รัฐฉาน ตอนที่ 5 สนธิสัญญาปางโหลง
(Pang Long Conference)
[WMA]http://vihokratree.webs.com/000%20Sunyajakpeon%20Yeiw.wma[/WMA]
สัญญาจากเพื่อน
[WMA]http://vihokratree.webs.com/Rutchanbaanrao%20Karabao.wma[/WMA]
รัฐฉานบ้านเรา
สาระของเรื่องราวก็คือ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางการพม่าพยายามโน้มน้าวเหล่าบรรดาเจ้าฟ้าไตให้เข้าร่วมเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เจ้าฟ้าไตจึงได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาปางโหลง เมื่อปี ค.ศ. 1947 กับชาวพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อขอเอกราชจากอังกฤษ โดยสัญญาดังกล่าวได้นำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุให้ชนชาติที่ร่วมลงนามในสัญญาสามารถแยกตัวเป็นอิสระได้หลังจากอยู่ร่วมกันครบสิบปี
เมื่ออังกฤษได้ให้เอกราชกับพม่าและไตแล้ว รัฐบาลกลางพม่าไม่ยอมทำตามสัญญาและพยายามการรวมดินแดนให้เป็นของประเทศพม่า เหตุนี้จึงทำให้ชาวไตหรือไทยใหญ่ก่อตั้งกองกำลังกู้ชาติของตนเองขึ้นในปี ค.ศ. 1948
เราจะมาศึกษาประวัติความเป็นมา ของ สนธิสัญญาปางโหลง
ความเป็นมาของสนธิสัญญาปางโหลง
การลงนามร่วมกันระหว่างนายพลออง ซาน(บิดานางออง ซาน ซูจี) ตัวแทนฝ่ายพม่า กับสภาสหพันธรัฐเทือกเขา(Supreme Concil of the United Hill People : SCOUHP) ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชาติไทยใหญ่ คะฉิ่น และชิน เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 (ค.ศ.1947) เวลา 11.00 น. และถือว่าเป็นวันแห่งสหภาพ(Union Day) ที่เมืองปางโหลง ตอนใต้ของรัฐฉาน
สาระสำคัญในข้อตกลงปางโหลง โดยระบุว่า หากพม่า ไทยใหญ่ คะฉิ่น และชิน ร่วมกันเรียกร้องและได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้วจะปกครองร่วมกัน 10 ปี จากนั้นแต่ละรัฐสามารถแยกปกครองตนเอง และยังได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของพม่า ว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามถือว่าเป็นผู้ละเมิดรัฐธรรมนูญ
และ ในวันที่ 19 กรกฎาคมปีเดียวกัน นายพลอองซาน ผู้ร่วมลงนามฝ่ายพม่าได้ถูกลอบสังหาร ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491(ค.ศ.1948 สหภาพพม่า ได้รับเอกราชจากอังกฤษ
ในปี 2505(ค.ศ.1962) นายพลเนวินได้ยึดอำนาจพร้อมประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สนธิสัญญาปางโหลงที่ พม่า ไทยใหญ่ คะฉิ่น และชิน ทำร่วมกันเป็นโมฆะ ทำให้ไทยใหญ่รวมทั้ง ชนชาติต่างๆต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อทวง สนธิสัญญามาจนถึงปัจจุบัน
ทำให้ชนแต่ละรัฐไม่พอใจ และไม่ยอมรับการปกครองรัฐบาลพม่า ทำการต่อต้านด้วยอาวุธเพื่อการปกครองตนเอง และแยกตัวเป็นรัฐอิสระ รัฐบาลพม่าจึงถือว่าชนเหล่านี้เป็นกบฏ และได้ทำการปราบปรามเรื่อยมา โดยเฉพาะชนกลุ่มในรัฐต่าง ๆ เช่น รัฐฉาน รัฐคะยา รัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ
[WMA]http://vihokratree.webs.com/000Kidtoungbaan%20Noomsakol.wma[/WMA]
คิดถึงบ้าน
หมายเหตุ
ส่วนทำไมถึงมีชื่อว่า สัญญาปางโหลง(ปางหลวง) ก็เพราะว่าปางโหลงเป็นเมืองที่ทำสัญญา ที่ไทยใหญ่ คะฉิ่น และชิน ลงนามร่วมกับพม่าเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 ร่วมกันเรียกร้องเอกราชจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษ
เมือง”ปางหลวง” เป็นกาดใหญ่อยู่ใจกลางรัฐฉาน เป็นกาด(ตลาด)ของพ่อค้าไทยใหญ่จากแสนหวี ลายค่า หรือพ่อค้าจากเชียงราย เชียงใหม่ สมัย นั้น เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งจะต้องมาตั้ง ปาง(ป๋าง)อันหมายถึงที่พักแรม ชั่วคราว และมีคนรวมกันมาก
ปางจึง”หลวง” (ภาษาไทยใหญ่ ออกเสียง”หลวง”ว่า”โหลง”แปลความหมายภาษาไทยภาคกลางว่า”ใหญ”
ดังนั้น ปางโหลง จึงมีความหมายว่า จุดพักแรมใหญ่ ของคาราวานพ่อค้าวัวต่าง ม้าต่าง อีกความหมายหนึ่ง เมืองปางหลวง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบกว้างใหญ่ พอคนเข้ามาค้าขายตั้งปางพักแรม ซึ่ง”หลวง”หรือ”ใหญ่” กว่าอื่นจึงได้ชื่อว่า”ปางหลวง”
[WMA]http://vihokratree.webs.com/Hangkai%20Yiew.wma[/WMA]
ห่างไกล
นับวันเวลายิ่งห่างไกลจากเสรีภาพมากขั้นทุกที
.....................................
Bookmarks