รัฐบาลพม่ามีนโยบายส่งเสริมสิทธิชาย-หญิงเท่าเทียมกัน เตรียมประกาศใช้กฏหมายเกณฑ์ทหารใหม่ กำหนดให้ชายที่มีอายุ 18 ปี(บริบูรณ์)-45 ปี และผู้หญิงอายุ 18-35 ปีต้องเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปีในภาวะปกติ หรือ 5 ปีในภาวะฉุกเฉิน
.
กฏหมายนี้กำหนดโทษการฝ่าฝืนไว้ครบเครื่องได้แก่
.
(1). ไม่ขึ้นทะเบียนทหารเมื่ออายุ 18 ปี > จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
(2). หนีทหาร หรือเจตนาทำร้ายร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร > จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ.
ข้อยกเว้นได้แก่ ข้าราชการ นักเรียน-นักศึกษา ผู้ต้องขัง ผู้ที่ต้องดูแลพ่อแม่เพียงลำพัง ได้รับการยกเว้นชั่วคราว และอาจถูกเรียกตัวเมื่อไรก็ได้
.
พระสงฆ์ ผู้ที่ต้องปฏิบัติกิจทางศาสนา ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหรือหย่ากับสามีและมีบุตรที่ต้องดูแล และผู้ทุพพลภาพ(พิการ) ได้รับการยกเว้นโดยสิ้นเชิง
สรุปคือ กฏหมายนี้มุ่งส่งเสริมสิทธิสตรีเท่าเทียมกัน (เกณฑ์ทหารเท่าผู้ชาย) และอาจมีนัยแฝงเพื่อส่งเสริมให้ชาวพม่าผลิตลูกให้มากขึ้น เนื่องจากถ้าผู้หญิงไม่ต้องการเกณฑ์ทหาร... ต้องรีบสละโสด และมีลูก จึงจะได้รับข้อยกเว้น
ปัจจุบันพม่าเป็นประเทศที่มีกำลังทหารมากถึง 492,000 นาย และหลังกฏหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลแล้ว (เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2553) จะทำให้พม่ามีปริมาณทหารสูงมากชาติหนึ่งในอาเซียน
10 อันดับประเทศที่มีกำลังทหารประจำการมากที่สุดได้แก่ จีน สหรัฐฯ อินเดีย รัสเซีย เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ปากีสถาน อิหร่าน ตุรกี และอียิปต์
ทั้งนี้และทั้งนั้น... ปริมาณอย่างเดียวไม่ได้เป็นปัจจัยชี้ขาดสมรรถภาพของกองทัพ เช่น เกาหลีใต้มีกำลังทหารประจำการน้อยกว่าเกาหลีเหนือ แต่มีสมรรถภาพในการรบประมาณ 40 ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากคุณภาพคน การฝึกอบรม อาวุธ ยุทธวิธี และข้อมูลข่าวสารเหนือกว่า ฯลฯ
ประเทศในอาเซียนที่มีทหารประจำการใกล้เคียงกับพม่าได้แก่ อินโดนีเซีย (316,000) และไทย (314,000) เนื่องจากมีประชากรค่อนข้างมาก, ส่วนชาติที่พัฒนาระบบอาวุธไปไกลน่าจะเป็นสิงคโปร์ และมาเลเซีย เนื่องจากเป็นชาติที่ร่ำรวย
เดิมพม่าใช้วิธีเกณฑ์คนจากบางหมู่บ้าน หรือจับเด็กตามสถานที่สาธารณะไปฝึกเป็นทหารเกณฑ์ (ไม่มีการเกณฑ์ทหาร) ประกอบกับคนเก่งๆ แย่งกันเข้าโรงเรียนนายร้อยฯ และห้ามลาออกจากกองทัพ ทำให้ทหารมีฐานะคล้ายกับเป็นชนชั้น หรือ "วรรณะ (caste)" ชั้นสูง ไม่ปะปนกับคนที่ไม่ใช่ทหาร
มีความเป็นไปได้ว่า สังคมพม่ามีสภาพเสมือนหนึ่งมีวรรณะ ในสายตาของรัฐบาลดังต่อไปนี้
.
(1). ทหารเป็นเสมือนชนชั้นสูง > นายทหารมีฐานะคล้าย "อำมาตย์", ส่วนทหารชั้นล่างมีฐานะไม่สูงเท่าไร
.
(2). ประชาชนเป็นเสมือนคนสามานย์(สามัญ = ทั่วไป) > คล้่าย "ไพร่" ของไทยเดิม
.
(3). นักบวช เช่น พระภิกษุ สามเณร ฯลฯ > คล้าย "คนนอกวรรณะ" (ยกเว้นสึกหรือลาสิกขาบท จะกลับไปสู่ข้อ 2.)
การเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่จะทำให้ขนาดของกองทัพพม่าโตขึ้นมาก แรงงานหายไปจากภาคการผลิต-บริการจำนวนมาก
.
เดิมพม่าเป็นประเทศที่ส่งออกแรงงานไปทำงานต่างประเทศมาก โดยเฉพาะวิศวกร ช่างเทคนิคนิยมไปทำงานเดินเรือ หรือทำงานในสิงคโปร์, แรงงานระดับล่างนิยมไปทำงานในไทย
.
การเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่น่าจะทำให้ส่งออกแรงงานได้น้อยลงในระยะสั้น
.
ทว่า... อาจทำให้ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็วในระยะยาว เนื่องจากสาวๆ ที่ไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์ต้องรีบแต่งงาน รีบมีลูก เพื่อจะได้ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร
เอาเรื่องราวข่าวคราวของประเทศเพื่อนบ้านมาบอกกล่าวกันครับ ได้แต่หวังว่าไทยเราคงไม่มีกฎหมายเกณท์หญิงสาวไปเป็นทหารนะครับให้สาวๆเขาสมัครใจรับใช้ชาติด้วยความเต็มใจดีกว่า.....
ข้อมูลจากhttp://health2u.exteen.com/20110116/en-1
Bookmarks