หลังจากไปกินข้าวแลงที่เรือนทิดมากลับมาสาวอ่อนครุ่นคิดหา
วิธีจะให้ทิดมาหวนกลับมาหาเธอแต่เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหมดเยื่อใยกับเธอแล้ว
จริง ๆ สิ่งที่เธอหวังก่อนเดินทางมาหนองผือคือที่ดินบริเวณหลังโรงเรียนเบญฯ ในตัว
เมืองเท่านั้นแม่เธอบอกว่าพ่อแม่ทิดมาได้ยกให้เขาครอบครอง เธอเคยเป็นเมียเขาเช่น
กัน เขาน่าจะมีสมบัติให้เธอติดตัวไว้สร้างเนื้อสร้างตัวบ้าง หากแต่มาเห็นเรือนหลัง
ใหญ่ที่ปลูกกลางสวนมะม่วง ไร่ นา วัว ควาย ของทิดมาแล้ว ความตั้งใจที่จะขอ
แบ่งที่ดินในตัวเมืองเริ่มเปลี่ยนไป “น้าว่าเมือเถาะอ่อน อยู่ไปใทบ้านกะเว้าพื้นซื่อๆ
อายเขา” น้าสาวกล่าวเตือนสติ “ซ่างใทบ้านตั่วเดียวนี้อ้ายมาฮ่างมีดีใด้ ข่อยกะเคย
ทุกข์ยากนำเลาคือกัน มาอยู่หนองผือใหม่ ๆ พาข่อยไปซ่าวนาอยู่ตีนภูพุ่น” เธอตอบ
น้าสาวเสียงขุ่น “แต่มึงกะอยู่นำเขาด้ามปีกะหอบลูกหนี เขาหั่งสิออนซอนมึงอยู่หั่นตั่ว”
น้าสาวพูดด้วยความโกรธ ไม่คิดว่าหลานสาวตนจะมีความโลภถึงเพียงนี้ “ซั่นมึงกะอยู่
ผู้เดียวเด้อ มื่ออื่นกูสิเมือหนองไหล” น้าสาวพูดเฉียบขาด “เจ้าหั่นตั่ว !! ชวนให้ข่อย
มาขอแบ่งมูนนำเขาบาดนี่คือมาทิ่มข่อยล่ะน้าสาว” สาวอ่อนพูดด้วยความโกรธเช่น
กัน “คันเจ้าเมือก่อน ข่อยสิบ่ให้เจ้าเลยจักแดง” เธอพูดเฉียบขาด “เบิ่งแล้วเมียอ้าย
มาสู้ข่อยบ่ได้ดอก บ่ปากบ่เว้า บ่ฉลาดเฉลียวอีหยัง” สาวอ่อนหมายมั่นว่าเธอต้องได้ใน
สิ่งที่ต้องการ ตั้งแต่เลิกรากับสามีครูกลับมา เธอไม่มีสิ่งใดติดตัวกลับมา ครั้นจะแต่ง
งานใหม่กับหนุ่มใหญ่ที่บ้านเก่าเธอก็เกรงว่าเขาจะพาเธอทำไร่ทำนา ซึ่งเธอไม่เคย
ปรารถนาแม้แต่น้อย หากได้หวนคืนกลับมาหาทิดมา เธอจะได้มีที่ทางค้าขายในเมือง
หรือเธอจะพูดกับทิดมาตามตรงว่าเธอมาที่หนองผือไม่ได้มาเพียงเพื่อเยี่ยมยามญาติพี่น้อง
เท่านั้น เธอจะขอให้เขาแบ่งที่ทางในเมืองให้เธอบ้าง หากแต่พอนึกเห็นสีหน้าสาวเปี่ยง
ที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างอ้ายมาของเธอ อ้ายมาที่ไม่มีสมบัติติดตัวในอดีตกลายเป็น นาย
ฮ้อยมาผู้มั่งคั่ง วัว ควาย ไร่นา มีนับไม่ถ้วน มีคนนับหน้าถือตา สมควรจะมีเมียที่
เฉลียวฉลาด นำสมัยเป็นที่เชิดหน้าชูตาเช่นเธอมากกว่าสาวเปี่ยงที่วันทั้งวันเอาแต่ ทอ
ผ้า ทอเสื่อ นุ่งผ้าซิ่น เสื้อย้อมคราม หากต้องเข้าเมืองมิต้องขายหน้าหรืออย่างไร
ต้องเป็นเธอจึงจะเหมาะสมเธอเคยใช้ชีวิตอยู่กับเจ้า กับนาย ไปเมืองไทยเมืองล่างกับ
สามีครูบ่อยครั้ง ย่อมรู้ว่าต้องปฎิบัติอย่างไรเมื่อแขกไป ไทยมา ไม่ใช่จีบหมากจีพลู
ใส่จานไว้รอถ่าเช่นสาวเปี่ยง สาวอ่อนค่อนขอดสาวเปี่ยงในใจ
นับตั้งแต่สาวอ่อนปรากฏตัวที่หนองผือ ทั้งหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยต่างกระชุ่ม
กระชวย ตกค่ำเสียงซุงเสียงแคน ของหนุ่ม ๆ ที่แวะเวียนมาจ่ายผญาเกี้ยวสาวอ่อน
ดังแข่งกันครึกครื้นจนหัวกระไดบ้านพ่อจารย์ดนไม่เคยแห้ง แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าสาว
