หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 23

หัวข้อ: ..รอยรัก รอยอดีต ตอนที่ 1 ...

  1. #1
    มิสบ้านมหา 2010
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ เขมราฐ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    กลางท่งเมืองเขมฯ
    กระทู้
    1,946

    ..รอยรัก รอยอดีต ตอนที่ 1 ...

    บ้านหนองไหล เมื่อ 60 กว่าปีก่อน ถึงแม้ว่าจะห่างจากตัวเมืองอุบลฯเพียง

    สิบสี่กิโลเมตร แต่สภาพภูมิประเทศที่เป็นดินทราย น้ำท่วมนาข้าวเสียหายทุกปี ชาวบ้าน

    ต่างแสวงหา “บ้านใหม่” สถานที่ดินดำน้ำชุ่ม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครั้งกระนั้นญาท่าน

    แสง พระในวัดบ้านหนองไหล ได้ธุดงค์จาริกแสวงบุญจากบ้านหนองไหล จนมาพบชัยภูมิ

    เหมาะแก่การตั้งบ้านเรือน มีหนองน้ำขนาดใหญ่ กก ผือ แน่นขนัดอยู่ด้านทิศเหนือ ภูเขาที่

    เต็มไปด้วยไม้ใหญ่ และสัตว์ป่าอยู่ทางทิศใต้ ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ท่านจึงปักกรด ปฏิบัติ

    ธรรมอยู่ ณ ริมฝั่งหนองผือ เป็นเวลา 7 คืน รุ่งเช้าของวันที่ 8 จึงได้เดินเท้ากลับบ้าน

    หนองไหล เมื่อกลับถึงบ้านหนองไหล ได้บอกกล่าวแก่ญาติโยมที่มาทำบุญ ที่วัดผู้ใด

    สมัครใจไปอยู่บ้านใหม่ท่านจะพาไป ด้วยความที่เบื่อหน่ายกับน้ำท่วมนาทุกปี จึงมีครอบ

    ครัวชาวบ้านที่สมัครใจไปอยู่บ้านใหม่ 11 ครอบครัว หนึ่งในนั้นมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่แต่ง

    งานกันได้ไม่นาน ซึ่งชาวอีสานจะเรียกครอบครัวแบบนี้ว่า “ผัวบ่าว เมียสาว” ได้ขอติดตาม

    ครอบครัวใหญ่ของน้าบ่าว เพื่อจะไปอยู่บ้านใหม่ด้วย ทิ้งพ่อแม่ พี่น้อง ไว้เบื้องหลังด้วยผู้

    เป็นผัว เป็นลูกชายคนโต จึงแสวงหาที่อยู่ใหม่ สร้างครอบครัวใหม่ ถึงวันย้ายไปอยู่บ้าน

    ใหม่ เกวียนบรรทุกข้าวสาร สิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ปลาร้า พริก เกลือ ทั้งผู้ที่จะไปอยู่

    บ้านใหม่ และผู้ที่ไปส่งจำนวน 30 เล่มก็พร้อมเดินทาง 11 ครอบครัว กว่า 30 ชีวิตพร้อม

    ที่จะแสวงหาที่แห่งใหม่ พร้อมที่จะไปตายดาบหน้า โดยมีผู้นำคือญาท่านแสง เป็นผู้นำ

    เด็ก ๆ ที่ไม่เคยเดินทางตื่นเต้น บ้างร้องไห้ไม่อยากจากญาติพี่น้อง บ้างดีใจที่จะได้ไปอยู่

    บ้านใหม่ เมื่อนัดแนะฤกษ์ยามที่เป็นมงคลจึงออกเดินทางจากบ้านหนองไหลแต่เช้าตรู่

    การเดินทางผ่านป่าทึบยากลำบาก เมียสาวอดีตสาวงามประจำหมู่บ้านที่ไม่เคยระหกระเหิน

    ตรากตรำงานหนัก เมื่อต้องเดินทางเท้าตามป่าเขาเริ่มอ่อนแรง แต่ยิ้มที่ส่งมาจากผัวบ่าว

    ช่วยเสริมกำลังใจให้เธอกัดฟันเดินทางต่ออย่างไม่ย้อท้อ.... การเดินเท้าจากบ้านหนอง

    ไหลกว่าจะถึงบริเวณหนองผือ ต้องใช้เวลาสามวันกับอีกสองคืน แต่ด้วยคาราวานที่มีทั้ง

    เด็กและผู้หญิงพร้อมทั้งต้องหยุดพักให้วัวเทียมเกวียนกว่า 60 ตัวได้พักเล็มหญ้า สามคืน

    กับสี่วัน คาราวานผู้แสวงหาบ้านใหม่จึงเดินทางมาถึงบริเวณหนองผือ บริเวณนี้ป่าทึบ สัตว์

    ป่าดุร้าย มีมากมาย ญาท่านแสงจึงให้ชาวบ้านทั้ง 11 ครอบครัวสร้างทับไม้ไผ่อยู่ใกล้กัน

    ผัวบ่าว เมียสาวเลือกบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ สร้างทับเล็ก ๆ เพียงเพื่อซุกหัวนอน ไม่ห่าง

