กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 12

หัวข้อ: ..รอยรัก รอยอดีต ภาค 2 (อวสาน)

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    มิสบ้านมหา 2010
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ เขมราฐ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    กลางท่งเมืองเขมฯ
    กระทู้
    1,946

    ..รอยรัก รอยอดีต ภาค 2 (อวสาน)

    เสียงผ่าฟืน กลิ่นควันไฟปลุกให้สาวเปี่ยงตื่นจากหลับใหล

    ฟ้ายังไม่สางใครมาสุมไฟแต่เช้าตรู่ มองดูที่นอนข้าง ๆ ว่างเปล่าอ้ายทิดตื่นก่อนเธอ

    เธอลุกเก็บมุ้งเก็บเสื่อ เดินเข้าครัวเห็นสามีกำลังลังตั้งอกตั้งใจพัดไฟในเตาฮางอย่าง

    ขะมักเขม้น “เจ้าเฮ็ดหยังอ้ายทิด”สาวเปี่ยงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ทิดมาหันมายิ้มให้

    เมียรัก “ดังไฟนึ่งข้าว เตาฮางนี่ดังไฟยากคัก” ทิดมาตอบยิ้มเจื่อน ๆ “แม่นเจ้าคึดดู๋อี

    หยังลุกมาแต่ฟ้าบ่ทันสาง” สาวเปี่ยงมานั่งลงข้าง ๆ ฉวยพัดจากมือทิดมาไปพัดไฟใน

    เตาฮางเอง “เจ้าถือพาคาท้อง ลุกมานึ่งข้าวแต่เดิกย่านหวิงย่านเวียนพาหวดข้าวล้ม”

    ทิดมาตอบไม่เต็มเสียง กลัวว่าเมียรักจะจับได้ว่าเขาเป็นห่วงเธอ และเห่อลูกมากเพียง

    ใด สาวเปี่ยงยิ้มขำความคิดของสามี “เว้าคือข่อยขี้แบ๋คักเน๊าะอ้ายทิด” ว่าแล้วเธอก็จัด

    แจงเอาน้ำใส่หม้อนึ่งตั้งไฟ เอาข้าวเหนียวที่แช่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนใส่หวด ทิดมายังคงนั่ง

    มองเมียรักนึ่งข้าวด้วยสายตาเปี่ยมรัก พอเธอหันมามอง ก็หลบตาปิดซ่อนสายตา

    ห่วงใยรักใคร่นั้นอย่างมิดชิด “ซั่นข่อยสิไปตักน้ำกิน เอง” พูดแล้วก็ฉวยหาบครุ ไม้

    คานเดินผิวปากลงเรือนไป สาวเปี่ยงมองตามหลังสามีด้วยสายตารักใคร่ บูชา ตั้งแต่

    อยู่กินกันมาเธอไม่เคยได้ยินสามีผิวปากอารมณ์ดีอย่างนี้มาก่อน

    มาถึงน้ำส่าง มีหลายคนมานั่งเฝ้ารอน้ำที่กำลังไหลออกจากตาน้ำ หน้าแล้งปี

    นี้แล้งหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา น้ำส่างท่ง ไม่เคยแห้งขอดจนต้องรอถึงเพียงนี้ มีหาบครุ

    ตั้งเรียงรายรอแล้วหลายเจ้า ทิดมาวางหาบครุเรียงต่อเป็นการเข้าคิวเพื่อตักน้ำ “อ้าย

    ทิด คือได้มาตักน้ำเอง เอื้อยเปี่ยงไปใส” ลูกสาวพ่อจารย์ดนเอ่ยถาม “เขาถือพาคา

    ท้อง ย่านหวิงเวียนพาหาบครุล้ม ข่อยเลยมาตักเอง” ทิดมาตอบ “ผู้ดีกะดีคัก ซ่างบ่

    แบ่งผู้อื่นแหน่ ผัวข่อยนอนบ่ทันลุกอยู่ปานนี่” ลูกสาวพ่อจารย์ดนบ่นให้สามี แต่เป็น

    การบ่นด้วยความรักเสียมากกว่าจะเอือมระอา ทิดมายิ้มไม่พูดต่อ “มื่อวานเอื้อยอ่อนไป

    เฮือนเจ้าบ้ออ้ายทิด หลบมาข่อยเห็นแต่งของ ว่ามื่อนี้สิเมือหนองไหลแต่เช้า” ลูกสาวพ่อ

