ความเดิมต้อนที่แล้วมีอยู่ว่า
นิเดินผ่านเครื่องสแกรน ด้วยความมั่นใจ
แต่เครื่องสแกรนที่เราผ่านร้องดังลั่น คุณเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ที่ยืนรอก็ผาย
มือเชิญ ขอสัมผัสเรือนร่างของอีฉัน ตั่งแต่หัวจรดเท้าคะและก็ใช้เครื่องสแกรนที่
คล้ายกับไม้กระบอก ไล่ไปตามทั่วตัวเราอีกครั่ง เจ้าเครื่องสแกรนนี้ก็ร้องอีก โอ้ยพี่น้อง
เอ๋ย นิได้แต่สายหน้าและก็ถอนลมหายใจลึกๆ ในใจก็หวังว่าขอให้เครื่องที่เราต้องเดิน
ทางมีการล่าช้ารอเราสักพัก คุณเจ้าหน้าที่ก็โทรเรียกเจ้าหน้าที่อีกท่านหนึ่งมาและบอกกับ
นิ ว่าเราขอให้คุณเดินตามเจ้าหน้าที่ท่านนี้ไปห้องเอ็กชเรย์คะ นี้สัมภาระของคุณใช้ไหม
เชิญคะ(กระเป๋าสะพาย เข็มขัด ร้องเท้าและเสื้อโค็ด) นิเป็นจุดสนใจของผู้คนแถวนั้น
ทันที่ ได้แต่ถอนใจคะเดินตามเค้าไป มาถึงห้องเอ็กชเรย์ก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่สองคน
ชายหญิง เจ้าหน้าที่คนที่พานิมาก็ส่งมอบตัวนิให้กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิง เค้าจะมีตระกล้าให้
ว่างสิ่งของและตัวเราต้องเข้าไปยืน ในช่องที่เค้าจัดไว้ให้คะ กางแขน กางขาออกอยู่ใน
ท่าเตรียมกระโดดตบมือคะแต่ในเวลานั้นก็หัวเราะไม่ออกหรอกคะ แต่ยังยิ้มได้ยิ้มสู้
กล้องคะเพราะเค้ามีกล้องถ่ายวีดีโอด้วย
ผลสรุปว่าสายเสื้อในคะเป็นโลหะ (ไม่ได้คะจะสวยแต่ชุดนอกไม่ได้ชุดในต้องสวย
ด้วย)เดือดร้อนคุณเจ้าหน้าที่ผู้หญิงขอพิสูนจอีกคะมาขอดู และก็ตามคำว่าขอ
โทษและขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ
นิก็ได้โอกาสที่จะต่อว่า คุณรู้ไหมว่าถ้าฉันตกเครื่องใครจะรับ
ผิดชอบ เค้าก็ถามว่าเครื่องออกกี่โมง นิบอกว่าต้อนนี้แล้วและขอให้เค้าเรียกรถที่ใช้ภาย
ในสนามบินช่วยไปส่งที่ประตูเครื่องของสายการบินที่เราจะเดินทางด้วย เพราะถ้าเดินเองก็
ใช้เวลาสิบว่านาทีได้แบบว่าเดินด้วยวิ่งด้วย รถของเค้าก็สิบนาทีคะ
และแล้วก็มาถึงไม่เหลือผู้โดยสารสักคนเลยคะเหลือแต่เจ้าหน้าที่สองคนและประตูที่
จะเข้าเครื่องก็ปิดแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พูดว่า เสียใจประตูปิดแล้ว มองออกนอกกระจกเห็น
เครื่องบินทีเราต้องขึ้นกำลังถอยหลังเพื่อจะกลับลำวิ่งสู่รันเวย์
Bookmarks