    จากทับไม้ไผ่ของน้าบ่าว ที่มาพร้อมลูกอีก 6 คน เมื่อทุกคนได้ที่พักทับไม้ไผ่แล้ว ต่างพา

    กันหักร้างถางพง เพื่อปลูกเรือน และที่ทำกิน ผัวบ่าว เมียสาวช่วยกันถางป่าบริเวณทับที่

    พัก และออกเดินหาบริเวณที่ลุ่มเพื่อทำนาข้าวจึงได้เลือกบริเวณริมทางเกวียนเล็ก ๆ เชิง

    เขา แล้วเริ่มลงมือถางป่า และปลูกข้าว คู่ผัวบ่าว เมียสาว ต่างช่วยกันทำงานด้วยความรัก

    และกำลังใจที่มีให้กัน ต่างฝันว่าในอนาคตจะมีครอบครัวใหญ่มีลูก 8 – 9 คนเหมือนครอบ

    ครัวอื่น ๆ ทำนาใหม่เพียงหนึ่งฝนเมียสาวตั้งครรภ์คลอดลูกสาวเป็นรางวัลแก่ความรักและ

    ความเข้าใจแก่ผัวบ่าว เมียสาวอดีตสาวงามประจำหมู่บ้านที่ไม่เคยตรากตรำเมื่อต้องมาถาง

    ป่า ทำนาเริ่มถ้อ “อ้ายมาข่อยอยากเมือบ้าน” เมียสาวเอ่ยเมื่อกลับจากงานนาในวัน

    หนึ่ง “ลูกยังน้อยไปยากมายากลูกใหญ่จักหน่อยสิพาเมือยามดอก คิดฮอดบ้านซ่ำบ้อ” ผัว

    บ่าวได้แต่ปลอบใจ แต่เมียสาวไม่ยอมรบเร้าจนถึงหน้าเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จผัวบ่าวจึงตัดสิน

    ใจ ฝากวัว ควาย ไว้กับน้าบ่าวพาเมียสาวกลับไปเยี่ยมบ้าน ทั้งสองเป็นครอบครัวใหม่ ยัง

    ยากจน ไม่มีเกวียนเหมือนกับครอบครัวอื่น ๆ จึงต้องเดินเท้ากลับไปเยี่ยมบ้าน เมียสาวอุ้ม

    ลูก ผัวบ่าวหาบห่อข้าวสารเสื้อผ้า อาหาร ทั้งสามชีวิตออกเดินทาง สามวันสองคืนจึงถึง

    บ้านเก่า เมื่อกลับถึงบ้านเก่าญาติพี่น้องต่างมาต้อนรับ ถามข่าวคราวถึงญาติของตนที่ไปอยู่

    บ้านใหม่ พักที่บ้านหนองไหลได้สามคืนผู้ผัวจึงชวนเมียกลับด้วยเป็นห่วง วัวควาย ที่ฝาก

    เขาเลี้ยงไว้ แต่เมียสาวยังไม่อยากกลับไปบ้านใหม่จึงขอผัวให้อยู่กับพ่อ แม่ อีกสักหนึ่ง

    เดือน ด้วยความรักเมียจึงตามใจให้เมียกับลูกน้อยอยู่บ้านกับพ่อแม่ ส่วนตัวเองเดิน

    ทางกลับหนองผือเพียงลำพัง เมื่อครบกำหนดหนึ่งเดือน จึงได้เดินทางกลับไปรับเมียและ

    ลูก แต่อนิจจา เมื่อไปถึงบ้าน พ่อกับแม่บอกว่า เมียรักได้หอบลูกตามพ่อเฒ่าแม่เฒ่า หนี

    ไปอยู่หนองงัวซอแล้ว เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อม ใจร่ำ ๆ อยากจะตามไป แต่

    พ่อ แม่ ได้ห้ามไว้ ระยะทางจากหนองไหล ไป หนองงัวซอ นั้นไกลมากทั้งการเดินทางก็

    ลำบากต้องรอนแรมกลางป่าเขาครึ่งเดือนจึงจะถึง หากเดินทางเพียงลำพัง อันตรายมีรอบ

    ด้าน จึงได้แต่ปลอบใจลูกชายหากเขาหนีไปไม่บอกกล่าว หากไปตามคงไม่กลับมา ทั้งยัง

    เป็นห่วงลูกชายไม่ให้เดินทางลำพัง “กลับเมือหนองผือซะบักหล่า เขาหนีไปแล้วเขาบ่

    หลบมาดอก” ผู้เป็นแม่ได้แต่ปลอบใจลูกชาย “ลูกข่อยหั่นเด้” ลูกชายยังไม่วายเป็นห่วง

    ลูกน้อย “แม่มันอยากพาหนีไป มันคงจะมีปัญญาเลี้ยง ถ้ามันคิดว่าพ่อโตขึ้นมันคงมาหา

    มึง” พ่อผู้มาจากเมืองไทยเมืองล่างสำเนียงพูดยังคงแปล่งระหว่างภาษาอีสานกับภาษา

    กลาง “ลูกมึงก็อยู่ในพกผ้ามึงนั่นแหล่ะ” เสียงผู้พ่อย้ำมาอีกแต่หากในใจนั้น สงสารลูก

