กำเนิดโลก 2 ชั้นแก่นโลก (Earth's Core)
หลังจากเกิดดวงอาทิตย์แล้ว โลกได้เริ่มก่อกำเนิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีที่แล้ว โลกที่เกิดขึ้นในยุคแรก ๆ จะเป็นกลุ่มก๊าซ ฝุ่นละออง และแร่ธาตุที่รวมตัวเป็นเนื้อเดียวกันทำให้โลกไม่มีการแยกชั้นเหมือนในปัจจุบัน
แต่เพราะแรงดึงดูดมหาศาลทำให้ก๊าซ ฝุ่นละออง แร่ธาตุต่าง ๆ มีการรวมตัวกันมากขึ้นจนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ การชนกัน, การอัดตัวของสสารต่าง ๆ และการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีภายในโลกก่อให้เกิดความร้อนขึ้น เมื่อโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น เหล็กซึ่งเป็นโลหะที่มีมากที่สุดในโลกหรือประมาณ 1 ใน 3 ของมวลโลก จะหลอมละลายแล้วรวมตัวกันเป็นก้อนขนาดใหญ่จมลงสู่ใจกลางโลกกลายเป็น “แก่นโลก” ส่วนสสารที่เบากว่าจำพวกหินแข็งจะลอยขึ้นสู่ด้านบนเป็นเนื้อโลก และเย็นตัวลงกลายเป็น ”เปลือกโลก” และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่โลกเริ่มแบ่งออกเป็นชั้นต่าง ๆ รวม 3 ชั้น ทีนี้เราไปทำความรู้จักกันดีกว่าว่าแต่ละชั้นที่ว่านั้นเป็นอย่างไร
ชั้นแก่นโลก (Earth's Core)
ชั้นแรกของเปลือกโกลกเป็นส่วนที่อยู่ใจกลางโลก เรียกว่า ชั้นแก่นโลก (Core)
แกนโลก (Earth's Core): ส่วนประกอบหลักๆ ของแกนโลกคือโลหะผสมระหว่างเหล็กและนิเกิล (iron-nickel alloys) ซึ่งเป็นสัณนิษฐานที่ได้จากการคำนวณความหนาแน่นและความจริงที่ว่าอุกกาบาตทั้งหลายที่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากโครงสร้างข้างในดาวเคราะห์
ประกอบด้วยโลหะผสมเหล็กนิเกิล แกนโลกเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนเนื่องจากประกอบด้วยวัสดุกัมมันตภาพรังสี (radioactive meterial)ที่ซึ่งปลดปล่อยความร้อนออกมาจากการแตกตัวเพื่อเข้าสู่สถานะที่เสถียรกว่า
แกนโลกแบ่งเป็นสองส่วน คือ
- แกนโลกชั้นนอก (outer core) มีสถานะเป็นของเหลวเนื่องจากอุณหภูมิที่สะสมเพื่อหลอมโลหะผสมเหล็กนิเกิล
- แกนโลกชั้นใน (inner core) มีสถานะเป็นของแข็งถึงแม้ว่าจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าแกนโลกชั้นนอกแต่เนื่องจากความกดดันที่สูงมากจากน้ำหนักของหินที่ปิดทับอยู่ด้านบนที่มากพอที่จะทำให้อะตอมมีการจับตัวกันอย่างแน่นหนาทำให้ไม่เกิดสถานะของเหลว
ขอบคุณ
crack.seismo.unr.edu
sciencedaily
thaigoodview
pkkv.org
..............................................................
Bookmarks