ข้อธรรม จากในเล่มหนังสือ "ชาติสุดท้าย (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
" อาลัยองค์หลวงตาพระมหาบัวยิ่ง
อ่านกันให้จบเถิดนะ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ตัวของทุกท่านทั้งหลายตลอดสิ้นกาลนานเทอญฯ
ลูกขอกราบแทบเท้าหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ด้วยเศียรเกล้า
ลูกขอน้อมนำธรรมนี้เผยแผ่ เพื่อยังประโยชน์แก่โลก แก่พระพุทธศาสนา
เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา มาตาปิตุบูชา อาจาริยบูชา
ขอธรรมนี้จงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านผู้ศึกษาทั้งหลาย จงหยั่งลงในใจให้เกิดธรรม เกิดปัญญา
รู้แจ้งเห็นแจ้งในธรรม ตามเหตุปัจจัย ตามปัญญาของแต่ละท่านพึ่งสั่งสมมาเถิด
*******************************************
๑
“…สมบัติอะไรก็ตามในโลกนี้ สู้ธรรมสมบัติภายในใจไม่ได้
สมบัติภายในใจเลิศเลอสุดยอด
ขอเพียงให้ใจกับธรรมได้สัมผัสกัน มันจะแสดงฤทธิ์เดชเป็นที่อัศจรรย์
เมื่อ “หัวใจได้ความสง่างาม” แล้ว
อยู่ใต้ร่มไม้ร่มใด ภูเขาลูกใด ถ้ำหรือเงื้อมผาแห่งใด
สถานที่แห่งนั้นย่อมพลอยสง่างามตามไปด้วย
“สติ” นี่เองจะเป็นกุญแจดอกสำคัญ
ไขไปสู่ประตูพระไตรปิฏกภายใน เพื่อเปิดเข้าไปสู่ประตูพระนิพพาน...”
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจาก คำปรารภ ในหนังสือ ๒๘ พระอรหันต์แห่งกรุงรัตนโกสินธทร์ ๒๕๕๒ : หน้า ๗
๒
“...ผู้ปฏิบัติจงตั้งสติและปัญญาให้เข้าใกล้ชิดต่อนามธรรม คือขันธ์สี่นี้
ทุกขณะที่ขันธ์นั้นๆ เคลื่อนไหว คือ
ปรากฏขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป และไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ประจำตน...
ขันธ์ทั้งห้าเป็นบ่อหลั่งน้ำตาของสัตว์ผู้ลุ่มหลงนั่นเอง
การพิจารณาให้รู้ด้วยปัญญาชอบในขันธ์ และสภาวะธรรมทั้งหลาย
ก็เพื่อจะประหยัดน้ำตาและตัดภพชาติให้น้อยลง
ให้ได้รับสุขอย่างสมบูรณ์นั้นเอง…”
ปัญญาอบรมสมาธิ : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ปัญญาอบรมสมาธิ (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๒๙-๓๐.
๓
“...จิตที่บริสุทธิ์นี้ฟอกขันธ์ ฟอกธาตุฟอกขันธ์
ฟอกโดยหลักธรรมชาติฟอกอยู่อย่างนั้น
แล้วเวลาเข้าที่เดินจงกรม นั้งสมาธิภาวนา จิตส่งเข้าข้างในนี้ยิ่งเป็นการฟอก
ภาวนาเท่าไรก็ยิ่งฟอกเข้าไปเรื่อย ๆ มันสะอาด
ในเวลาตายแล้วอัฐิก็กลายเป็นพระธาตุได้
แต่ถ้าหากว่าท่านอธิษฐานไม่ให้เป็นพระธาตุนี้อาจไม่เป็นนะ
มันก็ไม่แน่นักนะ เพราะจิตของท่านมีอำนาจนี่...”
เพชรน้ำหนึ่ง (๑๓ ตุลาคม ๒๕๓๙) : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ เพชรน้ำหนึ่ง ๒๕๔๐ : หน้า ๙๔.
๔
“...ไปที่ไหนทุกวันนี้มักจะเทศน์ทางภาวนา เพราะความสงสาร
อยากให้ตั้งหลักตั้งเกณฑ์ไว้ในจุดภาวนา
ถึงจะไม่ได้ความแปลกประหลาดอัศจรรย์
การภาวนานี้มีอานิสงส์มากยิ่งกว่าการสร้างบุญทั้งหลายนะ
จะได้สร้างสมบุญตลอด จะรู้เห็นอะไร ไม่เห็นอะไรก็ตาม
ส่วนบุญกุศลเกิดขึ้นจากการภาวนา เป็นฐานรากสำคัญ และมีอานิสงส์มากด้วย
จึงขอให้พากันตั้งอกตั้งใจทำภาวนา บำรุงลำต้นให้ดี
กิ่งก้านสาขาดอกใบ จะแตกกระจายออกไป ...”
ภาวนามีอานิสงส์มากกว่าบุญทั้งหลาย : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ จิตตภาวนา ๒๕๕๒ : หน้า ๕๐
๕
“...สติเป็นของสำคัญมากในทางความเพียร
ถ้าขาดสติวรรคใดตอนใด เรียกว่าขาดความเพียรแล้ว
เดินจงกรมอยู่ไม่มีความหมาย นั่งสมาธิอยู่ก็ไม่มีความหมาย
อิริยาบทต่าง ๆ ถ้าขาดสติแล้ว
เรียกว่าขาดความเพียรในการชำระกิเลส
มีสติกำกับอยู่เท่านั้น
เรียกว่าเจริญภาวนาเพื่อทำจิตให้สงบ...”
ฝากมรดก (วัดแพร่ธรรมาราม) ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒) : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ญาณสันปันโนบูชา ๒๕๕๒ : หน้า ๔๑
๖
“...ถ้านักบวชเราปฏิบัติตนไม่ได้แล้ว ไม่มีใครจะไปได้อย่างง่ายดาย
เพราะนักบวชนี้โอกาสอำนวยทุกอย่าง
ทุกสิ่งทุกอย่างโลกเขายอมรับหมด
ยังถือเป็นสรณะเป็นที่พึ่งที่ยึดที่เกาะอีกด้วย
ถ้าใครมีความเพียรมากมีความเด็ดเดียวอาจหาญทางหลักธรรมหลักวินัยเท่าไร
ก็ยิ่งเป็นที่เคารพเลื่อมใสของประชาชน
ถ้าเราปฏิบัติต่อธรรมเหล่านี้ไม่ได้แล้ว
มันก็หมดหนทางที่จะก้าวออกจากกองทุกข์ทั้งหลายได้…”
เรื่องของกิเลส (๑๕ สิงหาคม ๒๕๓๗) : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ อะไรจริงยิ่งกว่าธรรม ๒๕๓๗ : หน้า ๗๑.
๗
“...มัคคาวรณ์ สัคคาวรณ์ (สิ่งกีดขวางสวรรค์ นิพพาน) ไม่มี
เพศตั้งขึ้นแล้ว ทางสังคมยอมรับกันทั้งธรรมยุติ และมหานิกาย
นี่เป็นความยอมรับกันทั่วหน้ากันแล้วในสังคม
ส่วนธรรมวินัยก็เป็นที่เปิดทางให้แล้วสำหรับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ไม่มีคำว่านิกายนั้นนิกายนี้
ขอให้เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเท่านั้น
เป็นศากยบุตรของพระพุทธเจ้าได้เสมอหน้ากันหมด...”
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ หยดน้ำบนใบบัว พิมพ์ครั้งที่ ๑๕ : หน้า ๑๖๕.
๘
“...เราเป็นนักบวช มีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้า
มุ่งหน้าต่อมรรคผลนิพพาน
จงเห็นงานประจำเพศและความประสงค์ของตน
คืองานเพื่อนิพพาน ว่าเป็นงานจำเป็นเหนือชีวิต
เพราะงานนี้เป็นงานเพื่อไปแล้วไม่กลับมา ผลที่เกิดจากงานนี้คือ วิมุตติ
หลุดพ้นไปแล้วหมดความวกเวียน
โปรดพากันพากเพียรจนสุดกำลังของตน
จะต้องเห็นผลเป็นประจักษ์ใจ ในวันนี้วันหน้าไม่ต้องสงสัย...”