อ่อน คืออดีตเมียรักทิดมาหากแต่ความงามและนำสมัยของเธอทำให้ทุกคนมองข้ามไป
สาวอ่อนนั้นหมายมั่นปั้นมือที่จะหวนคืนหาทิดมาให้ได้ แต่เธอก็ไม่รังเกียจที่จะตอบก
ลอนผญาเกี้ยวพาราสี กับหนุ่ม ๆ อย่างน้อยเธอจะแสดงให้ทิดมาเห็นว่าแม้เธอจะผ่าน
การมีครอบครัวมาแล้วถึงสองครั้งสองครา แต่ความงามของเธอยังเป็นที่ปรารถนาของ
หนุ่ม ๆ เช่นนี้แล้วทิดมาจะไม่เสียดายเธอหรืออย่างไร แต่จนแล้วจนรอดทิดมาก็ไม่ได้
มีท่าทีว่าจะหันมาเมียงมองเธอเลยแม้แต่น้อย เขายังใช้ชีวิตปกติกับสาวเปี่ยงเมียรัก
กลางวันเขาต้อนวัวควายออกไปเลี้ยงกลางทุ่ง ส่วนสาวเปี่ยงก็ยังทอผ้า ทอเสื่อกับแม่
ของเธอทุกวัน วันนี้เธอไปทอผ้ากับแม่เธอตามปกติ แต่สภาพร่างกายเธอไม่ปกติ ลาย
ผ้าแพรขิตที่เธอคุ้นเคย เหตุใดจึงหมุนเวียนชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนจนแทบทนไม่ได้
ลุกออกจากกี่ว่าจะนั่งพักสักครู่แต่พอยืนได้ก็เซถลา พิงเสาเรือน “เอื้อยเปี่ยงเจ้าเป็น
หยัง” หนุ่มน้อยลีน้องชายคนเล็ก เอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวยืนพิงเสาเรือนหลับตานิ่ง “จัก
เอื้อยหวิง..ลุกจากแป้นกี่ว่าสินอนจักคราวแฮ่งหวิงแฮง” เธอยังคงหลับตาตอบน้อง
ชาย “เจ้าสิฮากซ่ำบ้อ” เด็กชายลีถามสายตาเป็นห่วง พรางพยุงพี่สาวไปโค่งคออาเจียน
โคนต้นขนุนหนุ่มน้อยลีลูบหลังให้ไม่ยอมห่าง “ให้ข่อยไปเอิ้นพี่อ้ายมาเบิ่งเจ้าบ่” เด็ก
ชายลีเห็นว่าควรจะเรียกให้พี่เขยมาดูอาการ “บ่เป็นหยังดอก พี่อ้ายมึงไปเลี้ยงควาย
เอื้อยไคแหน่แล้วล่ะ” พูดพรางเดินไปนั่งแคร่ใต้ถุนเรือน “ซั่นข่อยไปหามดแดงให้เจ้าดม
เด้อ” พูดพรางวิ่งเข้าสวนหลังเรือน กลับมาพร้อมมดแดงเต็มกำมือ ขยี้แล้วจ่อตรงจมูกพี่
สาว แพทย์ฮงกลับจากรักษาคนป่วยทางคุ้มเหนือ เห็นลูกสาวนอนซมโดยมีน้องชาย
ปฐมพยาบาลไม่ห่าง “เอื้อยมึงเป็นหยังบักลี” แพทย์ฮงถามลูกชายคนเล็ก “ข่อยหวิงอี
พ่อ” หมอยาเฒ่าผู้แก่ประสบการณ์ขมวดคิ้ว “เลือดมึงขาดจักเดือนแล้ว” แพทย์ฮงเอ่ย
ถามลูกสาวที่นอนหลับตานิ่ง เมื่อได้ยินพ่อถามเช่นนั้นสาวเปี่ยง ลืมตาขึ้นทันที “เจ้า
คึดว่าข่อยถือพาบ้ออีพ่อ” เธอถามพ่อเสียงเบา พรางยกมือขึ้นลูบท้องตัวเอง “แล้วเลือด
มึงขาดจักเดือนแล้ว” แพทย์ฮงย้ำถาม สาวเปี่ยงมีสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบ “บ่แม่นสอง
เดือนแล้วบ้ออีพ่อ” แพทย์ฮงเดินขึ้นเรือนไปปล่อยให้ลูกสาวจมอยู่กับความคิดของตน
เอง สามปีที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับอ้ายทิด เธอหวังทุกวันว่าสักวันเธอจะมีทายาทให้เขา
วันนี้สมใจแล้ว พ่อบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หากเป็นเวลาปกติ คงเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ไม่น้อย แต่เวลานี้ สาวอ่อน อดีตเมียรักอ้ายทิดยังอยู่ที่หนองผือ แล้วอ้ายทิดจะยินดี
สักเพียงใด หากอ้ายทิดอยากหวนกลับไปหาเมียเก่าในขณะที่เธอตั้งครรภ์เขาจะกระอัก
กระอ่วนใจหรือไม่ สาวเปี่ยงคิดด้วยจิตใจที่หมองเศร้า....
Bookmarks