    จารย์ดนชวนทิดมาคุยระหว่างรอน้ำ ทิดมาฟังด้วยความสงบ ไม่แสดงความคิด

    เห็น “อีแม่ส่วงคัก เลาแฮ่งจ่มย้านเอื้อยอ่อนมาม้างเฮือนเพซานหมู่เจ้า คันแม่นแนวนั้น

    ใทเฮือนข่อยจักสิแนมหน้าเฮือนพ่อแพทย์ฮงแนวได๋” ลูกสาวพ่อจารย์ดนพูดพรางถอน

    หายใจ “คือว่าซุมมานำคะเจ้าเมือก่อนแล้ว แล้วเขาเมือนำไผ๋” ทิดมาเอ่ยถาม “อีพ่อ

    ให้พ่อเด็กน้อยเอาเกียนเมือส่ง เลากะเมือนำต่างเมือยามแม่ย่าทางหนองไหลนำ” ทิดมา

    พยักหน้ารับรู้ เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก จากนี้ไปเขากับเมียรักจะได้อยู่กัน

    อย่างสงบสุข เขานึกขอบคุณเทวดาฟ้าดินที่ส่งลูกมาให้ทันเวลา เขาไม่เคยคิดว่าสาว

    อ่อนที่จากไปไกลถึงหนองงัวชอ จะหวนกลับมาหา ถึงแม้จะกลับมาเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะ

    ตามเขามาถึงหนองผือ สำหรับเขาแล้วไม่เคยคิดจะหวนคืนหาสาวอ่อน แต่หากสาว

    เปี่ยงเมียรักใจคอไม่หนักแน่น ชีวิตคู่ของเขาคงต้องฮ้างต้องป๋ากันจริง ๆ ทิดมาครุ่น

    คิดขณะหาน้ำกลับบ้าน


    มาถึงเรือนเห็นสาวอ่อนนั่งรออยู่บนแคร่ใต้ถุนเรือน เธอจะกลับหนองไหลไปแล้ว เหตุ

    ใดจึงยังมาเรือนเขาอีก พอเห็นทิดมาหาบน้ำเดินเข้ามาสาวอ่อนรีบลุกไปยืนดักหน้าทิด

    มาทันที “ข่อยสิเมือหนองไหลมื่อนี่” สาวอ่อนพูดเสียงเข้มกับทิดมา แววตาแข็งกร้าวไม่

    เหลือท่าทางเศร้าสร้อยน่าเห็นใจอย่างเมื่อวานแม้แต่น้อย ทิดมาวางหาบครุ ไม่ตอบส่ง

    สายตาบอกให้สาวอ่อนพูดต่อ “จั่งได๋เจ้ากะบ่คืนหาข่อย เจ้าสิให้ข่อยเมือมือเปล่าบ้ออ้าย

    มา” สาวอ่อนบอกความประสงค์ของเธออย่างไม่อ้อมค้อม ทิดมามีสีหน้าประหลาดใจ

    สาวอ่อนพูดหมายถึงสิ่งใด หากแต่เขาไม่ถาม ในใจคิดถึงเมียรักว่าเห็นสาวอ่อนมานั่ง

    รอเขาที่หรือไม่ “เจ้าสิบ่ให้หยังข่อยติดมือเมือเฮ็ดเมือส่างเลยบ้อ ข่อยกะเคยเป็นเมียเจ้า

    ลูกกะได้นำกัน” ทิดมาได้ฟังแล้วมองหน้าสาวอ่อนเขม็งในใจโกรธกรุ่นไม่คิดว่าอดีตเมีย

    รักจะโลภถึงเพียงนี้ “มันตายแล้ว ย่อนเจ้าหอบมันไปกลางป่ากลางดง ยังมีหน้ามาว่ามี

    ลูกนำกัน เจ้าของเป็นผู้ฆ่ามันแท้ ๆ” ทิดมาพูดด้วยความโกรธ สาวเปี่ยงได้ยินเสียงคน

    พูดคุยกันใต้ถุนเรือนเลยลงมาดูเห็นสามีกับอดีตเมียรักยืนมองหน้ากันเหมือนกับจะกิน

    เลือดกินเนื้อกันก็ไม่ปาน เธอยืนฟังทั้งสองถกเถียงกันเงียบ ๆ “คันเจ้าบ่พาข่อยมาทุกข์

    มายากอยู่นี่ข่อยกะบ่คึดไปอยู่หนองงัวซอดอก มันตายเจ้ากะมีส่วนนำหั่นล่ะ” สาวอ่อน

    ยังคงไม่ละความพยายาม “เจ้าอยากได้หยังล่ะเอื้อยอ่อน” สาวเปี่ยงที่ยืนฟังอยู่นานเอ่ย

    ถามขึ้น สาวอ่อนยิ้มหวานหันมาหาสาวเปี่ยง “อยากได้ทุนได้ฮอนไว้เฮ็ดไว้ส่างตั่ว

    เอื้อยกะฮ้างกะม้ายเจ้าบ่เห็นใจแหน่ติ บ่มีผู้พาเฮ็ดพาส่าง ผัวเอื้อยเจ้ากะเอาไปแล้ว” ทิด

    มาได้ฟังแล้วเขาโกรธจนหน้าแดง หากแต่ยังคงยืนฟังอย่างสงบ สาวเปี่ยงหน้าตึงด้วย

    ความโกรธ “ดินเมืองหั่นเด้.. ข่อยสิได้ค้าได้ขาย” สาวอ่อนแสดงตัวตนที่แท้จริงของ

    เธอ ทิดมาได้ฟังความต้องการของอดีตเมียรักเขามองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่เหลือ

    อีกแล้วเยื่อใยความสงสารที่มีให้ สาวอ่อนเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเขาไปแล้ว นึก

    ชังความละโมบในตัวเธอ “เซาเว้าแหน่อ่อน ให้จั่งได๋ลูกอ้ายกะสิเกิดใหญ่เป็นท้าวเป็น

    นางอ้ายกะอยากให้เขาอยู่เมืองอยู่นาตั่ว” ทิดมาพูดไม่มองหน้าสาวอ่อนแม้แต่น้อย “เจ้า

    สิบ่ให้หยังข่อยเลยบ้อ” สาวอ่อนยังคงทวงในส่วนของเธอไม่หยุด “ซั่นข่อยสิให้ทองเจ้า

    เมือบาทหนึ่งพอบ่” สาวเปี่ยงเอ่ยปากถามบ้าง ทองเพียงบาทเดียวเทียบไม่ได้กับมูลค่า

    ของที่ดินกลางใจเมืองอุบลแต่ไม่เป็นไรยังดีกว่าไม่ได้สิ่งใดติดมือกลับไป ดูเหมือนทิดมา

    จะไม่อยากให้อะไรเธอ แต่เมือเมียทิดมาเสนอเธอก็ยิ้มระรื่นทันที “ได้ บาทหนึ่งขน

    หน้าแข่งอ้ายมาบ่หล่นดอก” สาวเปี่ยงเดินขึ้นเรือนไปหยิบทอง สินสอดที่ทิดมาใช้สู่ขอ

    เธอเมื่อครั้งแต่งงานกันลงมา “ให้เฮ็ดหยังเปี่ยงอ้ายหามาให้เจ้า” ทิดมาไม่พอใจทองเส้น

    นี้เขาซื้อจากเมืองบางกอกครั้งไปค้าวัวควาย ตั้งใจซื้อให้แม่ แต่เมื่อเขาแต่งงานแม่เขา

