สามก๊ก ตอนที่ 2 การณ์แปรปรวนในราชสำนัก




สามก๊ก ตอนที่ 2 การณ์แปรปรวนในราชสำนัก




ภาย หลังเล่าปี่ถูกแต่งตั้งไปปกครองเมืองอันห้อก้วนซึ่งเป็นเมืองขึ้นเล็กๆ ราษฎรสรรเสริญเป็นอันมาก ต่อมมาขุนนางต๊กอิ๊ว ได้เรียกส่วยจากเล่าปี่ พาให้เตียวหุยเดือดดาลเป็นอันมาก โบยตีต๊กอิ๊วแล้วทั้งสามก็หนีออกจากเมืองไป ต่อมาได้รับไปประจำตำแหน่งที่เมืองเพงงวนก๋วน



ขันที ทั้งสิบได้เป่าหูพระเจ้าเลนเต้ ทำให้ราชการแผ่นดินฟั่นเฟือนไป ต่อมาพระเจ้าเลนเต้ประชวรหนักจึงสวรรคต มีปัญหาเรื่องการสืบรัชทายาทระหว่างหองจูเหียบผู้น้อง กับหองจูเปียนผู้พี่ โฮจิ๋นผู้เป็นพี่ของพระนางโฮเฮาอัครมเหสีผู้เป็นแม่หองจูเปียน ได้คิดแต่งตั้งให้หองจูเปียนสืบรัชทายาท


แต่ขันทีทั้งสิบได้ทำการคิดยก หองจูเปียน ผู้น้องขึ้นครองราษฎร์แทน และคิดการลอบฆ่าโฮจิ๋น แต่การรั่วไหลโฮจิ๋นได้บุกเข้าวังหวังกำจัดขันทีทั้งสิบให้ซิ้นซาก แต่ขันทีทั้งสิบได้หลบหนีแล้วไปอ้อนวอนต่อนางโฮเฮาให้ไว้ชีวิต โฮจิ๋นผู้พี่จึงมิอาจทำอะไรได้ แต่โฮจิ๋นได้คิดการที่กำจัดเสี้ยนหนามอยู่ตลอดเวลา แล้วส่งสาสน์ไปหัวเมืองทั้งปวงให้ยกทัพมาช่วยกำจัดขันทีทั้งสิบ






พระเจ้าเล่าปี่




พระเจ้าเล่าปี่ หรือ หลิวเป้ย (จีนตัวเต็ม: 劉備; จีนตัวย่อ: 刘备; พินอิน: Liú Bèi; เวด-ไจลส์: Liu Pei) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิเจียงบู๊เต้ เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เสด็จพระราชสมภพที่เมืองจัวโจว มณฑลเหอเป่ย และเสด็จสวรรคตที่แขวงไป๋ตี้เฉิง เมืองฉงชิ่ง มณฑลสื้อชวน ประเทศจีน จักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรจ๊กก๊กและราชวงศ์ฮั่น เป็นชาวเมืองตุ้นกวน ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก เล่าปี่เป็นผู้ที่รูปร่างสูงใหญ่ สูงประมาณห้าศอก หูยานถึงบ่า มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังสีหยก ฝีปากแดงดังชาดแต้ม จักษุชำเลืองไปเห็นหู[1] มีกระบี่คู่แบบโบราณเป็นอาวุธประจำกาย เก่งกาจเชิงยุทธ มีคุณธรรม อ้อนน้อมถ่อมตน สำรวมกายสำรวมใจเป็นเลิศ




สามก๊ก ตอนที่ 2 การณ์แปรปรวนในราชสำนัก




เล่าปี่ ร่วม สาบานเป็นพี่น้องในสวนท้อกับกวนอูและเตียวหุย ร่วมรบกับทหารจากวังหลวงในการปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง ภายหลังได้รับตำแหน่งนายอำเภออันห้อกวนแต่ถูกต๊กอิ้วกล่าวหาเป็นกบฎจึงต้องหลบหนี ร่วมทำศึกเพื่อกอบกู้ราชวงศ์ฮั่นมาโดยตลอด ภายหลังครองเมืองเสฉวน สถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าฮันต๋งแห่งจ๊กก๊ก สวรรคตภายหลังจากนำทัพขนาดใหญ่บุกโจมตีกังตั๋งเพื่อแก้แค้นให้กวนอูในปี พ.ศ. 766 รวมพระชนมายุได้ 63 พรรษา


เล่าปี่ทรงสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ฮั่น โดย จงซานจิ้งอ๋อง ผู้เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิฮั่นเกงเต้จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่น ในลำดับอาลักษณ์ราชวงศ์ฮั่น เล่าปี่ทรงมีศักดิ์เป็น เสด็จอาของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จึงทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งทางพระราชวงศ์เป็นพระปิตุลาธิราช หรือ พระเจ้าอา


ส่วนตำแหน่งทางการเมืองดำรงตำแหน่งขุนพลฝ่ายซ้าย เดิมเป็นคนยากจน มีอาชีพทอเสื่อและรองเท้าฟางขาย บิดาเป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่นแต่สละฐานันดรศักดิ์เพราะไปรักกับหญิงสามัญชนแต่ถูกเหล่าเชื้อพระวงศ์กีดกันพอสละฐานันดรศักดิ์แล้วก็มาอยู่กินกับแม่ของเล่าปี่

พ่อของเล่าปี่เสียชีวิตตั้งแต่เล่าปี่ยังเด็กตอนเด็กมีฐานะยากจนมากต้องยังชีพด้วยการทอเสื่อขาย ขายได้บ้างไม่ได้บ้างแทบไม่มีเงินไปซื้อข้าวมาหุงกินกับแม่


ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับ กวนอู เตียวหุย ที่สวนดอกท้อ อำเภอตุ้นกวน เพื่อปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง เมื่ออายุได้ 28 พรรษา โดยเป็นพี่ชายคนโต นิสัยมีน้ำใจดีงาม เป็นที่รักใคร่แก่คนทั่วไปใช้กระบี่คู่เป็นอาวุธคู่พระวรกาย ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋วหลังจากการตายของโตเกี๋ยม


หลังเสียเมืองชีจี๋วต้องหกระเหเร่ร่อนไปอาศัยเจ้าเมืองต่าง ๆ อยู่ต้องคอยอาศัยเมืองต่าง ๆ อยู่ไม่ว่าซีจิ๋วที่ถูกลิโป้ยึดครอง ฮูโต๋ที่ไปอาศัยโจโฉอยู่ ฮ่องแต่ได้แต่งตั้งเป็นพระเจ้าอา หวังช่วยเป็นเรี่ยวแรงให้ฮ่องเต้ แต่โจโฉคิดปองร้ายจึงหาทางออกจากลกเอี๋ยงเมืองหลวง ไปกิจิ๋วของอ้วนเสี้ยวครั้งที่ซีจิ๋วโดนโจโฉตีแตกและยังหนีไปอาศํยอยู่กับเล่าเปียวที่เกงจิ๋ว จนได้ขงเบ้ง เป็นที่ปรึกษา จึงได้เริ่มฟื้นตัวเพื่อการกอบกู้ราชวงศ์ฮั่นอีกครั้ง


โดยร่วมมือกับซุนกวนแห่งง่อก๊ก ปราบปรามกองทัพกำลังพล 1 ล้านนายของโจโฉ ด้วยยุทธวิธีเรือไฟของจิวยี่ เผาเรือรบและทหารของโจโฉตายหลายแสนนาย


โจโฉต้องหนีเอาตัวรอดอย่างน่าเวทนา ระหว่างหลบหนีได้หัวเราะว่าจิวยี่และขงเบ้งไม่ได้เก่งสมคำล่ำลือ ถ้าเป็นเขาเองจะซุ่มทหารไว้ แล้วก็ได้หัวเราะแบบนี้ถึงสามครั้งสามสถานที่


แต่แล้วต้องกลของขงเบ้งที่ให้ทหารไปซุ่มรอทั้งจูล่ง เตียวหุย กวนอู และได้วานขอชีวิตต่อกวนอู เพราะโจโฉก็เคยไว้ชีวิตกวนอูและเลี้ยงดูอย่างดี สุดท้ายโจโฉเหลือทหารเพียงหยิบกำมือกลับเมือง


หลังจากยุทธการนี้เล่าปี่ได้ยึดเมืองเกงจิ๋วและขยายอาณาเขตออกไปกว้างขวาง ได้แม่ทัพ และกุนซืออีกมากมาย จิวยี่ได้ใช้กลอุบาย ให้แต่งงานกับซุนชั่งเซียงพระขนิษฐาในพระเจ้าซุนกวน เป็นอีก 1 ตำนานของบุรุษสตรีงามคู่กัน แต่ขงเบ้งก็แก้กลได้


เล่าปี่มีเหล่าแม่ทัพผู้จงรักภักดีมากมาย มีทั้งขงเบ้ง ฉายามังกรหลับและบังทอง ฉายาหงส์อ่อน สองกุนซือดังแห่งยุคช่วยเหลือภายหลัง สามารถครอบครองดินแดนเสฉวนได้ในชื่อว่าจ๊กก๊ก


ในภายหลังจากที่กวนอูเสียท่าแก่ลิบอง และลกซุน แม่ทัพแห่งง่อก๊ก ได้ตั้งตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองราชย์ที่เสฉวนได้ 3 ปีตามคำร้องขอของเสนาธิการของพระองค์ เฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระจักรพรรดิเจียงบู๊เต้ ทรงยกทัพหลวงไปเพื่อล้างแค้นให้กวนอู


แต่เตียวหุยก็ยังโดนลอบสังหารจนถึงแก่ความตาย ยิ่งทำให้เล่าปี่ทรงคิดแต่จะล้างแดนง่อก๊กให้พินาศ แต่ก็ถูกลอบวางเพลิงค่ายทหารโดยลกซุน แม่ทัพแห่งง่อก๊ก จนต้องเสด็จหนีลี้ภัยและประชวรหนักจนสวรรคตที่เมืองเป๊กเต้เสีย (จีนกลาง - ไป๋ตี้เฉิง ปัจจุบันอยู่ในเขตมหานครฉงชิ่ง) สิริพระชนมายุ 63 พรรษา


พระราชโอรสองค์โต พระนาม เล่าเสี้ยน (อาเต๊า) ได้ขึ้นครองราชย์ต่อ แต่อาเต๊าเป็นคนไม่มีสติปัญญา ทรงเชื่อฟังขุนนางชั่ว ขันทีโฉด สุดท้ายต้องเสียดินแดนให้ วุยก๊ก


เล่าปี่ถือได้ว่าเป็นตัวละครเอกในเรื่องสามก๊ก โดยล่อกวนตง มีลักษณะของผู้มีคุณธรรมอย่างเต็มเปี่ยม ไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร ไม่เคยใช้เล่ห์กลในทางมิชอบ ซึ่งตรงข้ามกับโจโฉ โดยสิ้นเชิง เป็นผู้ที่นบน้อมต่อคนทุกชนชั้น จึงได้รับการเรียกขานจากยาขอบว่า "ผู้พนมมือแด่ชนทุกชั้น"


น้องร่วมสาบาน
เตียวหุย
กวนอู


พระมเหสี
กำฮูหยิน
บิฮูหยิน
ซุนฮูหยิน
งอฮูหยิน


พระราชโอรส
เล่าเสี้ยน
เล่าฮอง
เล่าลี









ขอบคุณ

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
thaisamkok.com





............................................................