เทศน์ในที่ประชุมสงฆ์ วัดป่าบ้านตาด ๒๑ กันยายน ๒๕๐๕ :
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ทางร่มเย็น ๑๕๓๗ : หน้า ๑๒๑.
๙
“...ความทุกข์เพราะงานทั้งหลายที่ผ่านมา ไม่มีทุกข์ใดมากยิ่งกว่างานฆ่ากิเลส
งานนี้ยอมรับว่าทุกข์มากจริง ๆ
แต่เวลาตีผ่านมันไปแล้ว ไม่มีอะไรที่จะเลิศยิ่งกว่า
พูดง่าย ๆ ก็ว่ามันคุ้มกัน ไม่ได้เสียดายกำลังเลย ที่ร่างกายทรุดโทรมมานี้ผมก็รู้
อย่างท้องเสียเป็นต้น ผมก็ทราบเรื่องของมัน
นิสัยผมมันหยาบและผาดโผนจริงจังกับทุกข์อย่าง ไม่มีคำว่าพอดี
ฉะนั้น เวลาประกอบความเพียรฆ่ากิเลสจึงผาดโผนไปตามนิสัย
ไม่งั้นก็ไม่ทันกับความหยาบที่เป็นฝ่ายต่ำของตน...”
ศาสนาคือน้ำดับไฟ (๒๓ กรกฏาคม ๒๕๒๔)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ทางพักใจ ๒๕๒๔ : หน้า ๖๙.
๑๐
“...การฆ่ากิเลสทุกประเภท เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า
ต้องใช้ปัญญาทั้งมวล สมาธิเป็นแต่เพียงว่าตะล่อมกิเลสให้เข้าสู่จุดรวมตัว
ไม่ฟุ้งซ่านรบกวนใจเท่านั้น
ที่เรียกว่าจิตสงบ ก็คือกิเลสมันนอนก้น
เหมือนกับตะกอนนอนก้นโอ่ง นอนกองอยู่ในนั้น
แล้วจะปฏิบัติต่อตะกอนอย่างไรบ้าง
นั่นเป็นอีกแง่หนึ่ง นั้นเป็นเรื่องของ ปัญญา...”
นิพพานมิใช่อัตตา มิใช่อนัตตา (๓๐ สิงหาคม ๒๕๒๓)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ นิพพานคือนิพพาน (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๒๖.
๑๑
“...นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ ความรักอันเสมอด้วยตนไม่มี
นี่เป็นบทธรรมที่ซึ่งมาก
เข้ากันได้กับเจตนาของทุกท่านที่มุ่งมาปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์
เพราะความรักตนเป็นเหตุให้เสาะแสวงอรรถธรรมจากตำหรับตำรา
จากครูจากอาจารย์ ได้ทราบข่าวว่าครูอาจารย์องค์ใด
จะเป็นที่ให้ความร่มเย็นเป็นคติเครื่องเตือนใจ
เป็นอุบายพร่ำสอนเราได้ ย่อมเสาะแสวงหาครูอาจารย์องค์นั้น ๆ
เป็นธรรมดาของความรักตน...”
ความรักเสมอตนไม่มี(๑๐ กรกฏาคม ๒๕๒๓)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ความรักเสมอตนไม่มี (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๒๖.
๑๒
“…จวนตายเท่าไรยิ่งเป็นห่วงโลกมากสงสารโลกมาก เป็นอยู่ในหัวใจนี่
ท่วมท้นล้นฟ้าล้นแผ่นดิน อำนาจแห่งเมตตา
พระพุทธเจ้าท่านสอนโลกสอนด้วยความเมตตาล้วน ๆ ไม่มีโลกามิสอะไรเข้าเจือปนเลย
มันรู้ชัดนี่ รู้ชัดในหัวใจของเราซึ่งตัวเท่าหนูนี่ มันรู้นี่ มันไม่ได้หวังอะไรในโลกนี้
ไปไหนมาไหนไม่ได้หวังอะไรแหละ หวังแต่หัวใจโลกเท่านั้น
สงเคราะห์สงหาไปตามกำลังความสามารถของเรา
ตัวของเราเองเราไม่ได้หวัง เราพอเสียทุกอย่างก็บอกพอ
มันพออยู่นี้ประจำจะว่าไง พอเป็นอนันตกาล
นิพพานเที่ยงจะผิดไปไหนเมื่อหัวใจพอแล้ว นิพพานเที่ยงเท่านั้นเอง...”
พูดเสียบ้าง ไม่ใช่คุย (๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๐)ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ พูดเสียบ้าง ไม่ใช่คุย (๒๕๔๑) : หน้า ๒๘.
๑๓
“...ถ้าพูดถึงเรื่องของใจเรา เราก็บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว หากิเลสตัวใดมาแทรกไม่มีแล้วเวลานี้
ถึงจะประกาศเป็นว่าเรานี้คือพระอรหันต์ก็จะผิดไปไหนถ้าจะพูด
พระพุทธเจ้ายังพูดได้ ครั้งพุทธกาลยังพูดได้
ธรรมอันเดียวกัน ผู้รู้ผู้เห็นธรรม ธรรมแบบเดียวกัน ทำไมเราจะพูดไม่ได้
กิเลสตัวไหนจะมาเย็บปากหลวงตามหาบัวให้มาเย็บ เราจะฟาดให้มันหงายลงไปเลย
เราปฏิบัติ เราแทบเป็นแทบตาย เราก็รู้ของเรา ผลเราได้มากน้อยเพียงไรเรารู้ของเรา
ความบริสุทธิ์วิมุตติหลุดพ้นเราก็เห็นในหัวใจของเราแล้วจะนำออกมาพูดไม่ได้เหรอ
จะใหเกิเลสเย็บปากหมดเหรอ ไม่เชื่อถือกันหาว่าโอ้อวดหรือ...”
พระอรหันต์แห่งประวัติศาสตร์ (๓ กันยายน ๒๕๔๑)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ พระอรหันต์ไม่สูญจากโลก (๒๕๔๑) : หน้า ๑๕๓.
๑๔
“...ฟังให้ชัดเสียท่านทั้งหลายมาฟังธรรมเรา เราปฏิบัติมา
ไม่ปฏิบัติมาเพื่อโกหกท่านทั้งหลาย
อะไรในโลกอันนี้จะเหนือธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน นี่ละ เลิศเลออยู่ตรงนี้
นินทา สรรเสริญ โลกธรรม ๘ ไม่มีในจิตของพระอรหันต์
มันตกไปเองเหมือนหยดน้ำลงใบบัว
ตกพับไหลกลิ้งไปเลย ๆ ไม่ขึมขาบกัน
นี่ละจิตที่บริสุทธิ์เต็มที่แล้วกับโลกทั้งหลาย...”
ธรรมธาตุ (๒๔ กันยายน ๒๕๕๐) : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ ธรรมเปิดโลก (๒๕๔๒) : หน้า ๑๑๘-๑๑๙.
๑๕
“...จิตเป็นธรรมชาติไม่มีกาลสถานที่เป็นเวล่ำเวลา
เป็นธรรมชาติที่รู้อยู่ตลอดเวลาฉันใด สภาพทั้งหลายซึ่งจะเป็นของมีอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเปิดใจออกรับกันแล้ว ทำไมจะรู้จะเห็นไม่ได้ ว่าใจจะหยั่งไม่ถึง มีที่ไหน
อะไรจะละเอียดแหลมคมยิ่งกว่าใจ
ขอให้ปรับใจให้ถึงเถิด ไม่เคยรู้ก็รู้ ไม่เคยเห็นก็เห็น
แต่จะพูดออกมาเสียทุกแง่ทุกมุมไม่คำนึงถึงเหตุถึงผลนั้น ไม่ใช่เรื่องของผู้รู้
ไม่ใช่เรื่องของปราชญ์ ไม่ใช่เรื่องของผู้รู้โดยอรรถโดยธรรม
ไม่ใช่ผู้ทรงธรรมโดยหลักธรรมชาติแท้ อันเป็นความสำคัญ...”
ความลึกลับซับซ้อนของจิตวิญญาณ (๑๒ เมษายน ๒๕๓๐)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ รุกขมูลเข้าป่า-เข้าเขา (๒๕๔๔) : หน้า ๒๗.
ยังมีต่อ อีกครับ
ขอขอบคุณ FWM
Lumpoo Plongkratok
Bookmarks