มีนิทานพุทธปรัชญาเรื่องหนึ่ง เล่าว่า ในอดีตกาลนานไกลมีปลาตัวหนึ่งชื่อโลภา ขอย้ำว่าปลาโลภา ไม่ใช่ปลาโลมา เพราะชื่อปลาตัวนี้ มาจากคำว่าโลภะ คือความโลภ ปลาโลภาตัวนี้ ไม่เพียงตัวใหญ่มากๆปลาโลภาที่บ่แมนปลาโลมาขนาดของมันจึงยาวมากๆ:l-มากกว่าปลาโลมาตัวที่ว่าใหญ่สุดนับร้อยนับพันเท่า ใช้ชีวิตอยู่ก้นมหาสมุทรใหญ่ เวลามันหิวขึ้นมา ก็จะกินทุกอยางที่ขวางหน้า จนกระทั้งวันหนึ่ง ปลาในมหาสมุทร ก็ถูกปลาโลภากินจนหมด ไม่มีสัตว์น้ำอื่นๆเหลือให้กินอีกแล้ว ท้องยิ่งหิวปลาโลภาที่บ่แมนปลาโลมา ปลาโลภาก็ว่ายหาเหยื่อไปจนถึงขุนเขาใหญ่ใต้น้ำ ปลาโลภาว่ายอ้อมภูเขามองไปข้างหลัง เห็นอะไรก็ไม่รู้ไหวๆอยู่ใกล้ๆเหลี่ยมเขา มันจึงเขาใจว่าเป็นเหยื่อ:l-ปลาโลภาตั้งใจงับสุดแรงเกิด ความหิวกลับเหยื่อจะหลุดปลาโลภาที่บ่แมนปลาโลมาทันทีนั้น ม้นก็ร้องสุดชีวิต เจ็บปวดสุดชีวิต เพราะเหยื่อที่ปลาโลภาตั้งใจงับนั้น:l-ที่แท้คือหางของตัวเอง:l-จบนิทาน ท่าน ว.วชิรเมที ก็สอนต่อ ถ้าเราโลภมากๆไม่รู้จักปล่อย ไม่รู้จักวาง ไม่รู้จักเกษียณตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิต ใช้วันเวลาไปในการวิ่งแสวงหาเงินหาทอง แม้แก่เฒ่า ก็ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น (ผมอ่านเจอเลยเอามาให้พี่น้องอ่านนำครับ)