    ชายจับใจ หลังจากนอนบ้านเก่าได้สองคืนเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับหนองผือ ด้วยใจที่

    เจ็บช้ำ การเดินทางครั้งนี้ไม่มีรอยยิ้มจากเมียรัก กลับไปถึงกระท่อมไม่มีเสียงลูกน้อย

    ร้องไห้ เหลือเพียงภาพความทรงจำ ที่เคยมีความสุขร่วมกัน วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

    เขากลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่มีรอยยิ้ม ความเป็นไปของเขา อยู่ในสายตา น้าบ่าวครู น้า

    ชายที่เขาพาลูกและเมียตามมาอยู่บ้านใหม่.. ด้วยความเป็นห่วงหลานชาย จึงอยากให้

    บวชเรียน หากจบมาจะพามาเป็นครูด้วยกัน แต่เขาไม่ชอบการเป็นเรียนหนังสือ ระหว่างนั้นมี

    คาราวานรับซื้อวัวควาย ของนายฮ้อยต่างถิ่นผ่านมา จึงได้ติดตามคาราวานวัวควาย ไปค้า

    ถึงเมืองโคราช เพื่อเยียวยาแผลใจ นั่นเป็นจุดผลิกชีวิตให้เขากลายมาเป็น นายฮ้อยคุม

    คาราวานวัวควายเอง... แต่ใจที่มีแผลยังไม่หาย


    โปรดติดตามตอนต่อไปเด้อค่ะ.......
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เขมราฐ; 14-03-2011 at 10:14.

  2. #2
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ คมคาย ครบุรี
    วันที่สมัคร
    Apr 2009
    กระทู้
    418
    ขอบคุณครับ อ่้านแล้วก่าได้ใจดีครับ สิ่งที่เกิดขึ้นโ้ดยที่เรามิทันตั้งโตนิ ทำใจรับได้ยากเนาะ
    คนที่รักมาจากไปโดยไม่บอกกล่าวนิน๊าาา

  3. #3
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ เด็กบ้านนอก
    วันที่สมัคร
    Jun 2008
    กระทู้
    36
    เพื่อนคือบรรยายได๋ดีแท้น้อ

  4. #4
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ เเมงสะดิ้ง
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    ที่อยู่
    ที่ชอบ
    กระทู้
    1,025
    บล็อก
    24
    เยี่ยมค่ะ
    รออ่านต่อไป
    ................
    สะดิ้งคือน้องได้ยินเสียงฆ้องกะแล่นตำ

  5. #5
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ไผ่หวาน
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ที่อยู่
    PATTAYA CITY
    กระทู้
    729
    บล็อก
    14
    ขอเดา นายฮ้อยคือพ่อใหญ่น้องหลินแม่นบ่ สิรออ่านตอนต่อไปจ้า

  6. #6
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ เมษา
    วันที่สมัคร
    Jan 2009
    ที่อยู่
    ไทย & ยูเค
    กระทู้
    967
    ปานนิยายที่เพิ่นเอาไปเฮ็ดหนังเนาะหลิน สิไห่นำแหล่วเด้หนี่ ถ่าอ่านต่ออยู่เด้อ

  7. #7
    ฝ่ายเทคนิค และถ่ายทอดสด สัญลักษณ์ของ อาวอ้วนเมืองยศ
    วันที่สมัคร
    Apr 2010
    ที่อยู่
    เมืองบั้งไฟ
    กระทู้
    1,513
    แน้ มีตอนต่อไปอีกละพ ปานบักหำน้อยซีรี่ตั่วบาดนี่แมะ

  8. #8
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    May 2009
    กระทู้
    62
    ใจสิขาดรอนๆ ย้อนคึดฮอดลูกน้อง..ฟ้าวมาตอนเด้อครับน้องหลิน

  9. #9
    ฝ่ายเทคนิคและโปรแกรม สัญลักษณ์ของ ต่วง
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,826
    เว้าถึงสมัยก่อนเนาะน้องหลินอ้ายอยากย้อนอดีตไปนั่งเกวียนอีก ขับเกวียนขนข้าวในนาอ้ายยังจำบ่
    ลืมมีความสุขหลายเป็นธรรมชาติชนบทขนานแท้เดี๋ยวนี้แหละมีแต่ใช้เครื่่องจักรเบิดเว้าง่ายๆ อยากเป็นคนโบราณดีกว่า
    การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องขึ้นอยู่กับความพยาม ความตั้งใจ สู้ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่าง

  10. #10
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ บ่าวจัย
    วันที่สมัคร
    Jun 2008
    กระทู้
    2,872
    เจ็บใจ เสียใจ อิหยังกะบ่ถ่อเมียพาลูกหนีดอกเนาะรับสำหรับคนที่มีวีรกรรมแบบนี้
    คงสิฮู้สึกดีว่ามันเจ็บขนาดได๋ ติดตามรออ่านยุเด้อน้องหล้า
    หล่อคืออ้าย กินข้าวบายกบตั๋วะหล่า

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •