อีกไม่กี่วันจะถึงวันปีใหม่ อากาศยังหนาวเย็น ลมพัดแรงตลอดคืน เสียงสะนู
ว่าวดังแว่วมาคล้ายกับลอยมาจากที่แสนไกล ไอหมอกจาง ๆ ที่ลอยอ้อยอิ่งทักทาย
กับยอดไม้ยังไม่จางหาย ทุกเช้าพ่อจะตื่นแต่เช้าก่อกองไฟผิง นางข้าวคั่ว หมาพันทางสี
แดงที่ครอบครัวสีดาเลี้ยงไว้ พาลูก ๆ มานอนรอบกองไฟ พ่อเข้าไปถางหญ้าในสวนหลัง
บ้าน ขุดดินเตรียมปลูกผักสวนครัว พ่อจะมีมันสาคู มันเทศ มาเผาให้สีดากับน้องชายกิน
ทุกเช้า เช้านี้สีดากับน้องตื่นมาพบพ่อกำลังเผามันเทศในกองไฟ “มันสุกพอดีไปสีแข่ว
แล้วมากินหมกมันไป่” พ่อบอกสีดา สีดารีบเข้าครัวหยิบเกลือมาถูฟันล้างหน้า “เอาข้าวไป
จี่นำติล่ะ” แม่บอกสีดาพร้อมส่งกระติบข้าวเหนียวเล็ก ๆ ให้สีดา เธอสะพายกระติบข้าว
ประครองถ้วยไข่ที่แม่ตีจนฟูปรุงรสด้วยน้ำปลาลงเรือนมาอย่างระมัดระวัง พ่อล้วงข้าว
เหนียวปั้นเป็นก้อนขนาดเท่ากำปั้น แล้วใช้ไม้ไผ่เสียบ โรยเกลือ แล้วย่างไฟ พอข้าว
เหนียวเริ่มเหลือง พ่อจะจุ่มไข่แล้วย่างไฟต่อ พอไข่เริ่มสุกพ่อจะจุ่มอีกครั้งแล้วย่างไป
เรื่อย ๆ จนไข่สุกและข้าวเหนียวเหลืองกรอบแล้วส่งให้สีดากับน้องคนละปั้น “กินให้เ
เบิดปั้นเด้อจั่งสิเฮียนเก่ง” พ่อบอกกับน้องชาย “ปีหน้าข่อยกะเข้าโรงเรียน เจ้าสิซื้อซ่งใหม่
ให้ข่อยบ่อีพ่อ” น้องชายสีดาถามพ่อ “อยากได้ซ่งใหม่กะเฮียนเก่ง ๆ” พ่อบอกกับน้อง
ชาย “ข่อยอยากเป็นเสมียนคือครูทุมพรบอก” หลังจากฟังพ่อกับน้องชายคุยกันแล้วสีดา
จึงพูดบ้าง “อยากเป็นเสมียนกะเฮียนเก่ง ๆ” พ่อบอกกับสีดา “ให้ข่อยเฮียนม.1บ่พ่อ” สี
ดาถามพ่อถึงอนาคตของตนเอง “ได้เฮียนจบ ป.6 แล้วพ่อสิพาไปฝากให้อยู่กับแม่ใหญ่
จั่งเทียวเฮียนโรงเรียนเบญฯนำเอื้อยจันทร์ อยากไปบ่” พ่อบอกสิ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะให้สีดา
ได้เรียนสูง ๆ “อยาก” สีดาตอบสั้น ๆ ตามความเคยชิน “เสมียนแม่นหยังสีดา”น้องชายเธอ
ถามด้วยความสงสัย “บ่จักครูทุมพรว่าเอื้อยลายมืองามถ้าเฮียนสูงสิได้เป็นเสมียน หลวงสิ
ให้เงินเดือน” สีดาตอบน้องชาย ซึ่งเวลานี้เขาให้ความสำคัญกับปั้นข้าวจี่ในมือมากกว่าจะ
ถามคำถามเธอแล้ว ข้าวจี่เป็นอาหารเช้าประจำของเธอกับน้อง วันนี้มีข้าวจี่ทาไข่ถือว่า
พิเศษกว่าทุกวัน อาหารหลักของสีดาคือไข่เป็ดที่แม่เลี้ยงไว้เพียง 5 ตัว ทุกเช้าน้องชาย
ของเธอจะไปตรวจดูในเล้าเป็ดว่าวันนี้ออกไข่กี่ฟองวันนี้เขาเก็บได้ถึงสามฟอง แม่เก็บไว้
ต้มให้เธอห่อไปโรงเรียนสองฟอง อีกหนึ่งฟองทำข้าวจี่ “ปีหน้าอีกดนบ่สีดา” น้องชายของ
เธอถามขึ้น “ดนอยู่ ดำนาเกี่ยวข้าวอีกเทื่อหนึ่งจั่งฮอด ถามเฮ็ดหยัง” สีดาไม่เข้าใจว่าน้อง
ชายของเธอถามคำถามนี้เพื่ออะไร “อยากไปโรงเรียนไว ๆ อีพ่อบอกข่อยว่าปีหน้าจั่งได้
ไป” น้องชายสีดาปีหน้าอายุครบเกณฑ์เข้าเรียน ป.1 เขาตื่นเต้นที่จะได้ไปโรงเรียน หลัง
จากที่ฟังสีดาเล่าเรื่องโรงเรียนให้ฟังบ่อย ๆ พ่อเข้าไปถางหญ้าต่อในสวน สีดากับน้องชาย
นั่งกินข้าวจี่ข้างกองไฟเงียบ ๆ “สีดา.. สีดา” บังอรเรียกสีดาจากหน้าบ้าน บังอรเดินมา
พร้อมครูสมพร วันนี้เป็นวันหยุดครูสมพรออกมาเยี่ยมบ้านเด็ก ๆ ในชั้นของเธอแต่เช้า พอ
เห็นครูสมพร สีดารีบวิ่งไปสวัสดีครูสมพร “ทำอะไรอยู่จ๊ะสีดา” ครูสมพรถาม “ฝีงไฟกินข้าว
จี่ค่ะครู” สีดาตอบครูสมพร “ครูทานด้วยได้ไหมคะ” ครูสมพรอยากร่วมวงกับเด็ก ๆ เอ่ย
ขอ “บ่ได้ทานค่ะ เฮ็ดกินเองบ่ได้ให้ทานไผ๋” สีดาตอบ พอได้ฟังคำตอบของสีดาครูสมพร
ยิ้มขำกับความไร้เดียงสาของเธอ “คำว่าทานไม่ใช่ให้ทานหรือขอทานจ๊ะสีดา มาจากคำว่า
รับประทาน ใช้แทนคำว่ากิน ครูพูดสั้น ๆ ว่าทาน แปลว่า ครูกินด้วยคนได้ไหม” ครูสมพร
อธิบายให้เธอเข้าใจ สีดายิ้มเอียงอายแล้วตอบเบา ๆ ว่า “เซินครูทานข้าวจี่ทาไข่กับหนูได้
ค่ะ” แล้วครูสมพร ก็ทำข้าวจี่ทาไข่รับประทานกับเด็ก ๆ อย่างเอร็ดอร่อย...
Bookmarks