรื่องเพลง เรื่องดนตรีแล้วยังถนัดเรื่องผีเนาะ..55
..สนทนาธรรมกับอาจารย์พระครูหลอดแม่นบ่ทั่น...อิอิ
..ที่เล่ามากะพอเข้าใจครับ แต่บ่อยากผ้อดอก บ่ว่าสิเป็นประเภทได๋ ย่านเบิด
แต่น้อยๆแฮงย่านยามเพิ่นตั๋วว่า ผีตะหลอกมาแล้ว...ก้าวขึ้นบันได่ขั้นสุดท้ายทั้งฮ้องทั้งไห้...
โชคดีหลายๆจ้า น้องมีเสี่ยวเป็นไห ไหบ่ย่าน น้องกะบ่ย่านคือกัน 55555
(สิถืกแบนบ่นิ เอิ้กๆๆๆ)![]()
![]()
น่าสนใจดีครับผม
ถ้าเปรียบผมเป็นคือผี ตอนนี้กะคือสิเป็น “สัมภเวสี” ติเนาะ
กำลังเเสวงหาหรือหาที่เกิดเป็นผู้ที่ฮ่างที่มีอยู่ ตอนนี้ต้องอาศัยร่างคนจนอยู่
ต้องอาศัยที่ที่บ่เเม่นของเจ้าของอยู่นั่นคือ ห้องเซ่าเป็นการซั่วคาว
จนกว่าสิมีบ้านเป็นของโตเจ้าของเอง อิอิ![]()
สิมาปูสาดเหี่ยนถ่าอ่านดอก เอาแบบยาวๆเติบแนเด้อบ่าว มักๆ :l-
ฮ่าๆๆๆๆ ผี ว่าตี้ อีกผีครับจารย์จี่ อยุนำจ่านี้บ่ได้เลี้ยงไว้แต่มายุนำเฮิ่งแล้ว "ผีพนัน " ฮ่าๆๆๆ
มาไล่ออกให้แน่ หรึ ว่าจั่งได อ้ายเอก หนุ่มนนท์ อาวอ้วน ฮ่าๆๆๆๆ![]()
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย จ่าเหลือง; 27-11-2010 at 06:46.
ฮ่า ฮ่า ฮ่า นั้นแล่วจ่าเหลืองเจ้าหาไล่จับผีพนันหลายมันเลยมาเข้าสิงเจ้า
ผีโพงกับแมวโพงนิแม่นผีแบบเดียวกับบ่น้อค่ะ