    ยกให้เป็นสินสอดสู่ขอสาวเปี่ยง สาวเปี่ยงไม่ตอบ หันไปพูดกับสาวอ่อน “ได้เมือบาท

    หนึ่งแล้วเจ้า สาบานบ่ว่าสิบ่มาหนองผืออีก แล้วสิบ่ไปขอปันมูลปันมังกับแม่ย่าทาง

    หนองไหลอีก”สาวเปี่ยงถามสาวอ่อน สาวอ่อนยิ้มเต็มหน้า “สาบาน ข่อยเลยเมือหนอง

    งัวซอเลยกะได้บ่อยู่หนองไหลอีกดอก อีพ่อกะตายแล้วจักสิอยู่เฮ็ดหยังเอื้อยน้องกะอยู่

    เฮือนไผ๋เฮือนมัน” สาวอ่อนพูดเหมือนไม่ใส่ใจ สาวเปี่ยงแกะห่อผ้าเล็ก ๆ ออกหยิบ

    สร้อยทองออกมาหนึ่งเส้นส่งให้สาวอ่อน “มีหลายบาทแบ่งให้ข่อยบาทเดียวหนึ่งเน๊าะ”

    สาวอ่อนบ่นเบา ๆ “ฟ้าวเอาละฟ้าวเมือ สวยแล้ว”ทิดมาพูดออกมาด้วยความโกรธสาว

    อ่อนยิ้ม “ให้เจ้าอยู่กันจนเฒ่าจนแก่เด้อ” เธออวยพรทิดมากับสาวเปี่ยงแล้วเดินยิ้มร่าจาก

    ไป สาวเปี่ยงนั่งลงบนแคร่อย่างคนหมดแรง ทิดมานั่งลงข้าง ๆ ยกมือโอบไหล่เมีย

    รัก ครั้งแรกที่เขาแสดงความรักใคร่ สงสารเมียรัก สาวเปี่ยงหันมายิ้มให้สามี “ฟาด

    เคราะห์ไปแล้วล่ะอ้ายทิด” สาวเปี่ยงพูดปลอบสามี “อ้ายสิหาเงินซื้อให้ใหม่” ทิดมายังคง

    ติดใจกับของที่เมียรักให้สาวอ่อนไป “ของหมู่นี่อยู่นำไผ๋บ่ดนดอก บ่ตายหาใหม่กะ

    ได้” สาวเปี่ยงพูดให้กำลังใจสามี หลังจากนั้นไม่นาน มีคนมาส่งข่าวทิดมาว่าสาวอ่อน

    กลับไปหนองงัวซอแล้ว และคงไม่กลับมาหนองไหลอีกเป็นแน่ สาวเปี่ยงอวยพรในใจ

    ให้เธอโชคดี สาวเปี่ยงยังคงทอผ้า ทิดมาไปเลี้ยงควายเช่นเดิม ชีวิตของทั้งสองกลับ

    มามีความสุขอีกครั้ง สาวเปี่ยงคลอดลูกชายคนแรก ลูกชายสาวเปี่ยงเป็นหลานพ่อใหญ่

    คนแรกของแพทย์ฮง และนางเคน ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบ และมีทายาทรวม

    ทั้งหมด 8 คนเป็นครอบครัวใหญ่มั่งคั่ง สืบมา....


    รอยรัก รอยอดีตบ่มีภาค 3 4 5 เด้อค่ะ พักยกไปหาข้อมูลมาเขียนเรื่องต่อไปอีกค่ะ


    ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะสำหรับการติดตามให้กำลัง ขอบคุณบ้านมหา
    ที่มีที่ทางให้เขมราฐได้เฮ็ดในสิ่งที่รัก ขอบคุณภาษาไทย ที่เขมราฐเอามาเรียงร้อยเป็นเรื่องเป็นราว

    ขอบคุณเว็บมาสเตอร์ ขอบคุณเอื้อยอ้ายผู้อ่าน ผู้ติดตามตั้งแต่ภาคแรก จนจบ

    ขอบคุณทุกคนที่ยังไม่ขอบคุณ

    ที่สำคัญ อีพ่อ กับอีแม่ ขอบคุณค่ะ ธุจ้าธุจ้าธุจ้า
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เขมราฐ; 20-03-2011 at 14:05.

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •